ผู้ถือหุ้นธนาคารเกียรตินาคินและทุนภัทรอนุมัติแผนการร่วมกิจการ เดินหน้าเตรียมทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์หุ้นทุนภัทร หลังได้รับอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล

26 Apr 2012

กรุงเทพฯ--26 เม.ย.--ธนาคารเกียรตินาคิน

ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2555 ของธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) และบริษัททุนภัทร จำกัด (มหาชน) ต่างมีมติอนุมัติแผนการร่วมกิจการระหว่างธนาคารเกียรตินาคินและทุนภัทรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ทางธนาคารเกียรตินาคินและบริษัททุนภัทรจะยื่นเรื่องขออนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย กลต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป

นายสุพล วัธนเวคิน ประธานกรรมการ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (Mr. Supol Wattanavekin, Chairman of Kiatnakin Bank Public Company Limited) กล่าวว่า “เป็นที่น่ายินดีว่าแผนการร่วมกิจการระหว่างธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) และบริษัททุนภัทร จำกัด (มหาชน) ได้สำเร็จลุล่วงไปอีกระดับหนึ่ง โดยจากการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2555 ของทุนภัทร ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2555 และธนาคารเกียรตินาคิน ที่จัดขึ้นในวันนี้ (26 เมษายน 2555) ต่างมีมติอนุมัติวาระต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับแผนการร่วมกิจการระหว่างธนาคารเกียรตินาคิน และทุนภัทร โดยต่อจากนี้ ทั้งธนาคารเกียรตินาคิน และทุนภัทร จะดำเนินการขออนุมัติการเข้าร่วมกิจการจากธนาคารแห่งประเทศไทย และหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง เมื่อได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานดังกล่าวแล้ว ธนาคารจะเริ่มทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) หุ้นทุนภัทร เพื่อเพิกถอนหุ้นของบริษัททุนภัทรออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (Delisting Tender Offer) ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จไตรมาสที่ 3 นี้”

นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการ บริษัททุนภัทร จำกัด (มหาชน) (Mr. Banyong Pongpanich, Chairman of Phatra Capital Public Company Limited) เปิดเผยว่า “ตลอดช่วงเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารเกียรตินาคินและภัทรได้ร่วมกันวางแผนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจร่วมกัน โดยมีแผนที่จะให้ธนาคารเกียรตินาคินเป็นธนาคารเพื่อการลงทุนที่มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าสถาบันและลูกค้าบุคคลรายใหญ่ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของบุคลากรในการจัดการการลงทุนและการสร้างโอกาสทางธุรกิจ โดยทางธนาคารจะมีการพัฒนาธุรกรรมทางด้านการค้าตราสารหนี้ ยิ่งไปกว่านั้นธนาคารจะได้รับประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นทันที จากการขยายบริการให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าของทั้งสองสถาบัน ซึ่งรายละเอียดจะสามารถเปิดเผยได้ประมาณไตรมาส 3 ปีนี้”

-กผ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net