กรุงเทพฯ--1 ต.ค.--สสปน.
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. จัดงานดินเนอร์ทอล์คการกุศล ภายใต้ธีม “Synergy of ASEAN, the Way to Success” เชิญกูรูผู้คร่ำหวอดในวงการงานแสดงสินค้านานาชาติ และแขกผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมงาน ร่วมรับฟัง และพูดคุยถึงบทบาทของอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่จะช่วยกระตุ้นการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมถึงการปรับตัวรับความท้าทายและโอกาสที่มาพร้อมกับการรวมตัวของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ภายในงานมีการเปิดรับบริจาคเงินจากแขกผู้เข้าร่วมงาน เพื่อสมทบทุนช่วยเหลือมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งงานบริจาคนี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในการดำเนินงานครบรอบ 1 ทศวรรษของ สสปน.
ในโอกาสพิเศษนี้ สสปน. ได้ร่วมมือกับสมาคมการแสดงสินค้าไทย สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์และการบินไทย เพื่อจัดงานพิเศษครั้งนี้ขึ้น โดยเชิญผู้เกี่ยวข้องจากภาคธุรกิจ สมาคมการค้า หอการค้า ผู้จัดงานแสดงสินค้า สถานที่จัดงานแสดงสินค้า ภาครัฐ และไมซ์ซิตี้ กว่า 300 คน เข้าร่วมงาน และในโอกาสการดำเนินงานครบรอบ 10 ปี ของ สสปน. และก้าวย่างที่มั่นคงของสสปน. ในอนาคต ได้มีการร่วมระดมเงินบริจาคจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมไมซ์ เพื่อมอบสมทบทุนมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี นับเป็นการช่วยเหลือสังคมของคนในภาคอุตสาหกรรม เพื่อคืนกำไรให้แก่สังคม
นายธงชัย ศรีดามา กรรมการปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. กล่าวว่า “งานครั้งนี้นับเป็นโอกาสอันดี ที่ทางฝ่ายงานแสดงสินค้านานาชาติของ สสปน. ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญที่คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติ มาร่วมพูดคุยแสดงความคิดเห็นต่อเทรนด์ของอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติ ความท้าทายที่อุตสาหกรรมต้องประสบ รวมถึงโอกาสที่เพิ่มขึ้นสำหรับประเทศไทย จากการขยายตัวของตลาดใหม่ในเอเชีย โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนที่มีไทยเป็นศูนย์กลาง และในฐานะที่ สสปน. เป็นองค์กรภาครัฐที่ส่งเสริมสนับสนุนการจัดงานแสดงสินค้า จึงใช้งานดินเนอร์ทอล์คเป็นเวทีที่ยกย่องงานแสดงสินค้าไทยที่ได้รับคัดเลือกผ่านโครงการ Better the Best และ The Next Best Shows ที่สสปน. จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมศักยภาพและยกระดับงานแสดงสินค้าในประเทศให้พัฒนาไปสู่ระดับสากล”
สำหรับไฮไลท์ของงานในค่ำคืนนี้คือเวทีพูดคุย ในหัวข้อ “A Secret of Partnering under ASEAN Rising and Beyond” ซึ่งมีบุคคลสำคัญแห่งอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติระดับโลก ได้แก่ มร. พอล เบฮ์ ประธานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รีดส์ เอ็กซิบิชั่นส์ มร. ไมเคิล เดรเยอร์ รองประธาน โคเลน เมสเซ จีเอ็มบีเอช และ มร. มาร์เซล อีวอลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท KENES เอเชีย โดยมี มร. สตีฟ มอนนิงตัน กรรมการผู้จัดการ เมย์ฟิลด์ มีเดีย สแตรทิจีส์ บริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดงานแสดงสินค้า เป็นผู้ดำเนินรายการ
นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจาก มร. พอล วูดวาร์ด กรรมการผู้จัดการของ สมาคมอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าโลกหรือ UFI ที่มากล่าวถึงหัวข้อที่ได้รับความสนใจอย่างมาก คือเรื่องแนวโน้มภาพรวมอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าโลก และความท้าทายที่เกิดจากการเติบโตของตลาดใหม่ในภูมิภาคเอเชีย
ในโอกาสนี้ ได้มีการมอบรางวัลชนะเลิศในแต่ละประเภทให้กับงานแสดงสินค้าที่ได้รับเลือกให้เข้าโครงการ Believe in Thailand; The Next Best Shows ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนงานแสดงสินค้านานาชาติที่จัดขึ้นในประเทศไทย รวมถึงยกระดับ และพัฒนาขีดความสามารถของงานแสดงสินค้านานาชาติขึ้นสู่ความเป็นงานแห่งภูมิภาคอาเซียน ซึ่งประกอบด้วย งาน Pack Print 2011 จัดโดยบริษัท Messe’ Dusseldorf Asia ได้รับรางวัลในด้านการเพิ่มยอดผู้เข้าชมงานจากต่างประเทศ งาน TFBO&TRAFS จัดโดยบริษัท Kavin Intertrade co.,Ltd ได้รับรางวัลในด้านการเพิ่มผู้จัดงานแสดงสินค้าจากต่างประเทศ งาน Food & Hotel Thailand จัดโดยบริษัท Bangkok Exhibitions Service Ltd. ได้รับรางวัลในด้านการเพิ่มจำนวนพื้นที่แสดงสินค้า และงาน Food Ingredient Asia 2011 จัดโดยบริษัท UBM Asia (Thailand) Co.,Ltd. ได้รับรางวัลในด้านการเพิ่มยอดผู้เข้าร่วมงานจากต่างประเทศโดยรวม
นอกจากนี้ ยังมีพิธีมอบถ้วยรางวัลเพื่อเป็นการยกย่องผู้จัดงานแสดงสินค้าที่โดดเด่นระดับภูมิภาค ภายใต้โครงการ Better the Best ให้กับบริษัท VNU Exhibition Asia Pacific Co.,Ltd. และบริษัท N.C.C. Exhibition Organizer Co.,Ltd., Bangkok Exhibition Services Ltd., Reed Tradex Company ,UBM Asia (Thailand) Co., Ltd. ผู้จัดงาน วีฟ เอเชีย (VIV Asia) งานโปรแพค เอเชีย (Propak Asia) เมทัลเล็กซ์ (Metalex) และงาน รีนิลเอเบิ้ล เอเซีย ( Renewable Asia ) โดยทั้งสี่งานนี้ได้เข้าร่วมโครงการ Better the Best 3 ปี และสามารถรักษาความเป็นที่หนึ่งของงานแสดงสินค้าของแต่ประเภทในภูมิภาคเอเซีย และช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมงานจากต่างประเทศได้ถึง 36% ช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ของประเทศ ในฐานะศูนย์กลางแห่งอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าแห่งภูมิภาคอาเซียน เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่งานแสดงสินค้าในประเทศที่สามารถรักษาและต่อยอดความเป็นหนึ่งในภูมิภาค
นายธงชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “การเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย ยิ่งส่งผลให้อุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าไทยแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น สสปน. ยังคงส่งเสริมความร่วมมือระหว่างผู้เกี่ยวข้อง เพื่อรักษาความเป็นผู้นำของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางแห่งงานแสดงสินค้านานาชาติในภูมิภาคอาเซียนไว้ กิจกรรมในวันนี้ก็นับเป็นหนึ่งในแนวทางความร่วมมือนั้น”
จากสถิติล่าสุดประจำปี 2555 ของสมาคมอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าโลกหรือ UFI ระบุว่าอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าในประเทศไทยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 8 ของภูมิภาคเอเชีย และใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นการศึกษาเปรียบเทียบกันระหว่างประเทศจีน ประเทศในภูมิภาคเอชียตะวันออกฉียงใต้ ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย ปากีสถานและออสเตรเลีย
ประเทศไทยยังคงรั้งตำแหน่งผู้นำ ทั้งด้านพื้นที่ใช้สอย และพื้นที่นำมาจัดงาน ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 151 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ผ่านงานแสดงสินค้าตลอดปี 77 งาน ประเทศไทยยังคงเป็นผู้นำในเรื่องขนาดพื้นที่แสดงสินค้าต่อปี ซึ่งรวมได้ถึง 462,500 ตารางเมตร รวมทั้งสถานที่จัดงานแสดงสินค้ามาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับจาก UFI ทั้ง 9 แห่ง
สมาคม UFI ยังได้แสดงความเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าไทยจะมีแนวโน้มที่เติบโตมากยิ่งขึ้น เนื่องจากพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่เน้นการส่งออกเป็นหลัก ระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของประเทศ เมื่อการรวมตัวของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนมาถึงในปี 2558 อุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าไทยก็จะยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยการสนับสนุนของภาครัฐผ่านกิจกรรมและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของสสปน.
ด้านภาพรวมอุตสาหกรรมไมซ์ปีนี้ ตั้งเป้าผู้เดินทางกลุ่มไมซ์ประมาณ 750,000 คน สร้างมูลค่าให้อุตสาหกรรมถึง 60,120 ล้านบาท โดยตั้งเป้าผู้เข้าร่วมชมงานแสดงสินค้านานาชาติในไทยประมาณ 80,000 คน สร้างเงินหมุนเวียนสู่เศรษฐกิจไทยประมาณ 8,000 ล้านบาท ทั้งนี้ศูนย์การแสดงสินค้านานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ที่มีกำหนดแล้วเสร็จในปีนี้ จะเป็นอีกหนึ่งจุดยุทธศาสตร์ในการเป็นสถานที่จัดงานแสดงสินค้านานาชาติเจาะกลุ่มเป้าหมายประเทศกลุ่มอนุภาคลุ่มน้ำโขงและจีนตอนใต้-กภ-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit