สรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์เดือนสิงหาคม 2555

14 Sep 2012

กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--ตลท.

ในเดือนสิงหาคม 2555 มีทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบที่กระทบตลาดทุนโลก โดยมาตรการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจยุโรปยังคงมีความไม่แน่นอน ความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาปรับดีขึ้น และการลงทุนในตลาดทุนไทยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ที่ออกมาดี

ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2555 SET Index ปิดที่ 1,227.48 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 19.72% จากสิ้นปี 2554 และปรับเพิ่มขึ้น 2.35% จากสิ้นเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดในภูมิภาค ขณะที่ market capitalization ของ SET และ mai ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องโดยมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 10,268,461 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.02% จากสิ้นปี 2554 และเพิ่มขึ้น 2.40% จากสิ้นเดือนก่อนหน้า ในด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai ในเดือนสิงหาคม 2555 อยู่ที่ 29,366 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.06% จากเดือนก่อนหน้า สำหรับภาวะการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ในเดือนสิงหาคม 2555 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 42,038 สัญญา ลดลง 3.09% จากเดือนก่อน

สรุปตัวเลขที่สำคัญ

ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย

  • ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2555 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ปิดที่ 1,227.48 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 19.72% จากสิ้นปี 2554 และปรับเพิ่มขึ้น 2.35% จากสิ้นเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดในภูมิภาค
  • Market capitalization ของ SET และ mai ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2555 ปรับสูงขึ้นตามดัชนีตลาดหลักทรัพย์ โดยของ SET อยู่ที่ 10,175,882 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.03% จากสิ้นปี 2554 และเพิ่มขึ้น 2.35% จากสิ้นเดือนก่อนหน้า ขณะที่ mai อยู่ที่ 92,579 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.75% จากสิ้นปี 2554 และเพิ่มขึ้น 7.37% จากสิ้นเดือนก่อนหน้า
  • Forward P/E ratio ของ SET อยู่ที่ 13.25 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 12.14 เท่า ณ ช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นจาก 12.84 เท่า ณ สิ้นเดือนก่อนหน้า ขณะที่ mai อยู่ที่ 12.89 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 10.51 เท่า ณ ช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 12.20 เท่า ณ สิ้นเดือนก่อนหน้า
  • อัตราเงินปันผลตอบแทนของ SET สูงเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาค โดยอยู่ที่ระดับ 3.75% ลดลงจาก 3.81% ณ ช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้นจาก 3.59% ณ สิ้นเดือนก่อนหน้า สำหรับตลาดหลักทรัพย์ mai มีอัตราเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ 2.30%
  • ดัชนีหลักทรัพย์รายอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนก่อนหน้าและสิ้นปี 2554 ดัชนีหลักทรัพย์รายอุตสาหกรรมปรับขึ้นค่อนข้างมากในกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มบริการ กลุ่มธุรกิจการเงิน และกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร เนื่องจากบริษัทขนาดใหญ่บางแห่งในกลุ่มดังกล่าวมีผลประกอบการดีขึ้น
  • ในเดือนสิงหาคม 2555 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวม SET และ mai อยู่ที่ 29,366 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.06% จากเดือนก่อนหน้า แต่ลดลง 21.48% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2555 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 29,852 ล้านบาท ลดลง 7.22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • ในเดือนสิงหาคม 2555 ผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิรวม 1,844 ล้านบาท ขณะที่ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2555 ผู้ลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิรวม 62,778 ล้านบาท
  • ด้านการระดมทุน บริษัทจดทะเบียนระดมทุนในรูปตราสารทุนมูลค่า 678 ล้านบาท โดยมีการระดมทุนในตลาดแรก 120 ล้านบาท จาก บมจ. ทีวี ไดเร็ค (TVD) และมีการระดมทุนในตลาดรอง 558 ล้านบาท สำหรับในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2555 มีมูลค่าระดมทุนรวม 74,116 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
  • ในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิรวม 346,602 ล้านบาท ลดลง 14.86% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นและผลของการขาดทุนสต็อกสินค้าคงคลัง อย่างไรก็ดีกำไรสุทธิที่ลดลงกระจุกตัวอยู่ในบริษัทขนาดใหญ่ในบางอุตสาหกรรม ขณะที่ภาพรวมกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นยังคงขยายตัวดีจากยอดขายที่ปรับสูงขึ้น โดยมีจำนวนบริษัทจดทะเบียนที่มีผลกำไรสุทธิในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 ถึง 431 บริษัท คิดเป็น 79.37% ของจำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด

ภาวะตลาดอนุพันธ์

  • ในเดือนสิงหาคม 2555 ตลาดอนุพันธ์มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 42,038 สัญญา ลดลง 3.09% จากเดือนก่อนหน้า จากการลดลงของ SET50 Index Futures อย่างไรก็ดีในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2555 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 43,489 สัญญา เพิ่มขึ้น 12.83% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ SET50 Index Futures, 10 Baht Gold Futures และ USD Futures

ผู้สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.set.or.th/setresearch หรือสอบถาม S-E-T Call Center โทร. 0 2229 2222 -กภ-