ระบบใหม่ทั้งหมดได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อปอร์เช่ บ็อกซเตอร์ (Boxster) ใหม่ล่าสุด

28 Sep 2012

กรุงเทพฯ--28 ก.ย.--ปอร์เช่

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปปอร์เช่จะเริ่มผลิตบ็อกซเตอร์ (Boxster) ที่โรงงาน Volkswagen Osnabr?ck GmbH เนื่องจากโรงงาน Stuttgart-Zuffenhausen นั้น ผลิตทั้งปอร์เช่ 911 ใหม่และบ็อกซเตอร์ (Boxster) ร่วมกันจึงทำให้โรงงานผลิตหลักที่สตุ้ดการ์ดมีกำลังการผลิตไม่พอต่อความต้องการที่ล้นหลาม

รถคันแรกที่จะเริ่มเข้าผลิตคือรุ่นบ็อกซเตอร์ (Boxster) ที่ได้รับการสั่งซื้อจากประเทศอินเดีย นั่นคือ บ็อกซเตอร์ เอส (Boxster S) สีแดงที่มาพร้อมกับหลังคาผ้าใบสีดำ การเริ่มต้นการผลิตบ็อกซเตอร์ที่โรงงาน Osnabr?ck ครั้งแรกนี้ได้รับเกียรติจากแขกผู้มีเกียรติและผู้บริหารมากมายเข้าร่วมเป็นสักขีพยานไม่ว่าจะเป็น David McAllister Minister President of Lower Saxony, Prof. Dr. Martin Winterkorn ประธานกรรมการและบอร์ดบริหารของ Volkswagen AG, Matthias M?ller ประธานบริหารและ CEO จาก Porsche AG รวมไปถึง Boris Pistorius นายกเทศมนตรีเมือง Osnabr?ck และในงานนี้ Minister President McAllister ได้กล่าวไว้ว่า “ด้วยการติดสินใจที่จะผลิตบ็อกซเตอร์ (Boxste) ที่โรงงาน Osnabr?ck ที่ได้รับการสร้างขึ้นภายใต้ Volkswagen Group แสดงให้เห็นว่าโรงงานแห่งนี้จะกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตรถสปอร์ตเปิดประทุนชั้นเลิศรวมไปถึงการผลิตรถรุ่นอื่นๆ อีกด้วย ผมมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่วันนี้การผลิตรถปอร์เช่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วที่ Lower Saxony สำหรับรถปอร์เช่ และมั่นใจได้ว่ารถทุกคันจะมีคุณภาพสูงตามเครื่องหมายการรันตี ‘Made in Germany’ อีกด้วย”

นายกเทศมนตรี Pistorius ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ปอร์เช่ได้เข้ามาทำการผลิตในเมืองนี้และได้กล่าวว่า “บ็อกซเตอร์ (Boxster) จะนำความสำเร็จทางด้านธุรกิจเข้ามาสู่ Osnabr?ck ของเราและจะมีการจ้างงานมากขึ้นรวมไปถึงการการันตีถึงทักษะของช่างในเมืองของเราที่ได้มีโอกาสได้สร้างรถที่มีตำนานมานานกว่า 100 ปีอีกด้วย”

Prof. Dr. Winterkorn ประธานกรรมการและบอร์ดบริหารของ Volkswagen AG ได้กล่าวขณะเข้าร่วมงานการเริ่มผลิตนี้ไว้ว่า “การผลิตบ็อกซเตอร์ (Boxster) ที่ Osnabr?ck เป็นสัญญาณที่ชัดเจนถึงการเชื่อมโยงกันระหว่าง Volkswagen และปอร์เช่ อีกทั้งยังเป็นการผนึกกำลังและร่วมมือกันที่จะนำไปสู่การสร้างประโยชน์ให้กับลูกค้า พนักงานและสถานที่แห่งนี้อีกด้วยเช่นกัน”

ส่วนของประธานบริหารและ CEO จากปอร์เช่นั่นคือ Mr. Muller ได้กล่าวไว้ว่า “เนื่องจากมีหลายๆ องค์ประกอบที่ทำให้เป็นเรื่องยากในการที่เราจะขยายโรงงานสตุ้ดการ์ด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตหลักของเราให้ใหญ่ขึ้น และอีกไม่กี่ปีข้างหน้าโรงงานแห่งนี้จะต้องใช้และรองรับได้เพียงการผลิตรุ่น 911 เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น ดังนั้นเราจึงต้องหาทางที่จะผลิต บ็อกซเตอร์ (Boxster) ของเราด้วยเช่นกัน และเราจึงตัดสินใจที่จะเลือกใช้โรงงานของ Volkswagen Osnabr?ck ที่

เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญแห่งนี้ในการผลิตบ็อกซเตอร์ (Boxster) ให้กับเรา และมั่นใจว่ารถสปอร์ตของพวกเราจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี อีกทั้งเรายังมีแนวคิดในเรื่องของคุณภาพที่เหมือนกัน ดังนั้นผมจึงมั่นใจว่า Osnabr?ck จะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของพวกเรา”

ไม่ใช่ครั้งแรกที่รถปอร์เช่ได้รับการผลิตที่โรงงาน Lower Saxony แห่งนี้ ในอดีตนั้นมีการผลิตชิ้นส่วนและประกอบ ปอร์เช่ที่นี้ด้วยเช่นกัน อาทิเช่น ตัวรถของรุ่น 356 ได้รับการผลิตที่นี้ในช่วงปี 1960 อีกทั้งยังมีรุ่นปอร์เช่ 968 ที่ผลิตที่นี้ด้วยเช่นกัน ต่อมาจากปี 1969 จนถึงปี 1975 นั้นปอร์เช่รุ่น 914s กว่า 115,000 คันได้รับการประกอบที่ Osnabr?ck นี้ ต่อมาชิ้นส่วนของรุ่นบ็อกซเตอร์ (Boxster) ที่ผลิตที่สตุ้ดการ์ดนั้นบางชิ้นได้รับการสร้างที่โรงงานนี้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนทางด้านหลังและด้านข้างของรถ เป็นต้น

สำหรับประเทศไทย ท่านสามารถค้นหาหรือสอบถามเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ ได้จาก บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรง พร้อมให้บริการรถปอร์เช่ของท่าน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ ได้ที่ แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th

-กผ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit