สามมิตร มอเตอร์สแมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด (มหาชน) ประกาศขึ้นแท่นผู้นำผนึกกำลังพันธมิตรระดับโลก พร้อมรุก AEC 2015

07 Nov 2012

กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--สามมิตรมอเตอร์สแมนูแฟคเจอริ่ง

เจรจา ผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก เตรียมรับดีมานด์ตลาดขนส่งพุ่ง จับมือเฮนดริกสัน นำเข้าระบบช่วงล่างแบบถุงลมชั้นนำระดับโลก พร้อมให้บริการหลังการขายครบวงจรครอบคลุมเครือข่ายตลาด AEC รายแรกของไทย

บริษัท สามมิตรมอเตอร์สแมนูแฟคเจอริ่งจำกัด (มหาชน) หรือ SMM ผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์และขนส่งครบวงจร ประกาศความพร้อมขึ้นแท่นผู้นำ รับการขยายตัวความต้องการด้านขนส่งและลอจิสติกส์ที่กำลังเพิ่มมากขึ้นเพื่อพร้อมรับตลาด AEC ในปี 2558 เร่งเจรจาและขยายพันธมิตรระดับโลก เตรียมรับดีมานด์ตลาดขนส่งพุ่ง พร้อมจับมือ บริษัท เฮนดริกสัน อินเตอร์เนชันแนล คอร์ปอเรชั่น นำเข้าระบบช่วงล่างแบบถุงลมชั้นนำระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา พร้อมให้บริการหลังการขายครบวงจรรายแรกของไทย

นายสุริยา โพธิ์ศิริสุข กรรมการรองกรรมการผู้จัดการ บริษัทสามมิตรมอเตอร์สแมนูแฟคเจอริ่งจำกัด (มหาชน) ผู้รับผิดชอบการดำเนินธุรกิจของบริษัทและสายธุรกิจยานยนต์เพื่อการพาณิชย์และลอจิสติกส์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีต้นทุนลอจิสติกส์ประมาณ 20-25% ของ GDP การลดต้นทุนด้านลอจิสติกส์ของไทยให้แข่งขันได้ถือเป็นเป้าหมายสำคัญของธุรกิจ SMM

ปัจจุบันการขนส่งทางบกโดยเฉพาะการใช้รถเพื่อการพาณิชย์มีการเติบโตขึ้นอย่างมาก และคาดว่าในปีนี้ ยอดการผลิตรถเพื่อ การพาณิชย์ในประเทศจะมีตลาดยอดขายรวมกว่า 40,000 คัน SMM เราเป็น Transportation Logistics Provider ที่ให้บริการแบบครบวงจร โดย SMM เป็นผู้ผลิตตัวถังรถเพื่อการพาณิชย์รวมถึงรถพ่วงและรถกึ่งพ่วงเพื่อการพาณิชย์อันดับหนึ่งทั้งในตลาดในประเทศและตลาด AEC

การเข้าสู่ตลาด AEC นั้น SMM ได้ขยายเครือข่ายทั้งการขายและการบริการหลังการขายครอบคลุมพื้นที่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยปัจจุบันมีเครือข่ายการบริการหลังการขายในประเทศแล้วกว่า 72 แห่งและในต่างประเทศโดยเฉพาะ AEC แล้วใน 8 ประเทศโดยคาดว่าจะขายให้ครบทุกประเทศใน AEC ให้ได้ภายในต้นปีหน้า ส่วนในปีนี้คาดว่ามีรายได้ถึง 6,000 ล้านบาท หรือ เติบโตร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

นอกจากนี้ได้มีการเจรจาร่วมกับพันธมิตรในระดับโลกในการพัฒนาสินค้าให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าในการใช้รถเพื่อการพาณิชย์ในแต่ละกลุ่มให้มากขึ้นเพราะในอนาคตอันใกล้นี้ทั้งการคมนาคมขนส่งในภูมิภาคเราจะมีทั้งทางรถยนต์รถไฟ และทางเรือ ซึ่งการคมนาคมจะต้องมีการเชื่อมโยงกันมากขึ้น SMM จึงต้องหาพันธมิตรในการร่วมพัฒนาสินค้าให้เหมาะสมกับการใช้งานของลูกค้าให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนและที่สำคัญต้องมีความปลอดภัย

การเลือก Hendrickson เข้ามาเป็นพันธมิตรในเรื่องการพัฒนารถพ่วงและกึ่งพ่วงที่ใช้ระบบถุงลม เนื่องจากมองว่าทั้ง SMM และ Hendrickson ต่างมีแนวคิดทางธุรกิจที่ใกล้เคียงกัน คือเรามองว่าไม่ใช่แค่มีระบบช่วงล่างดีแล้วรถจะดี แต่เรามองรถพ่วงและรถกึ่งพ่วงของเราทั้งคันว่าต้องมีระบบช่วงล่างดี โครงสร้างดี และตัวถังที่ดี เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มได้ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่ต้องใช้รถพ่วงที่มีระบบถุงลม อาทิ กลุ่ม Food & Drink, Fruit & Vegetable, Electronic, Oil & Gas เป็นต้น ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้จะใช้ระบบช่วงล่างที่เป็นถุงลมมากขึ้นเพื่อที่จะรักษาคุณภาพของสินค้าที่บรรทุกให้ได้คุณภาพ

นอกจากนี้ SMM เรายังย้ำเรื่องความปลอดภัยและความคุ้มค่าในการลงทุนดังนั้นสินค้าที่ผลิดโดย SMM จะมีการรับประกันจนถึงการบริการหลังการขายและความพร้อมของอะไหล่ให้ลูกค้ามีความมั่นใจอีกด้วย-กภ-