บอสใหญ่ทีมท็อฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ลัดฟ้าเยือนไทยตอกย้ำความเป็นพันธมิตร ลูกหนังระดับโลก ยาวนานเกือบทศวรรษ

19 Jul 2012

กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--ไทยเบฟเวอเรจ

โรเบิร์ต เอลสโตน บอสใหญ่แห่งถิ่นกูดิสัน พาร์ค สโมสรเอฟเวอร์ตัน ทีมดังแห่งเกาะอังกฤษ เดินทางมาเยือนเมืองไทยร่วมเสวนาลูกหนังแบบเอ็กคลูซีฟกับผู้บริหารระดับสูงวงการลูกหนังเมืองไทย ถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้ในการบริหารสโมสรของอังกฤษ มาถ่ายทอดให้กับสโมสรในไทย แย้มเตรียมฟื้นโครงการ “ช้างไทยไปเอฟเวอร์ตัน” ให้กลับมากระหึ่มอีกครั้ง

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ “เครื่องดื่มตราช้าง” ถือเป็นผู้ให้การสนับสนุนวงการฟุตบอลมาอย่างยาวนานทั้งในประเทศด้วยการสนับสนุนสโมสรฟุตบอลกว่า 30 สโมสร รวมถึงทีมชาติไทยและระดับโลก โดยเฉพาะกับ “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน สโมสรฟุตบอลเก่าแก่และโด่งดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ “ช้าง” เป็นบริษัทไทยบริษัทแรกที่เข้ามาสนับสนุนทีมฟุตบอลในอังกฤษ และผู้สนับสนุนหลักกลางอกเสื้อมาอย่างยาวนานกว่า 8 ฤดูกาล ตั้งแต่ปีพ.ศ.2547 นับได้ว่าเป็นผู้สนับสนุนหลักที่ยาวนานที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ฟุตบอลเมืองผู้ดี

มร.โรเบิร์ต เอลสโตน ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน ได้เดินทางมายังประเทศไทยในวันที่ 15 ก.ค.ซึ่งการเดินทางมาเมืองไทยครั้งนี้ของบอสใหญ่เอฟเวอร์ตันนั้น นอกจากเข้าพบกับผู้บริหารระดับสูงของไทยเบฟฯ แล้ว ในวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา ช่วงเช้ามร.โรเบิร์ต ได้เดินทางไปมอบอุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนป่าไม้อุทิศ 9 จ.นนทบุรี ที่ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อช่วงปลายปี 2554 นายสมชัย สุทธิกุลพานิช รองกรรมการ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวถึงงานในครั้งนี้ว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างช้างและเอฟเวอร์ตัน มีความผูกพันมานานกว่า 8 ปี เสมือนคนในครอบครัว ทุกครั้งที่เราประสบปัญหาภัยธรรมชาติ เอฟเวอร์ตันจะยื่นมือเข้ามาช่วยทันที เริ่มจากตอนที่ประเทศไทยประสบภัยพิบัติสึนามิ ที่ภาคใต้โดยที่ทางเราไม่ได้เรียกร้อง แต่ทางเอฟเวอร์ตันเต็มใจและอาสาที่จะรวบรวมทุน และรับบริจาคเงิน นำมาช่วยสร้างบ้านให้กับชาวบ้านที่ประสบภัยสึนามิที่บ้านน้ำเค็มจำนวน 50 หลัง และสร้างสนามฟุตบอลให้เด็กๆ งานครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เอฟเวอร์ตันให้การสนับสนุนฟุตบอล และจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยน้ำท่วม เมื่อปีที่แล้ว เอฟเวอร์ตันได้ให้ความช่วยเหลือเราเช่นกัน ในครั้งนี้ทางเอฟเวอร์ตันร่วมกับโครงการพลังน้ำใจไทย ช่วยหาทุนเพื่อช่วยฟื้นฟูโรงเรียนที่ประสบปัญหาอุทกภัยที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้โครงการพลังน้ำใจไทยได้ดูแลโรงเรียนทั้งหมด 85 โรงเรียน โดยกิจกรรมช่วงเช้าได้พาผู้บริหารเอฟเวอร์ตันไปเยี่ยมโรงเรียนป่าไม้อุทิศ ๙ ที่จังหวัดนนทบุรี มร.โรเบิร์ต ประทับใจมากที่ทางโรงเรียนสามารถฟื้นตัวกลับมาเหมือนเดิมได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ตกใจมากที่ปริมาณน้ำสูงถึง 3 เมตร ไม่เคยพบว่าน้ำจะสูงขนาดนี้ แต่ก็ยังชื่นชมว่าเด็กๆมีกำลังใจดี มีความมุ่งมั่น และมีความพยายามที่จะช่วยเหลือตนเองด้วย ช้างและเอฟเวอร์ตันคงมีโอกาสได้ร่วมงานช่วยเหลือชุมชนกันต่อไป”

ทางด้าน มิสเตอร์โรเบิร์ต เอลสโตน ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน กล่าวว่า “ รู้สึกยินดีมากที่ได้มาเยือนเมืองไทยอีกครั้ง การได้พบกับผู้บริหารของ “ช้าง” เปรียบเสมือนการได้พูดคุยกับเพื่อนสนิทหรือว่าญาติพี่น้องเพราะมีความสัมพันธ์กันมายาวนานกว่า 8 ปี ช้างและ เอฟเวอร์ตัน ไม่ได้เป็นเพียงพันธมิตรด้านกีฬา เรายังมีความผูกพันและความห่วงใยกับคนไทยและประเทศไทย จะเห็นได้จากมหาอุทกภัยในปี 2554 ที่ผ่านมา สโมสรเอฟเวอร์ตันได้แสดงน้ำใจ ขอเข้าร่วมโครงการพลังน้ำใจไทย โดยการจัดทำเสื้อทีมเอฟเวอร์ตันรุ่นพิเศษ โดยสกรีนสัญลักษณ์พลังน้ำใจไทยลงบนอกเสื้อ ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก นัดพบกับทีมนอริช ซิตี้ ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพื่อระดมเงินบริจาคช่วยเหลือคนไทยผู้ประสบอุทกภัย และย้อนกลับไปเมื่อปี2548 โดยทางช้างและเอฟเวอร์ตัน ระดมเงินจำนวน 10 ล้านบาท ร่วมกันสร้างหมู่บ้านช้าง-เอฟเวอร์ตัน รวม 50 หลัง ที่บ้านน้ำเค็ม อ.ตะกัวป่า จ.พังงา ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุภัยพิบัติสึนามิในปี 2547 สองสิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ระหว่างเอฟเวอร์ตันกับช้าง รวมถึงกับคนไทยได้เป็นอย่างดี ”

ในขณะที่ นายชลัท ทิพย์ลมัย ผู้อำนวยการโรงเรียนป่าไม้อุทิศ ๙ กล่าวว่า “เมื่อครั้งเหตุการณ์อุทกภัยน้ำท่วมเมื่อปีที่ 2554 ทางโรงเรียนป่าไม้อุทิศ ๙ ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนั้นเป็นอย่างมาก อุปกรณ์การเรียนต่างๆ รวมถึงอาคารเรียนได้รับความเสียหาย ทางไทยเบฟพร้อมด้วยจิตอาสาจากโครงการพลังน้ำใจไทย ได้เข้ามาช่วยซ่อมแซมอาคารเรียน ทาสีโรงเรียน ให้กลับมาเหมือนเดิม ทำให้โรงเรียนสามารถเปิดได้ทันตามกำหนด เด็กๆในโรงเรียนแห่งนี้ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ในการมามอบอุปกรณ์กีฬา เครื่องเขียน จากผู้บริหารเอฟเวอร์ตันในครั้งนี้ กระผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตันมามอบโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กๆ นักเรียนที่นี้ส่วนใหญ่ชอบกีฬาฟุตบอลและมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักฟุตบอล พอรู้ข่าวว่าจะมีผู้บริหารเอฟเวอร์ตันเดินทางมาที่โรงเรียนป่าไม้อุทิศ ๙ เด็กๆหลายคนตื่นเต้นและดีใจ หันมาฝึกซ้อมฟุตบอลกันก่อนที่ทางเอฟเวอร์ตันจะมาถึง การมาของเอฟเวอร์ตัน ทำให้เด็กๆรู้จักและชื่นชอบทีมเอฟเวอร์ตันมากขึ้น”

สำหรับงานเอ็กคลูซีฟ ดินเนอร์ ในช่วงเย็นที่ โรงแรม พลาซ่า แอทธินี ถนนวิทยุ โดยมีบรรดาแขกผู้มีเกียรติในวงการลูกหนัง และเหล่าผู้บริหารสโมสรพันธมิตรของช้าง พร้อมด้วยสื่อมวลชนเข้าร่วม นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการมาเยือนของเอฟเวอร์ตันว่า “เครื่องดื่มตราช้างมีความภาคภูมิใจ และดีใจอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้ต้อนรับผู้บริหารจากสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน รวมไปถึงสโมสรฟุตบอลจากหลากหลายภูมิภาคที่ได้มารวมตัวกันในวันนี้ เป็นนิมิตหมายใหม่ที่เราสามารถเป็นผู้สนับสนุนทีมฟุตบอลไทยของเรา ปลาบปลื้มใจที่ได้เห็นการพัฒนาการ และความมุ่งมั่นของฝ่ายบริหารไม่ว่าจะเป็นทางด้านสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย สโมสรต่างๆที่ได้สร้างความคึกคัก และความตื่นตัวกับวงการฟุตบอลไทย กระผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าช้างจะเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มกีฬาฟุตบอลในบ้านเราให้ก้าวหน้าไปอย่างมั่นคงต่อไป”

โดยในช่วงแรกของงานมร.โรเบิร์ต ได้บรรยายพิเศษในหัวข้อ Football Freakonomics โดยเป็นการนำประสบการณ์ในการบริหารทีมลูกหนังในลีกระดับโลกอย่างพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เกี่ยวกับพัฒนาการของทีม ซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับไทยแลนด์พรีเมียร์ลีค ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนจากสโมสรต่างๆในการที่จะเรียนรู้เพื่อได้พัฒนาการกีฬาโดยเฉพาะกีฬาฟุตบอลของบ้านเรา เพื่อยกระดับมาตรฐานสโมสรของไทยให้ทัดเทียมสากลยิ่งขึ้น

ในการนี้มร.โรเบิร์ต เอลสโตนได้มอบเสื้อแข่งขันฤดูกาลล่าสุด 2012-2013 ของทีมเอฟเวอร์ตันให้กับนายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ก่อนที่จะมอบเงินบริจาคจากโครงการพลังน้ำใจไทยที่เป็นการร่วมมือกันระหว่างช้างและเอฟเวอร์ตัน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาท

สำหรับโครงการ “ช้างไทยไปเอฟเวอร์ตัน” ที่เคยโด่งดังในอดีตซึ่งเป็นการส่งนักเตะดาวรุ่งของวงการฟุตบอลไทยไปฝึกฟุตบอลที่สโมสรเอฟเวอร์ตันที่ผ่านมามีโครงการมาแล้ว 2 ครั้งด้วยกัน และเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันนักเตะขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทยอย่างลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย และสมปอง สอเหลบ ซีอีโอใหญ่แห่งเอฟเวอร์ตัน ก็ได้เผยว่าโครงการนี้จะถูกปัดฝุ่นขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง “โครงการช้างไทยไปเอฟเวอร์ตัน ทางทีมงานของบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด มหาชน ได้ปรึกษาหารือกันแล้วว่าจะมีการรื้อฟื้นโครงการดังกล่าวกลับมาอีกครั้งในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน ซึ่งอาจจะคัดเลือกมาจากนักเตะของทีม ที่ได้แชมป์ฟุตบอลเยาวชน “ช้าง คาเดตคัพ” ครั้งที่ 2 ที่จะแข่งขันกันในเดือน ต.ค.นี้ รวมถึงเยาวชนที่ฉายแววโดดเด่นในการแข่งขัน จะมีโอกาสไปฝึกฟุตบอลที่ฟินช์ ฟาร์ม อะคาเดมี่ของเรา” นายใหญ่แห่งกูดิสัน ปาร์ค ทิ้งท้าย

นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) กล่าวต่อว่า “ช้าง” ถือเป็นแบรนด์แรกของไทยที่มีโอกาสได้เข้าไปสนับสนุนสโมสรฟุตบอลในพรีเมียร์ลีก เราภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าไปเป็นผู้สนับสนุนหลักตั้งแต่ปี 2547จนถึงวันนี้เราเป็นพันธมิตรกัน 8 ปีแล้ว ที่ช้างได้ไปอยู่บนกลางหน้าอกเสื้อของสโมสรเอฟเวอร์ตัน จากการที่เราได้เป็นพันธมิตรกับสโมสรชั้นนำ เราได้นำทักษะและความชำนาญจากสโมสรเหล่านั้นมามีส่วนในการวางแผนร่วมพัฒนาวงการฟุตบอลไทย โดยมีเป้าหมายหลักในการสนับสนุนกีฬาฟุตบอลในทุกมิติ เริ่มตั้งแต่ระดับเยาวชน ทีมสโมสร ทีมชาติ และสโมสรระดับโลก รวมถึงให้ความบันเทิงในรูปแบบของการสนับสนุนการแข่งขันระดับโลกอย่างฟุตบอลยูโรครั้งที่ผ่านมา โดยในระดับเยาวชนได้ให้การสนับสนุนด้วยการก่อตั้ง “ ไทยเบฟฟุตบอล อะคาเดมี่” ตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งมีเยาวชนผ่านการลงทะเบียนเข้าฝึกอบรมฟุตบอลจากเรามาแล้วกว่า15,000คน พร้อมด้วยโครงการ “ช้าง เอฟเวอร์ตัน ฟุตบอล คลินิก” ซึ่งเป็นการเปิดคลินิกสอนทักษะการเล่นฟุตบอลให้กับเยาวชนโดยมิสเตอร์เรย์ ฮอลล์ ผอ.เอฟเวอร์ตัน ฟุตบอล อะคาเดมี่ ที่จัดต่อเนื่องทุกปี นอกจากนั้นทางโค้ชของเอฟเวอร์ตันยังมีส่วนร่วมในการถ่ายทอดความรู้ให้กับทีมชาติไทยและสโมสรฟุตบอลที่ช้างให้การสนับสนุน ครั้งล่าสุดเมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมาที่มีการแข่งฟุตบอลเยาวชน “ช้าง คาเดตคัพ” ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งหมดนี้นอกจากเราจะสร้างให้เยาวชนมีทักษะทางกีฬาฟุตบอลที่ดีแล้ว เรายังต้องการที่จะปลูกฝังเยาวชนเหล่านั้นให้เป็นเยาวชนที่ดี มีระเบียบวินัย มีทัศนคติที่ดี รู้แพ้ รู้ชนะ และรู้จักขอโทษ เพื่อให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต นี่เป็นสิ่งที่สต๊าฟฟ์โค้ชของไทยเบฟ ฟุตบอล อะคาเดมี่ทุกคน รวมถึงสต๊าฟฟ์โค้ชของเอฟเวอร์ตันร่วมมือกันปลูกฝังสิ่งเหล่านี้ให้แก่เยาวชน”

-กผ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net