กรุงเทพฯ--23 ก.ย.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์
โอกิลวี่ แอดเวอร์ไทซิ่ง โชว์ผลงานโฆษณารูปแบบใหม่รับยุคโซเชียลผลิตงานครีเอทีฟมัดใจลูกค้า-ผู้บริโภคยุคดิจิตอล เพิ่มความสำเร็จทางธุรกิจ
โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง ประเทศไทย พัฒนารูปแบบการสร้างสรรค์คอนเทนท์ที่แข็งแกร่งในงานโฆษณา รับการเปลี่ยนแปลงยุคโซเชียล เน้นผลิตงานโฆษณาที่เด่นทั้งในเรื่องความสร้างสรรค์ควบคู่กับการผลักดันความสำเร็จให้แก่แบรนด์ลูกค้าทั้งบนโลกออนไลน์และออฟไลน์
ตลอด 3 ไตรมาสที่ผ่านมา โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง ได้ผลิตงานโฆษณามากมายซึ่งสร้างทอล์คออฟเดอะทาวน์ในโลกโซเชียลมีเดีย และเป็นที่กล่าวขวัญกันทั่วไปในหมู่ผู้บริโภค อาทิ โครงการ Flying Book ของแอมเวย์ ซึ่งอาศัยแอพพลิเคชั่นพิเศษที่ใช้เทคโนโลยี Augmented Reality (AR) ช่วยให้มองเห็นภาพเสมือนจริง 360 องศา และ Location-based Service ระบุตำแหน่งการเดินทางของหนังสือจากจุดที่ปล่อยไปถึงโรงเรียนจุดหมายในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งช่วยให้การบริจาคหนังสือในโครงการ CSR ของแอมเวย์ง่าย สนุก และสะดวกมากขึ้น โครงการ Inseecovery ของปูนอินทรี โดยจัดทำแอพพลิเคชั่นพิเศษที่ช่วยให้เห็นภาพเสมือนจริง 360 องศา ของความก้าวหน้าในโครงการที่ปูนอินทรีเข้าไปช่วยให้ชาวบ้านฟื้นฟูและสร้างชุมชนขึ้นใหม่ในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย และแคมเปญล้านเหตุผลเชื่อมั่นในประเทศไทยของโค้ก ที่ชักชวนให้คนไทยส่งข้อความแสดงความเชื่อมั่น เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นในประเทศไทยหลังอุทกภัยครั้งใหญ่ในปี 2554 ที่ผ่านมา และงานชุด Smoking Kids ของแคมเปญรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่โดย สสส. ซึ่งเผยแพร่ทาง YouTube และได้รับความสนใจมีการเรียกดูถึงกว่า 6 ล้านครั้งในระยะเวลาเพียง 10 วัน
นายภาวิต จิตรกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่งประเทศไทย กล่าวว่าการปรับรูปแบบการสร้างคอนเทนท์ในงานโฆษณาหรือ Advertising Transformation คือการพลิกวิธีคิดและสร้างสรรค์งานสื่อสาร ที่เน้นการใช้มุมมองใหม่ที่แตกต่างในการกำหนดกลยุทธ์และวิธีการสื่อสาร โดยนำเอาเทคโนโลยีการสื่อสารใหม่ๆ โดยเฉพาะสื่อออนไลน์และดิจิตอล รวมทั้งความเข้าใจในไลฟ์สไตล์ของคนที่เปลี่ยนแปลงไปมาเป็นองค์ประกอบ
“ปัจจุบันนี้ การใช้ชีวิตของคนเปลี่ยนไป เนื่องจากสื่อดิจิตอลกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผู้คน และเป็นสื่อ ที่เข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพสูง ยุคนี้ทุกคนมีโทรศัพท์มือถือ ส่วนใหญ่เป็นสมาร์ทโฟนสามารถรับส่งข้อมูลจำนวนมากได้สะดวก คนส่วนใหญ่ใช้คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต เล่นเฟสบุ๊ค แต่ข้อมูลที่ส่งผ่านไปยังผู้บริโภคในช่องทางต่างๆ มีมากมาย ความท้าทายในการสื่อสารยุคนี้คือ การแย่งชิงความสนใจของผู้บริโภค ขณะเดียวกันต้องเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมในข้อมูลข่าวสารนั้นๆ ด้วย” นายภาวิตกล่าว
“ในการสื่อสารหรือทำงานโฆษณาให้ได้ผลในยุคที่โซเชียลมีเดียเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเรา โอกิลวี่ไม่ได้ใช้ช่องทางการสื่อสารเป็นตัวตั้งแล้วเริ่มคิดงาน แต่มุ่งเน้นการสร้างคอนเทนท์ที่มีพลังในการสร้างกระแสการบอกต่อในบนโซเชียลมีเดีย แล้วจึงค่อยเลือกสื่อให้สอดคล้องกัน เราเชื่อว่าคอนเทนท์เป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะการสื่อสารที่จะได้ผลดีต้องมีคอนเทนท์ที่แข็งแรง แตกต่าง มีคุณค่าสำหรับผู้ชม เพิ่มค่าหรือผลตอบแทนให้แก่แบรนด์สินค้า สามารถสร้างกระแสบอกต่อหรือดึงดูดให้มีการแชร์คอนเทนท์เหล่านี้ต่อไป ซึ่งจะทำให้คอนเทนท์ของเราขยายวงไปได้เร็วมาก”
ด้วยผลงานที่โดดเด่น ทำให้โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง ประเทศไทย ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทฯ มีการเติบโตมากกว่า 10% และมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องในปีนี้ โดยลูกค้าสนใจหันมาใช้ช่องทางสื่อดิจิตอลกันมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด นอกจากนี้ ผลงานที่โดดเด่นของโอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ ยังช่วยให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าใหม่ๆ หลายราย อาทิ โคคา-โคล่า ปูนตรานกอินทรี ผลิตภัณฑ์ในเครือเจริญโภคภัณฑ์
การที่จะผลักดันให้เกิด Advertising Transformation หรือการปรับเปลี่ยนรูปแบบการสร้างสรรค์คอนเทนท์ที่แตกต่างและแข็งแรง เอเยนซี่จำเป็นต้องมีบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านการสร้างสรรค์คอนเทนท์ ความเข้าใจในธรรมชาติของสื่อดิจิตอล ความรู้และศักยภาพด้านเทคโนโลยีใหม่ และวัฒนธรรมการทำงานที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการวางกลยุทธ์แปลกใหม่ เพื่อสร้างสรรค์งานที่มีทั้ง creativity หรือความสร้างสรรค์ และประสิทธิภาพในการสื่อสาร ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักที่โอกิลวี่เรียกกันว่า Twin Peaks การสร้างสรรค์ผลงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Twin Peaks โอกิลวี่อาศัยเครื่องมือที่เรียกว่า Fusion ที่ช่วยให้ระบุได้ว่าปัญหาหรือประเด็นสำคัญทางธุรกิจของลูกค้าคืออะไร รวมทั้งสำรวจและทำความเข้าใจถึง customer journeys หรือกระบวนการและทุกจุดที่ผู้บริโภคมีโอกาสจะได้สัมผัสกับสินค้าหรือบริการซึ่งมีผลต่อทัศนคติและการตัดสินใจของผู้บริโภคหรือเป็นประเด็นปัญหาทางธุรกิจ รวมทั้งจะช่วยกำหนดโครงสร้างในการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีการวัดผลอย่างเป็นระบบ
“จากความสำเร็จที่ผ่านมา จะเห็นว่า โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง มีพัฒนาการในด้านการช่วยให้ลูกค้าสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นและประสบความสำเร็จในแคมเปญการสื่อสาร เราไม่จำกัดตนเองอยู่แต่ในโลกของการโฆษณา แต่อาศัยประโยชน์จากการพัฒนาของสื่อต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ ผนวกกับความเชี่ยวชาญเรื่องการสร้างแบรนด์ ความสามารถด้านครีเอทีฟ ความชำนาญด้านการสร้างคอนเทนท์ และความสามารถเชิงเทคนิค ทำให้เราสร้างสรรค์งานสื่อสารที่โดดเด่น มีประสิทธิภาพ แตกต่างไปจากงานของเอเยนซี่อื่นๆ ได้อย่างชัดเจน” นายภาวิตกล่าว
ข้อมูลเกี่ยวกับโอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์
โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ประเทศไทย เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทโฆษณาชั้นนำของไทยที่ให้บริการครบวงจร และมีความโดดเด่นในการสร้างงานที่ได้รับรางวัลสร้างสรรค์มากมายทั้งในการประกวดระดับประเทศ ระดับภูมิภาคไปจนถึงเวทีระดับโลกทั้งในด้านความสร้างสรรค์ต่างๆ ตลอดจนผลงานการประกวดรางวัลด้านประสิทธิผลของการสื่อสารและการวางแผนกลยุทธ์ (Effectiveness Awards) โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ ประเทศไทย มีบริษัทในเครืออีก 5 แห่งได้แก่ โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์, โอกิลวี่ วัน เวิลด์วายด์, โอกิลวี่ แอคชั่นส์, The Brand Union Bangkok, Soho Square และกรุ๊ปเอ็ม ซึ่งทั้งหมดนี้มีหลักการทำงานสร้าง แบรนด์แบบ 360 องศาซึ่งมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์จากทุกมิติของการสื่อสาร
-กผ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit