กรุงเทพฯ--11 ต.ค.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
ข้อตกลงการใช้รหัสเที่ยวบินร่วมกัน ทำให้สายการบินเอทิฮัดขยายเครือข่ายการบินครอบคลุม 321 จุดหมายปลายทางมอบสิ่งที่เป็นไปได้ ในด้านการขยายตัวด้านการค้าผ่านพันธมิตรสายการบินที่ร่วมมือกับสายการบินเอทิฮัดช่วยเพิ่มโอกาสในการประหยัดค่าใช้จ่ายนับล้านดอลลาร์ของทั้งสองสายการบินผู้โดยสารกว่า 22.5 ล้านคน จะได้รับประโยชน์จากการมอบสิทธิประโยชน์ทางด้านการบินต่างๆ ตลอดจนผู้โดยสารของแต่ละสายสามารถเข้าใช้เลาจ์นของทั้งสองสายการบินได้
สายการบินเอทิฮัดและสายการบินแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม ร่วมกันลงนามเซ็นสัญญาครั้งประวัติศาสตร์ ในการใช้รหัสการบินร่วมกันบนเครือข่ายการบินของทั้งสองสายการบิน โดยช่วงแรกของความร่วมมือจะเริ่มต้นในวันที่ 28 ตุลาคม นี้
ข้อตกลงในการใช้เที่ยวบินที่มีรหัสร่วมกันในครั้งนี้ จะทำให้สายการบินเอทิฮัดและสายการบินแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม จะใช้รหัสบินในจุดหมายปลายทางในทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง เอเชีย และออสเตรเลีย ในขณะเดียวกัน สายการบินแอร์ฟราน ยังได้ประกาศข้อตกลงการใช้รหัสเที่ยวบินร่วมกันกับแอร์เบอร์ลิน สายการบินที่ใหญ่เป็นอันดับหกของทวีปยุโรป ซึ่งสายการบินเอทิฮัดถือหุ้นอยู่จำนวนร้อยละ 29.21
มร. เจมส์ โฮแกน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่สายการบินเอทิฮัด กล่าวว่า “ข้อตกลงนี้ ถือเป็นการทำโค๊ดแชร์ลำดับที่ 40 ของสายการบินเอทิฮัด นับเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำของกลุ่มสายการบินและยังได้มอบโอกาสอย่างมากมายในการพัฒนาความสัมพันธ์ทางด้านการค้าที่หาที่เปรียบมิได้”
“สิ่งนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงองค์ประกอบหลักของแผนแม่บท 10 ปีของสายการบินเอทิฮัด ด้วยการขยายเครือข่ายการบิน รวมแผนยุทธศาตร์การทำพันธมิตรโค๊ดแชร์ และลงทุนเข้าซื้อหุ้นจำนวนเล็กน้อยในสายการบินอื่นๆ”
“การที่เชื่อมโยงส่วนประกอบทั้งสามส่วนเข้าด้วยกัน รวมทั้งยังคงสร้างความเข้มแข็งในข้อตกลงทวิภาคีของเรา ซึ่งหมายความว่า ทุกส่วนในแผนของเรากำลังจะรวมเข้าด้วยกัน”
ทั้งสองสายการบินคาดหวังในปีพ.ศ. 2555 นี้จะให้บริการแก่ผู้โดยสารมากกว่า 85 ล้านคน
สายการบินแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม และแอร์เบอร์ลิน ยังร่วมกันประกาศตกลงการใช้รหัสเที่ยวบินร่วมกัน ทำให้ผู้โดยสารของทั้งสองสายการบิน สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายและแนบเนียนมากยิ่งขึ้น บนเส้นทางระหว่างฝรั่งเศสและเยอรมนี
มร. ฮาร์ทมุท เมห์ดอร์น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินแอร์เบอร์ลิน กล่าวว่า “การร่วมดำเนินการกับ แอร์ฟรานซ์ และเคแอลเอ็ม คืออีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สำคัญที่ได้สร้างเครือข่ายการบินทั่วโลก โดยร่วมกับสารการบินชั้นนำระดับโลก จากยุทธศาสตร์นี้จะนำประโยชน์อย่างมหาศาลมาสู่ธุรกิจของเรา รวมทั้งยังสามารถมอบความสะดวกสบายต่างๆอีกมากมายให้กับผู้โดยสารของเราโดยการเพิ่มจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ และเราก็ยังได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับตลาดในฝรั่งเศสและเยอรมนี”
Jean–Cyril Spinetta ประธานเจ้าหน้าที่แอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม กล่าวว่่า “ความร่วมมือระหว่างแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม สายการบินเอทิฮัด และแอร์เบอร์ลิน ในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงยุทธศาสตร์ในกลุ่มพวกเรา เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถให้บริการได้ดีที่สุดระหว่างยุโรปและจุดหมายปลายทางอื่นๆทั่วโลก ผ่านการพัฒนาเครือข่ายการบินและการทำความร่วมมือกับสายการบิน”
“การทำงานร่วมกับสายการบินเอทิฮัด ทำให้เราสามารถมอบการบริการให้แก่ผู้โดยสารของเราในการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจแห่งใหม่ๆ”
ในส่วนของข้อตกลงระหว่างสายการบินเอทิฮัดและแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม เริ่มแรกแอร์ฟรานซ์ จะใช้รหัส EY ของสายการบินเอทิฮัดบนเที่ยวบินระหว่างท่าอากาศยานปารีส-ชาร์ล เดอ โกล ไปยังบอร์กโดซ์ โคเปนเฮเกน มาดริด นีซ และตูลูส นอกจากนี้รหัส EY ยังจะไปอยู่ในเที่ยวบินของเคแอลเอ็ม บนเส้นทางระหว่าง อัมสเตอร์ดัม ไปยังอาบูดาบี บิลลุนด์ คาร์ดิฟฟ์ นิวคาสเซิล อ็อสโล และสตาวังเงร์
ในส่วนของสายการบินเอทิฮัดจะใช้รหัส AF ของแอร์ฟรานซ์บนเที่ยวบินระหว่างอาบูดาบี ไปยัง เซเชลส์ มัลดีฟส์ โคลัมโบ ธากา กาฐมาณฑุ และอิสลามาบัด นอกจากนี้รหัส KL ของเคแอลเอ็ม จะไปอยู้ในเที่ยวบินของสายการบินเอทิฮัดบนเส้นทางระหว่าง อาบูดาบี ไปยัง ซิดนีย์ เมลเบิร์น อิสลามาบัด โคลัมโบ และ ลาฮอร์
มร. โฮแกน กล่าวเพิ่มเติม “ข้อตกลงนี้ทำให้เราบรรลุเป้าหมายที่จะขยายเครือข่ายการบินไปทั่วโลก และทำให้เรามีเครือข่ายการบินที่ครอบคลุมกว่า 321 จุดหมายปลายทาง นับเป็นจำนวนจุดหมายปลายทางที่มากที่สุดหากเทียบสายการบินจากตะวันออกกลางรายอื่นๆ”
“นอกจากนี้ข้อตกลงดังกล่าวยังจะช่วยเปิดตลาดใหม่ๆให้กับผู้โดยสารของเราในยุโรป รวมทั้งยังช่วยสนับสนุนยุทธศาสตร์ทางด้านการค้าที่สำคัญ สิ่งนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเร่งให้เครือข่ายการบินของเราเติบโตได้อย่างรวดเร็ว”
“การสร้างความร่วมมือ นับเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ช่วยทำให้ผลประกอบการรายได้เติบโต จากการขยายเครือข่ายการบิน และยังเป็นการนำเอาสายการบินของเราเข้าไปอยู่ในกลุ่มผู้โดยสารใหม่นับล้านๆคนได้โดยตรง ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ในส่วนของความร่วมมือกับสายการบินอื่นๆคิดเป็นร้อยละ 18 ของผลประกอบการรายได้ของเรา และจะเป็นปัจจัยที่สำคัญในปีนี้และอนาคตที่ทำให้ผลกำไรของเราเจริญเติบโต”
สำหรับการร่วมมือกันในครั้งนี้ยังมีแผนที่จะมอบสิทธิประโยชน์ทางด้านการบินต่างๆซึ้งกันและกันเช่น การสะสมไมล์ ซึ่งจะไปสะสมอยู่ในโปรแกรมการสะสมไมล์ของทั้งสองสายการบิน ทั้งเอทิฮัด เกส ที่มีอยู่ราว 1.5 ล้านสมาชิก และแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม ฟลายอิ้ง บูล ที่มีสมาชิกอยู่ราว 21 ล้านสมาชิก
สิ่งอื่นๆที่จะมีความเป็นไปได้ในการร่วมมือกัน ประกอบด้วย ข้อตกลงการจัดซื้อร่วม รวมไปถึงความร่วมมือในการบำรุงรักษาและซ่อมแซม ซึ่งทั้งสองสายการบินได้วิเคราะห์ว่าจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย รวมทั้งยังแสวงหาประโยชน์จากการประหยัดจากขนาดของเศรษฐกิจ เช่นที่สายการบินเอทิฮัดได้ทำร่วมกันพันธมิตรรายอื่นๆ
เกี่ยวกับสายการบินเอทิฮัด
สายการบินเอทิฮัด เป็นสายการบินแห่งชาติของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เริ่มให้บริการครั้งแรกในปีพ.ศ. 2546 และในปีพ.ศ. 2554 ได้ให้บริการแก่ผู้โดยสารถึง 8.3 ล้านคน จากฐานการบิน ณ สนามบินนานาชาติอาบูดาบี ปัจจุบันสายการบินเอทิฮัดให้บริการเที่ยวบินสำหรับอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติ 86 จุดหมายปลายทาง ครอบคลุมตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป เอเชีย ออสเตรเลีย และอเมริกาเหนือ ด้วยเครื่องบินแอร์บัสและโบอิ้งจำนวน 67 ลำ และอีกกว่า 100 ลำอยู่ในขั้นตอนการสั่งซื้อ ประกอบไปด้วยเครื่องบินโดยสารที่ใหญ่ที่สุดอย่างเครื่อง เอ380 จำนวน 10 ลำ ทั้งนี้สายการบินเอทิฮัดยังได้เข้าลงทุนในสายการบินแอร์เบอร์ลิน สายการบินแอร์ เซเชลส์ สายการบินเวอร์จิ้น ออสเตรเลีย และแอร์ ลินกัส ทั้งนี้สายการบินเอทิฮัดได้เริ่มดำเนินการในประเทศไทยตั้งแต่ปีพ.ศ. 2547 และปัจจุบันได้ดำเนินการบนเส้นทางอาบูดาบี-กรุงเทพจำนวนสามเที่ยวบินต่อวัน โดยให้บริการด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 777-300อีอาร์ ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายการบินเอทิฮัดได้ที่ www.etihad.com และ www.etihadcargo.com
-กผ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit