กรุงเทพฯ--26 ต.ค.--HBIRM
HBIRMรุกตลาดบริหารชุมชน-อาคารภาคตะวันออกเฉียงเหนือเตรียมเปิดสาขาขอนแก่นรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภาคอีสานบูม
HBIRM เบนเข็มธุรกิจรุกตลาดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เผยธุรกิจจัดสรรโคราช อุดรธานี และมหาสารคามมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง เตรียมเปิดสาขาขอนแก่นรับการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ชี้ธุรกิจบริหารชุมชน-อาคารภาคอีสานยังสดและใหม่ มั่นใจมีอัตราการแข่งขันไม่รุนแรงและโครงการท้องถิ่นต้องการมืออาชีพที่เชี่ยวชาญ
นายธนันทร์เอก หวานฉ่ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอช บี อินเตอร์ เรียลตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (HBIRM) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้บริษัทได้ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจไปสู่ภูมิภาคมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ได้เข้าไปทำตลาดเมืองท่องเที่ยวทั้งพัทยา ภูเก็ต และหัวหิน ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะพัทยาที่มีหมู่บ้านและคอนโดฯ เกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งบริษัทขนาดใหญ่ที่แต่งตั้งให้บริษัทลูกเข้าไปบริหารหลังการขาย และผู้ประกอบการในท้องถิ่นก็ยังไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการบริหารมากนัก โดยโครงการเหล่านี้ส่วนใหญ่จะบริหารเอง เมื่อเกิดปัญหาและไม่เข้าใจเรื่องกฎหมายจัดสรร จึงต้องพึ่งพามืออาชีพด้านบริหารชุมชนและอาคาร อย่างไรก็ตาม ตลาดเมืองท่องเที่ยวนั้นมีการแข่งขันกันสูง และมีบริษัทต่างชาติครองส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่แล้ว จึงทำให้ตลาดบริหารชุมชนเมืองท่องเที่ยวไม่หวือหวามากนัก
HBIRM จึงได้เบนเข็มธุรกิจไปสู่ตลาดใหม่ ซึ่งขณะนี้ได้ขยายตลาดไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดหัวเมืองใหญ่ ๆ เช่น นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และมหาสารคาม สำหรับจังหวัดที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้น่าจะเป็นนครราชสีมา เช่น อำเภอปากช่องและเขาใหญ่ที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการขยายตัวค่อนข้างสูง เห็นได้จากมีโครงการบ้านจัดสรรใหม่เกิดขึ้นหลายแห่ง ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่ค่อนข้างมีอนาคต เนื่องจากมีแนวโน้มว่าจะเกิดโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มเติม เพราะทำเลที่เหมาะสำหรับเป็นบ้านหลังที่ 2 ซึ่งอยู่ไม่ไกลกรุงเทพ และเป็นที่ต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการอพยพหนีน้ำ นอกจากนี้แล้วขอนแก่นเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีความน่าสนใจสูง เนื่องจากเริ่มมีโครงการบ้านจัดสรร ทั้งแบรนด์ใหญ่จากกรุงเทพฯ และผู้ประกอบการท้องถิ่นเริ่มทยอยเปิดตัว คาดว่าในอนาคตจังหวัดขอนแก่นจะมีการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างสูง ขณะนี้ HBIRM ได้รับการทาบทามจากผู้ประกอบการเพื่อเข้าไปบริหารโครงการขนาดใหญ่หลายแห่ง
นายธนันทร์เอก เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในปี 2556 นี้ได้ตั้งเป้าว่าจะรุกตลาดในภาคอีสานอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งอาจจะเป็นลักษณะของการร่วมทุนกับธุรกิจในท้องถิ่น หรืออาจเป็นการเปิดสาขาที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อเป็นศูนย์กลางการให้บริการด้านบริหารชุมชนและอาคารในภูมิภาคดังกล่าว เชื่อว่าจะสามารถสร้างงานให้กับประชาชนในท้องถิ่น และเปิดโอกาสให้พนักงานจากสำนักงานใหญ่ที่มีภูมิลำเนาอยู่ภาคอีสานได้เดินทางกลับไปทำงานใกล้บ้านของตนเอง อย่างไรก็ตาม การขยายสาขาและการให้บริการไปยังภูมิภาค เป็นนโยบายหนึ่งเพื่อกระจายความเสี่ยงของธุรกิจ เนื่องจากตลาดในส่วนกลางมีการแข่งขันสูง ที่สำคัญการบริหารชุมชนและอาคารเป็นธุรกิจที่เปราะบางมาก เพราะเป็นงานบริการที่สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ในขณะเดียวกันการทำงานที่มีความหลากหลายของปัญหา รวมทั้งอารมณ์และความต้องการด้านต่าง ๆ ฯลฯ เป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจไม่สามารถสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้เช่นกัน
“บ้านจัดสรรในภาคอีสานนั้นส่วนใหญ่ราคาอยู่ระหว่าง 1.5-3 ล้านบาท ส่วนคอนโดมิเนียมราคาประมาณ 800,000-1,200,000 บาทต่อยูนิต และกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นคนทำงาน ที่สำคัญคนในภูมิภาคนี้มีจิตใจดีและไม่มีความหลากหลายด้านพฤติกรรมการอยู่อาศัยเหมือนตลาดอื่น ๆ รวมทั้งธุรกิจบริหารชุมชนและอาคารนั้นยังเป็นตลาดที่สดและใหม่ ซึ่งการแข่งขันยังไม่สูงนัก ค่าแรงงานก็ถูกกว่าภูมิภาคอื่น ๆ มีผลต่อการคิดค่าบริหารที่ยังต่ำกว่ากรุงเทพฯ จึงทำให้มีผู้ประกอบการท้องถิ่นหลายแห่งให้ความสนใจใช้บริการ ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการบ้านจัดสรรส่วนใหญ่ต้องการให้มืออาชีพเข้าไปดูแลเรื่องบริหารหลังการขาย นอกจากนี้แล้วการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งภาคอีสานเป็นประตู่สู่กลุ่มประเทศอินโดจีน จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีการขยายตัว และส่งผลด้านบวกต่อธุรกิจบริหารชุมชนและอาคารที่น่าจะะมีอนาคตที่ดี” นายธนันทร์เอกกล่าว
-กผ-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit