แรงงานขาดแคลนระบาดทั่วโลก กระทบคาดการณ์การเติบโตของธุรกิจ

07 Feb 2013

กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--แกรนท์ ธอร์นตัน

ธุรกิจทั่วโลกตอนนี้กำลังเกิดปัญหาขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะซึ่งส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ โดยผลการสำรวจล่าสุดจากรายงานผลการสำรวจธุรกิจนานาชาติของแกรนท์ ธอร์นตัน (The Grant Thornton International Business Report: IBR) ซึ่งนำเสนอว่า 4 ใน 10 (39%) ของธุรกิจทั่วโลกต้องใช้ความพยายามอย่างสูงสุดเพื่อหาบุคลากรที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการ ทั้งนี้ การขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะทางเทคนิคนั้นเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุด (64%) และสร้างความวิตกกังวลว่าจะกระทบความสามารถในการผลิตของผู้ประกอบการ ซึ่งท้ายที่สุดก็จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการเติบโตและความสามารถในการทำกำไรของบริษัท

ทอม โซเรนเซน พาร์ทเนอร์และหัวหน้าสายงานการจัดจ้างบุคลากรระดับผู้บริหาร ของแกรนท์ ธอร์นตัน ในประเทศไทย กล่าวว่า “แท้จริงแล้ว กลุ่มเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้วยังมีอัตราการว่างงานในระดับสูง ดังนั้น ผลการสำรวจที่ว่านักบริหารธุรกิจกำลังกังวลกับการขาดแคลนแรงงานมีทักษะนั้นจึงบังเอิญเป็นเหมือนการเสียดสีข้อเท็จจริง ทั้งนี้ ผมเห็นว่าในระยะสั้น นักบริหารธุรกิจจำเป็นต้องถ่ายทอดทักษะให้กับแรงงานภายนอกองค์กรเพื่อเติมเต็มช่องว่างทางความรู้ความสามารถให้ได้อย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ในระยะยาว นักบริหารธุรกิจจำเป็นต้องลงทุนกับโครงการอบรมให้ความรู้ภายในองค์กรเพื่อหล่อหลอมบุคลากรและจะเสริมสร้างให้พวกเขาสามารถทำงานเชิงยุทธศาสตร์ เกิดการพัฒนา และมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานต่อไป”

ทอม โซเรนเซน กล่าวเสริมว่า “แม้แต่สหประชาชาติ (United Nations) ยังรายงานไว้เมื่อหลายปีก่อนว่ากลุ่มผู้ใช้แรงงานจะมีจำนวนลดลงอย่างรุนแรงทั่วโลก ซึ่งประเทศจีนและสิงคโปร์กำลังประสบกับภาวะขาดแรงงานทั้งในปัจจุบันและอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ส่วนประเทศไทยจะเข้าสู่สภาวะดังกล่าวในช่วง 2020-2025 ดังนั้น หากคุณคิดว่าตอนนี้แรงงานหาได้ยากอยู่แล้ว ในความเป็นจริง ผมคิดว่าปัญหาจะรุนแรงมากขึ้นอีกหลายเท่า”

“การประกอบธุรกิจนั้นไม่อาจดำเนินไปได้โดยปราศจากบุคลากร การมอบหมายให้ทีมงานที่มีประสิทธิภาพทำงานที่ธรรมดาๆ มักจะประสบความสำเร็จได้มากกว่าการให้ทีมงานที่ไร้ความสามารถดำเนินงาน เพราะบุคลากรชั้นเลิศช่วยเพิ่มความสามารถในการผลิตให้กับองค์กร ทั้งยังช่วยให้องค์กรประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย และส่งผลให้ธุรกิจเกิดการเติบโต ดังนั้น ในระยะยาว ผู้บริหารธุรกิจต้องมั่นใจว่าโครงการฝึกอบรมพนักงานของบริษัทของตนจะเอื้อต่อการผลิตบุคลากรที่มีความสามารถอย่างยั่งยืน”

ในการนี้ ทั้งในกลุ่มเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้วและกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ล้วนประสบกับปัญหาขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะเชิงเทคนิค โดย 61% ของธุรกิจในกลุ่มเศรษฐกิจ BRIC และ 65% ของธุรกิจในกลุ่มประเทศ G7 ระบุถึงปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ การขาดประสบการณ์ในการทำงาน (56%) และการขาดคุณสมบัติที่เหมาะสม (54%) ก็เป็นปัญหาที่ได้รับการกล่าวถึงเช่นกัน นอกจากนี้ 1 ใน 5 ของผู้บริหารธุรกิจ (21%) กล่าวว่ากฎระเบียบเพื่อตรวจสอบคนเข้าเมืองยังเป็นปัญหาอีกด้วย

ผลกระทบจากปัญหาเรื่องแรงงานต่อคาดการณ์การเติบโตของธุรกิจนั้นมีหลักฐานสนับสนุนอันชัดเจน กล่าวคือ รายงาน IBR เปิดเผยว่ากว่า 1 ใน 4 ของธุรกิจ (28%) คาดว่าแผนการขยายธุรกิจในปี 2013 จะต้องประสบกับปัญหาเนื่องจากขาดแคลนแรงงานมีทักษะ ส่วนกลุ่มเศรษฐกิจ BRIC ก็มีการรายงานในลักษณะเดียวกันหากทว่าอยู่ในระดับที่รุนแรงกว่า โดยอยู่ที่กว่า 1 ใน 3 (36%) ซึ่งผลการสำรวจนี้ลดลงจาก 35% ทั่วโลกในช่วงก่อนเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงิน ซึ่งสมัยนั้นอัตราการจ้างงานนั้นสูงกว่าในปัจจุบันอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว

มร. โซเรนเซน กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราได้เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นจากการเจรจาระหว่างสถาบันการศึกษา รัฐบาล และผู้บริหารธุรกิจอยู่แล้ว แต่รายงานฉบับนี้น่าจะส่งผลให้มีแรงผลักดันในเรื่องใหม่ๆ เกิดขึ้นได้ เพราะยังคงมีความไม่เชื่อมโยงกันในสถานการณ์ที่ว่าผู้บริหารธุรกิจนั้นมีความต้องการอย่างมากในการว่าจ้างแรงงานมีทักษะ ส่วนผู้ที่ว่างงานจำนวนมากก็ยังคงกำลังหางานทำ

“สถานการณ์เช่นนี้ทำให้เกิดความสูญเปล่าทางด้านทรัพยากรบุคคล ซึ่งไม่เป็นผลดีทั้งต่อธุรกิจและผู้ที่ว่างงาน ในที่สุดแล้ว การเติบโตของเศรษฐกิจก็จะได้รับผลกระทบ โดยธุรกิจจะมีข้อจำกัดในการขยายตัว และบุคคลที่ว่างงานก็ไม่มีรายรับเพียงพอที่จะใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการ ซึ่งจะก่อให้เกิดวงจรอันไม่พึงประสงค์ ดังนั้น ผมขอเสนอแนะว่าการพัฒนาทักษะของบุคลากรควรจะได้รับการยกระดับความสำคัญ และบรรจุอยู่ในนโยบายสาธารณะ”

หมายเหตุ

รายงานผลการสำรวจธุรกิจนานาชาติของแกรนท์ ธอร์นตัน หรือ Grant Thornton International Business Report (IBR) นำเสนอทัศนคติและความคาดหวังของกว่า 12,500 ธุรกิจจาก 44 กลุ่มประเทศเศรษฐกิจในแต่ละปี โดยเป็นการสำรวจที่มีลักษณะเฉพาะคือมีการนำผลการสำรวจจากปีที่ผ่านๆ มามาจัดทำแนวโน้มข้อมูลซึ่งรวมถึง 21 ปีจากหลายประเทศในยุโรปและ 10 ปีจากหลายประเทศนอกเหนือทวีปยุโรป ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.internationalbusinessreport.com

การเก็บข้อมูล

การเก็บข้อมูลนั้น บริหารจัดการโดยบริษัทวิจัย Experian โดยจัดทำผ่านการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์เป็นหลัก และแบบสอบถามจะถูกแปลเป็นภาษาของแต่ละประเทศ โดยนอกเหนือจากคำถามหลักแล้ว แต่ละประเทศสามารถเพิ่มเติมคำถามที่สำคัญหรือเจาะจงเกี่ยวกับประเทศตนเองได้ การเก็บข้อมูลได้จัดทำทุกไตรมาส

กลุ่มตัวอย่างIBR เป็นการสำรวจทัศนคติของนักธุรกิจในบริษัทเอกชนทั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ สำหรับผลสำรวจในหัวข้อนี้ได้มาจากการสัมภาษณ์ผู้บริหารจำนวน 6,400 รายทั่วโลกในช่วงเดือนสิงหาคมถึงธันวาคม ปี 2555 ที่ผ่านมา ครอบคลุมทุกกลุ่มอุตสาหกรรม กลุ่มตัวอย่างได้แก่ผู้บริหารในระดับประธานกรรมการบริษัท กรรมการบริหาร ประธาน และผู้บริหารอาวุโส

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ ลักษณ์พิไล วรทรัพย์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร แกรนท์ ธอร์นตัน โทร: 02 205 8142 อีเมล์: [email protected]

-นท-