กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--แมสคอท คอมมิวนิเคชั่น
จากสถิติตัวเลขด้านโรคมะเร็งของกระทรวงสาธารณสุขปี 2552 พบว่า คนไทยป่วยเป็นโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น 23% และพบว่าอัตราการเสียชีวิตของประชากรจากโรคมะเร็งสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ซึ่งโรคเป็นโรคที่พบได้บ่อย และเป็นปัญหาที่สำคัญต่อระบบสุขภาพในประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาการรักษาโรคมะเร็งยังมีข้อจำกัด ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีและค่าใช้จ่ายที่คนไข้ต้องแบกรับอยู่จำนวนมาก
พลอากาศตรีชูพันธ์ ชาญสมร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กล่าวว่า จากยอดผู้ป่วยโรคมะเร็งของโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชมีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่สามารถรองรับการรักษาได้อย่างทั่วถึง และมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ต้องคิวรอรับการรักษาเป็นเวลานาน จึงได้ประสานความร่วมมือมายังโรงพยาบาลวัฒโนสถ ซึ่งนับเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านโรคมะเร็งที่มีศักยภาพสูง โดยได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการส่งต่อผู้ป่วยนอกเพื่อรับบริการรังสีรักษา” ร่วมกับโรงพยาบาลวัฒโนสถ โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านโรคมะเร็ง ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ และโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล นวมินทร์ เพื่อเพิ่มศักยภาพการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง ด้วยเทคโนโลยีรังสีรักษาที่ทันสมัย ให้กับผู้ป่วยทุกกลุ่ม ในการส่งต่อผู้ป่วยมะเร็งเพื่อรับการรักษา เพราะการส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่มีความพร้อมด้านการรักษาจะช่วยเพิ่มโอกาสการรักษาได้รวดเร็วและทันท่วงทีต่อโรค ไม่ต้องเสียเวลารอคิวเพื่อรับการรักษาจากทางโรงพยาบาลภาครัฐซึ่งอาจใช้ระยะเวลานาน การส่งต่อผู้ป่วยมะเร็งให้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว จะทำให้โอกาสในการช่วยให้ผู้ป่วยมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยาวขึ้น”
นพ.ชาตรี ดวงเนตร กรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) และประธานคณะผู้บริหารศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ เปิดเผยว่า โรงพยาบาลวัฒโนสถ เป็นโรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางด้านโรคมะเร็ง และโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล นวมินทร์ โดยโรงพยาบาลวัฒโนสถ ซึ่งทั้ง 2 โรงพยาบาลนี้อยู่ในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ เรามีความพร้อมและความชำนาญในการให้บริการทางการแพทย์อย่างครบครันเฉพาะทางด้านรังสีรักษา และเพื่อการพัฒนาประสิทธิภาพของการรักษาในประเทศไทยให้มีคุณภาพมากขึ้น และยกระดับคุณภาพในการดูแลและให้บริการผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงได้จับมือร่วมกับโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช ทำบันทึกข้อตกลงในการบริการส่งต่อผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชที่เป็นโรคมะเร็งหรือโรคอื่น ๆ ที่ต้องเข้ารับบริการรังสีรักษา ตามที่แพทย์รังสีรักษาของโรงพยาบาลดังกล่าวระบุในหนังสือส่งตัว โดยค่าใช้จ่ายในการรักษายังคงเป็นไปตามเงื่อนไขของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานประกันสังคมหรือกรมบัญชีกลางที่คนไข้ถือสิทธิ
“รพ.วัฒโนสถให้ความสำคัญกับทุกการรักษาที่จะช่วยชีวิตผู้ป่วยให้รอดจากโรคร้าย ด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางการรักษา ทำให้ผู้ป่วยมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างมีคุณภาพยืนยาวขึ้น” นพ.ชาตรี กล่าวและบอกว่า จากความร่วมมือในบันทึกข้อตกลงนี้แพทย์รังสีรักษาของโรงพยาบาลภูมิพล อดุลยเดชจะทำหนังสือส่งตัวผู้ป่วยเพื่อมารักษาด้วยรังสีรักษาที่ รพ.เปาโล นวมินทร์ และหากการรักษานั้นต้องใช้เทคนิคที่สูงขึ้น เช่น IGRT(ภาพรังสีนำวิถี), 3D (ระบบประมวลภาพเป้าหมายแบบ 3 มิติ) และ SRS (รังสีศัลยกรรมด้วยเครื่อง Gamma knife หรือ Novalis) และอื่นๆ ตามเงื่อนไขของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือสำนักงานประกันสังคม เป็นต้น และ/หรือตามมติที่ประชุมคณะแพทย์สหสาขา Tumor Conference ของโรงพยาบาลวัฒโนสถเห็นว่าผู้ป่วยมีควมจำเป็นจะต้องได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลวัฒโนสถ โรงพยาบาลเปาโล นวมินทร์จะส่งผู้ป่วยมายังโรงพยาบาลวัฒโนสถเพื่อทำการรักษาต่อไป
พลตรีนายแพทย์นิวัฒน์ บุญยืน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวัฒโนสถ กล่าวเสริมว่า โรงพยาบาลวัฒโนสถเป็นโรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางด้านโรคมะเร็ง ที่พร้อมให้บริการผู้ป่วยด้วยการใช้เครื่องมือทางรังสีรักษาที่ทันสมัย อาทิ การรักษาด้วยรังสีระยะใกล้ (ฝังแร่) Brachytherapy เป็นวิธีการรักษาโดยให้ต้นกำเนิดรังสีอยู่ใกล้กับบริเวณที่จะทำการรักษาก้อนมะเร็ง ทำให้บริเวณที่อยู่ใกล้ต้นกำเนิดรังสีได้รับปริมาณรังสีสูง ในขณะที่เนื้อเยื่อปกติได้รับปริมาณรังสีในระดับน้อย ตลอดจนเทคโนโลยีเครื่องเร่งอนุภาค Linear Accelerator (LINAC) เป็นเครื่องฉายรังสีที่ใช้กระแสไฟฟ้าในการผลิตรังสีเอ็กซเรย์พลังงานสูง โดยสามารถแบ่งระดับพลังงานของรังสีเอ็กซ์ และ การรักษามะเร็งด้วยการฉายรังสีระบบ 3 มิติ (Novalis) และเครื่องฉายรังสี Volumetric Modulated Arc Therapy (VMAT) ให้ความถูกต้องและแม่นยำในการรักษาสูง เหมาะสำหรับรอยโรคขนาดเล็กและอยู่ใกล้กับอวัยวะที่มีความไวต่อรังสีมาก กล่าวได้ว่า การวางแผนการรักษาด้วยเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ทำให้แพทย์สามารถกำหนดการกระจายของรังสีในเป้าหมายให้พอดีกับขนาดของเป้าหมาย ช่วยลดความเสียหายของเนื้อเยื่อหรืออวัยวะปกติที่อยู่รอบๆ ได้ ทั้งนี้นอกจากความพร้อมของอุปกรณ์ทางการแพทย์แล้ว เรามีบุคลากรทางการแพทย์ที่จะให้การดูแลและรักษาผู้ป่วยอย่างเต็มที่ ด้วยคณะแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญ นอกจากนี้เรายังได้ถ่ายทอดความรู้และเทคนิคต่างๆ ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ เพื่อสร้างความชำนาญในการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะให้การดูแลสุขภาพของคนไทยให้มีความเท่าเทียมและได้มาตรฐานระดับสากล
ด้าน นายอัฐ ทองแตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือโรงพยาบาลพญาไทและเครือโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล กล่าวว่า “โรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล นวมินทร์ จะเป็นโรงพยาบาลที่รับส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลภูมิพลฯ โดยตรงในขั้นแรก แต่ด้วยข้อจำกัดของการรักษาในผู้ป่วยบางรายอาจจำเป็นต้องส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลวัฒโนสถเพื่อรักษาด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูงต่อไป ซึ่งเป็นการร่วมผนึกกำลังใช้จุดแข็งของทุกโรงพยาบาลมาร่วมกันให้บริการผู้ป่วยทุกระดับของคนไทย ให้เข้าถึงการรักษาโดยรังสีรักษา ที่ทันสมัย ใช้เทคโนโลยีระดับสูงและมีราคาแพงได้อย่างเท่าเทียมกัน
โดยก่อนหน้านี้ เครือโรงพยาบาลเปาโล ได้มีความร่วมมือกับโรงพยาบาลวัฒโนสถ เปิดศูนย์มะเร็ง โรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล โดยโรงพยาบาลวัฒโนสถ เพื่อรองรับกลุ่มผู้ใช้บริการที่ไม่สามารถใช้บริการตรงกับโรงพยาบาลวัฒโนสถได้ เนื่องจากเหตุปัจจัยหลายๆ อย่าง อาทิ ปัจจัยด้านการเดินทางสำหรับคนที่อยู่ในย่านชานเมือง, ปัจจัยด้านประกันสุขภาพที่ไม่ครอบคลุม และวงเงินการรักษาพยาบาลที่จำกัด ทำให้โรงพยาบาลเปาโลมีความพร้อมด้านการป้องกันและดูแลรักษาโรคมะเร็ง แบบครบวงจร ตั้งแต่การตรวจหามะเร็งในระยะแรก การวางแผน การรักษาเมื่อตรวจพบ จนกระทั่งถึงการรักษาแบบการฉายรังสีเพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของ โรคมะเร็งในอวัยวะต่างๆ ได้ในระดับหนึ่ง” -กภ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit