สมาคมรองเท้าไทยเชื่อมสัมพันธ์นิคมอุตสาหกรรมพิเศษปอยเปตโอเนียงยกระดับความร่วมมือธุรกิจไทย-กัมพูชา

26 Feb 2013

กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--สมาคมรองเท้าไทย

เมื่อวันที่ 20-22 กุมภาพันธ์ 2556 นายชนินทร์ จิตต์โกมุท นายกสมาคมรองเท้าไทย และนายบุญเลิศ เป้าวิสิทธิ์ อุปนายกอาวุโสฯ ได้นำคณะผู้แทนการค้าจากอุตสาหกรรมรองเท้าของไทย ร่วมเดินทางไปพร้อมคณะผู้แทนจากรัฐบาลและหน่วยงานภาคเอกชน โดยมี ดร.โอฬาร ไชยประวัติ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเป็นประธานผู้แทนการค้าไทยในการเดินทางไปเชื่อมสัมพันธ์เพื่อยกระดับความร่วมมือธุรกิจไทย-กัมพูชา ทั้งนี้หน่วยงานและองค์กรที่ร่วมเดินทางประกอบไปด้วย สำนักงานผู้แทนการค้าไทย (TTR), กรมการค้าต่างประเทศ (DFT), กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ (DTN), กรมศุลกากร, สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI), กรมเอเชียตะวันออก, กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ, สำนักความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน, EXIM BANK, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารไทยพาณิชย์, สมาคมรองเท้าไทย, สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย, สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จากการพบปะเจรจาระหว่างคณะผู้แทนการค้าของไทยและผู้แทนจากบริษัท CHHAY CHHAY INVESTMENT ซึ่งเป็นผู้บริหารโครงการเขตนิคมอุตสาหกรรมพิเศษปอยเปตโอเนียง (POIPET O’NEANG SPECIAL ECONOMIC ZONE - POSEZ) ทำให้มีแนวโน้มที่กลุ่มอุตสาหกรรมหลักจากประเทศไทยโดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมรองเท้า มีความสนใจที่จะเข้าไปลงทุนสร้างโรงงานในเขตนิคมอุตสาหกรรมพิเศษปอยเปตโอเนียง รวมทั้งในเขตอุตสาหกรรมพิเศษอื่นๆทั้งในเขตศรีโสภณ และบริเวณเขตส่งเสริมการลงทุนพิเศษห่างจากกรุงพนมเปญราว 20 กิโลเมตรในอำเภอตาขะเมา จังหวัดกันดาล เพื่อให้นักลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมรองเท้าจากไทยได้รับสิทธิประโยชน์ทั้งในด้านแรงงาน ด้านการส่งเสริมการลงทุนงดเว้นการจ่ายภาษีต่างๆจากกัมพูชา และได้รับสิทธิพิเศษจากข้อผ่อนปรนที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศในกลุ่มยุโรปรวมทั้งอีกนานาประเทศที่ล้วนสนับสนุนประเทศกัมพูชาในการงดเว้นภาษีนำเข้าสินค้าที่ผลิตและส่งออกจากกัมพูชาให้มีอัตราภาษีเป็นศูนย์ พร้อมกันนี้ ดร.โอฬาร ไชยประวัติ ประธานผู้แทนการค้าไทย และ ท่านธัชชยุติ ภักดี เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ยังได้กล่าวเสริมว่า “ประเทศกัมพูชายังคงมีความต้องการและยังเปิดกว้างในการลงทุนจากฝั่งไทยอยู่เสมอ นอกจากที่เราจะมีความสัมพันธ์อันดีกับเขาในด้านการลงทุนแล้ว เขายังมีทรัพยากรแรงงานที่พร้อมจะเข้าสู่ระบบการฝึกอบรมให้เป็นแรงงานฝีมือที่มีคุณภาพและเขาเองก็ยังมีความต้องการที่จะขยายระบบสาธารณูปโภคและการขนส่งระหว่างไทยกับกัมพูชาให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้นไปอีกในอนาคต กลุ่มอุตสาหกรรมรองเท้าของไทยและผู้แทนการค้าจากสมาคมรองเท้าไทยจึงควรเร่งแสวงหาประโยชน์จากข้อได้เปรียบนี้ให้มากยิ่งขึ้นเช่นกัน เพราะขณะนี้กลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยหลายบริษัทก็ได้ขยับเข้ามาลงทุนในกัมพูชาหลายรายแล้ว”

-กผ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net