กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--ไอเอ็นจีประกันชีวิต
ไอเอ็นจีประกาศว่าได้ตกลงขายกิจการในธุรกิจประกันชีวิต ประกันวินาศภัยและการวางแผนด้านบำนาญและการวางแผนทางการเงินที่ดำเนินกิจการในฮ่องกง มาเก๊า และธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทยให้แก่กลุ่มบริษัท แปซิฟิค เซ็นจูรี่ กรุ๊ป (พีซีจี) ในมูลค่า 2.14 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.64 พันล้านเหรียญยูโร
การตกลงซื้อขายครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขายกิจการด้านประกันภัยและการบริหารการลงทุนของไอเอ็นจี ในภูมิภาคเอเชียที่ได้ประกาศล่วงหน้าไว้แล้วนั้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาไอเอ็นจีก็ได้ประกาศว่า ได้บรรลุข้อตกลงเพื่อขายกิจการธุรกิจประกันภัยในมาเลเซียเป็นเงินประมาณ 1.3 พันล้านยูโร ส่วนกระบวนการขายกิจการที่เหลืออยู่นั้นยังคงอยู่ระหว่างดำเนินต่อไป
“เรายินดีมากที่ได้กลุ่มบริษัทแปซิฟิค เซ็นจูรี่ กรุ๊ปมาเป็นบ้านหลังใหม่ของลูกค้า พนักงานและตัวแทนของเราในฮ่องกงและประเทศไทย พร้อมกับความมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจต่อไป” มร.ยาน โฮมเมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทไอเอ็นจี กล่าว “การขายกิจการครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญของไอเอ็นจีภายใต้กระบวนการปรับโครงสร้างของเรา”
มูลค่าของข้อตกลงซื้อขายกิจการประกันชีวิตของไอเอ็นจีในฮ่องกง มาเก๊า และประเทศไทย อยู่ที่ 24.3 เท่าของประมาณการณ์รายรับของปี 2555 และเป็น 1.9 เท่าของมูลค่าทางบัญชี ซึ่งเท่ากับ 865 ล้านหรียญยูโรตามมาตรฐานบัญชีของ IFRS ทั้งนี้รายรับที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาซื้อขายจนถึงวันสิ้นสุดกระบวนการซื้อขายจะเป็นผลประโยชน์ของกลุ่มบริษัทแปซิฟิค เซ็นจูรี่ กรุ๊ป ทั้งนี้ ณ เวลาสิ้นสุดกระบวนการซื้อขายไอเอ็นจีคาดว่า จะได้รับกำไรสุทธิเป็นเงินประมาณ 1 พันล้านเหรียญยูโร
ไอเอ็นจีติดอันดับ 1 ใน 10 ของธุรกิจประกันชีวิตในฮ่องกง มาเก๊า และประเทศไทย โดยในฮ่องกงและมาเก๊า ไอเอ็นจีให้บริการด้านการประกันวินาศภัย ประกันชีวิต การวางแผนด้านบำนาญและการวางแผนทางการเงิน มีกลุ่มลูกค้าจำนวนมากกว่า 270,000 ราย พนักงาน 400 คน และตัวแทนในสังกัด 1,600 คน ในขณะที่ไอเอ็นจีใน ประเทศไทยนำ เสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและผลิตภัณฑ์แบบบำนาญ โดยมีลูกค้ามากกว่า 300,000 ราย พนักงานประมาณ 480 คนและมีตัวแทนในสังกัดกว่า 4,000 คน
กลุ่มบริษัทแปซิฟิค เซ็นจูรี่ กรุ๊ป (พีซีจี) เป็นบริษัทที่ก่อตั้งเมื่อปี 2536 โดยนายริชาร์ด ลี ดำเนินธุรกิจด้านบริการการเงิน อสังหาริมทรัพย์ สื่อดาวเทียม บริการโทรคมนาคมในเอเชีย ปัจจุบันนายริชาร์ด ลี ดำรงตำแหน่งประธานบริษัทในบริษัทโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดของฮ่องกง และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ไพน์บริดส์ อินเวสต์เม้นท์ บริหารสินทรัพย์กว่า 68 พันล้านเหรียญสหรัฐภายใต้การบริหารจัดการทั่วโลก
สำหรับส่วนธุรกิจบริหารกองทุนของไอเอ็นจีในฮ่องกงและประเทศไทย ไม่ถูกรวมอยู่ในข้อตกลงซื้อขายในครั้งนี้และการขายกิจการที่ประกาศวันนี้ไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจด้านการธนาคารในเอเซียของไอเอ็นจีแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดีการขายกิจการครั้งนี้ต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของภาครัฐซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในราวไตรมาสแรกของปี 2556
-กผ-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit