เนื่องในวาระครบรอบ 150 ปี บาคาร์ดีขอเฉลิมฉลองความสำเร็จ การพลิกฟื้น และการเติบโตของบริษัท นับตั้งแต่ถูกยึดทรัพย์โดยไม่ชอบธรรมที่คิวบาเมื่อ 52 ปีที่แล้ว

15 Oct 2012

เนื่องในโอกาสครบรอบวันเกิด 150 ปีซึ่งจะมีการเฉลิมฉลองตลอดปี บาคาร์ดีขอฉลองให้กับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในฐานะบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เอกชนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงแรงผลักดันและความอุตสาหะอย่างเหลือเชื่อที่ทำให้บริษัทมาถึงจุดนี้ได้ หลังจากที่บริษัทถูกยึดทรัพย์โดยไม่ชอบธรรมที่คิวบาเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ.1960 หรือ 52 ปีมาแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าไม่ปกติหลังจากที่บริษัททำธุรกิจในคิวบามานานเกือบ 100 ปี แต่ก็เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ผลักดันให้ธุรกิจครอบครัวและรัมบาคาร์ดีเป็นที่รู้จักมากขึ้นในระดับสากล และทำให้บาคาร์ดีกลายเป็นแบรนด์ที่ทั่วโลกจดจำได้อย่างทุกวันนี้ ความจริงแล้ว ภายในระยะเวลา 20 ปีหลังสูญเสียทรัพย์สินในคิวบา รัมบาคาร์ดีได้กลายเป็นแบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์กลั่นระดับพรีเมียมอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกา และไม่ถึง 1 ปีหลังจากนั้น บาคาร์ดีก็ครองตำแหน่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ขายดีอันดับ 1 ของโลก


สามารถชมสื่อมัลติมีเดียเกี่ยวกับข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ได้ที่ http://www.multivu.com/mnr/53412-bacardi-rum-150-anniversary-illegal-cuban-confiscation-international-grow


(โลโก้: http://photos.prnewswire.com/prnh/20121015/MM89922 )


“การที่บาคาร์ดีมีมานะอุตสาหะจนกลายเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก รวมถึงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจสำหรับผู้ที่เข้าใจธรรมเนียมปฏิบัติและจิตวิญญาณของบริษัท” ฟาคุนโด แอล บาคาร์ดี (Facundo L. Bacardi) ประธานบาคาร์ดี ลิมิเต็ด กล่าว “ความสามารถในการพลิกฟื้นและความอุตสาหะฝังอยู่ในดีเอ็นเอ 150 ปีของเรา ไม่ใช่แค่ในครอบครัวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในบริษัทด้วย เรารอดพ้นจากการล้มละลาย การก่อกบฏ การทำลายล้างของแผ่นดินไหว ยุคห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสหรัฐ การปฏิวัติคิวบา การลี้ภัยจากบ้านเกิดเมืองนอน เราผ่านมาแล้วทุกอย่าง เรารู้ดีว่าไม่มีอะไรที่จะมาทำลายหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ของครอบครัวเราหรือจิตวิญญาณที่ทั่วโลกรับรู้ได้ ช่วงเวลาที่ยากลำบากอาจเกิดขึ้นอีก แต่บทเรียนในอดีตจะทำให้เราผ่านพ้นไปได้อย่างแน่นอน”


จัดการกับปัญหาอย่างรวดเร็ว


เรื่องราวของบาคาร์ดีในคิวบาเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีความสามารถในการปรับตัว ยืนหยัด และเติบโตต่อไปท่ามกลางสภาพการณ์ที่ยากลำบากมากมาย และบาคาร์ดีภูมิใจที่ได้รับมรดกตกทอดจากคิวบา ซึ่งรวมถึงการได้รับเกียรติในฐานะบริษัทข้ามชาติแห่งแรกของคิวบาในปีค.ศ.1910 ทั้งนี้ จากจุดเริ่มต้นที่เรียบง่ายในซานติอาโก เดอ คิวบา เมื่อปีค.ศ.1862 บาคาร์ดี ซึ่งเป็นทั้งนามสกุลของครอบครัว ชื่อบริษัท และแบรนด์สินค้า สามารถสร้างความสำเร็จได้อย่างงดงามแม้ว่าจะเผชิญปัญหาส่วนตัวและความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในช่วง 100 ปีแรกของบริษัท ทั้งสงคราม การล้มละลาย และการถูกห้ามขายสินค้า


ความจริงแล้ว การถูกคุกคามจากรัฐบาลนายฟูลเจนซิโอ บาติสตา (Fulgencio Batista) ช่วงทศวรรษ 1940-1950 ซึ่งรวมถึงการที่เขาตัดสินใจว่าจะแปรรูปบาคาร์ดีให้เป็นของรัฐในวันใดวันหนึ่ง เป็นแรงผลักดันให้คณะผู้บริหารบาคาร์ดีต้องออกมาปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา สูตรลับ และยีสต์ที่ค้นพบเองซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการผลิตรัมบาคาร์ดี ด้วยการนำออกไปจากประเทศคิวบา


บาคาร์ดีนำสูตรลับและยีสต์ออกจากคิวบาไปแล้วในตอนที่รัฐบาลคิวบาชุดใหม่ซึ่งมาจากการปฏิวัติและขึ้นสู่อำนาจเมื่อปีค.ศ.1959 ได้ออกกฎหมายมาตรา 890 เพื่อแปรรูปอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทั้งหมดให้เป็นของรัฐเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ.1960 ถือเป็นการสิ้นสุดการครอบครองทรัพย์สินโดยภาคเอกชนในคิวบา นอกเหนือจากอสังหาริมทรัพย์และบริษัทของต่างชาติแล้ว บริษัทคิวบาเกือบ 400 แห่งซึ่งรวมถึงธนาคารและโรงงานผลิตมากมาย ต่างถูกรัฐบาลยึดไปโดยไม่ชอบธรรมทั้งสิ้น


ในวันที่ 14 ตุลาคม เจ้าหน้าที่กองทัพคิวบาได้มุ่งหน้าไปยังสำนักงานขายของบาคาร์ดีในเมืองฮาวานา พร้อมกับเอกสารหนึ่งแผ่นที่อ้างว่ารัฐมีอำนาจควบคุมบริษัท แต่รัฐบาลคิวบาทำพลาดครั้งใหญ่ ซึ่งทำให้โลกของรัมยังคงอยู่มาจนทุกวันนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไปผิดที่และผิดเมือง สำนักงานใหญ่และโรงงานผลิตของบาคาร์ดีอยู่ที่ซานติอาโก ซึ่งอยู่อีกซีกหนึ่งของประเทศ เจ้าหน้าที่ยึดทรัพย์ต้องขึ้นเครื่องบินไปที่ซานติอาโก ทำให้บาคาร์ดีมีเวลา 24 ชั่วโมงในการทำลายยีสต์ทั้งหมด ซึ่งเป็นส่วนผสมลับที่ทำให้รัมบาคาร์ดีมีรสนุ่มละมุนและรสชาติคงเดิมไม่ว่าจะดื่มด่ำที่ไหนก็ตามบนโลก ดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถผลิตรัมบาคาร์ดีในคิวบาได้อีก


ในวันต่อมาซึ่งตรงกับวันที่ 15 ตุลาคม เจ้าหน้าที่รัฐบาลมาถึงที่สำนักงานใหญ่ของบาคาร์ดีในซานติอาโก และบังคับให้คณะผู้บริหารบาคาร์ดีลงนามใน “เอกสารการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์” ทันทีที่จรดปลายปากกาและเซ็น สินทรัพย์ของบาคาร์ดีทั้งหมดในคิวบาก็ถูกยึด และครอบครัวบาคาร์ดีก็สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่สร้างมาตลอด 98 ปี


อย่างไรก็ดี ในตอนนั้นบาคาร์ดีได้ตั้งบริษัทในประเทศอื่นอีก 4 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก เปอร์โตริโก และบาฮามาส ที่ซึ่งเครื่องหมายการค้าและยีสต์ของบาคาร์ดีได้รับการรักษาอย่างปลอดภัยตั้งแต่ก่อนที่กองกำลังปฏิวัติจะยึดประเทศ ความรอบคอบเช่นนี้ช่วยรักษาทั้งบริษัทและรัมบาคาร์ดี ส่วนยีสต์สายพันธุ์พิเศษซึ่งเป็นที่ปรารถนาของใครหลายคนก็ยังคงทำให้รัมบาคาร์ดีมีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ สามารถผสมกับเครื่องดื่มอื่นได้อย่างลงตัว และมีสัมผัสที่สมดุลโดดเด่นดังเช่นทุกวันนี้ อย่างที่เคยเป็นมาตลอด 150 ปี และยังคงอยู่ภายใต้การรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด


การเติบโตและความสำเร็จในระดับสากล


ด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกลและการลงมือทำอย่างรวดเร็ว สิ่งที่น่าจะเป็นความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงจึงกลับกลายเป็นแรงผลักดันที่ทำให้บาคาร์ดีกลับมารวมกลุ่มกันและยังคงเป็นธุรกิจครอบครัว และกลายเป็นบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ซึ่งจำหน่ายเครื่องดื่มหลายแบรนด์ดังในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก อย่างรัมบาคาร์ดีก็เป็นรัมที่ขายดีที่สุดและเป็นรัมที่คว้ารางวัลมาครองมากที่สุดในโลก นอกจากนั้นยังครองตำแหน่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่คว้ารางวัลมากที่สุดเกือบ 600 รางวัล ทั้งในด้านรสชาติ คุณภาพ และนวัตกรรม


“หากเราไม่ได้พยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา เราอาจไม่ได้สร้างรากฐานที่มั่นคงในตลาดอื่นๆ ซึ่งช่วยผลักดันให้รัมบาคาร์ดีเป็นแนวหน้าในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การตัดสินใจของคณะผู้บริหารของบาคาร์ดีเมื่อกว่า 50 ปีมาแล้ว ช่วยยกระดับบริษัทให้สูงขึ้นอีกขั้นหนึ่งและทำให้บริษัทสามารถพัฒนาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รสชาติเยี่ยมซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกได้ ทั้ง GREY GOOSE, BOMBAY SAPPHIRE, DEWAR'S และ MARTINI" เอ็ด เชอร์ลีย์ (Ed Shirley) ประธานและซีอีโอบริษัท บาคาร์ดี ลิมิเต็ด ธุรกิจครอบครัวซึ่งมีสำนักงานใหญ่ระดับโลกในเบอร์มิวดา กล่าว


บาคาร์ดียังคงภาคภูมิใจในมรดกตกทอดจากคิวบา และหวังว่าจะมีสักวันหนึ่งที่บริษัทจะได้กลับไปลงทุนทำธุรกิจในบ้านเกิดอีกครั้ง และได้ช่วยผลักดันให้คิวบาก้าวสู่โลกใหม่ที่ทันสมัยกว่าเดิม สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบาคาร์ดีได้ที่ www.BacardiLimited.com/150


เกี่ยวกับบาคาร์ดี ลิมิเต็ด


บาคาร์ดี ลิมิเต็ด เป็นบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เอกชนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ผลิตและทำการตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และไวน์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลกมากมาย รายชื่อแบรนด์ของบาคาร์ดี ลิมิเต็ด ประกอบไปด้วยแบรนด์และฉลากกว่า 200 ชื่อ ไม่ว่าจะเป็น BACARDI รัมที่ขายดีที่สุดและคว้ารางวัลมาครองมากที่สุดในโลก, GREY GOOSE วอดก้าระดับซูเปอร์พรีเมียมชั้นนำของโลก, DEWAR'S สก็อตช์วิสกี้ผสมที่ขายดีที่สุดในสหรัฐ, BOMBAY SAPPHIRE จินพรีเมียมมูลค่าสูงสุดและเติบโตเร็วที่สุดในโลก, MARTINI ผู้นำไวน์เวอร์มุทและสปาร์คลิงไวน์สัญชาติอิตาลียอดนิยมระดับโลก, CAZADORES เตกีลาที่ผลิตจากอากาเวสีน้ำเงิน 100% เป็นเตกีลาเกรดพรีเมียมหมายเลข 1 ในเม็กซิโก และเป็นเตกีลาพรีเมียมที่ขายดีที่สุดในสหรัฐ, ERISTOFF วอดก้าแบรนด์ที่ขยายตัวเร็วที่สุดในโลกแบรนด์หนึ่ง นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ชั้นนำและแบรนด์ใหม่อื่นๆอีกมากมาย


บาคาร์ดีก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1862 ที่ซานติอาโก เดอ คิวบา ธุรกิจครอบครัวแห่งนี้สืบทอดต่อกันมาแล้วถึง 7 รุ่น ปัจจุบันบาคาร์ดีมีพนักงานเกือบ 6,000 คน ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทในโรงงาน 27 แห่ง ใน 16 ตลาด ใน 4 ทวีป และวางจำหน่ายในกว่า 150 ประเทศ ทั้งนี้ บาคาร์ดี ลิมิเต็ด หมายถึงกลุ่มบริษัทในเครือบาคาร์ดี ซึ่งรวมถึงบาคาร์ดี อินเตอร์เนชันแนล ลิมิเต็ด สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.BacardiLimited.com


ENJOY RESPONSIBLY


(C)2012 BACARDI


BACARDI, THE BAT DEVICE และเครื่องหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัทบาคาร์ดี ที่มีการกล่าวถึงในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ ถือเป็นเครื่องหมายการค้าของบาคาร์ดี แอนด์ คอมพานี ลิมิเต็ด หรือบริษัทอื่นๆในเครือบาคาร์ดี ลิมิเต็ด


-ปม/ปป-