ฟินันซ่า ออกกองทุนตราสารหนี้ roll over เน้นลงทุนต่อเนื่องทุก 3 เดือนรับแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ย ประมาณการผลตอบแทนรอบแรก 3.25% ต่อปี

14 Mar 2012

กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--บลจ.ฟินันซ่า

นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ฟินันซ่า จำกัด เผยแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อ ว่า “ขณะนี้ แรงกดดันเงินเฟ้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน ค่าจ้างขั้นต่ำ และการลงทุนของภาครัฐและเอกชนเพื่อป้องกันแผน น้ำท่วม ดังนั้น มีความเป็นไปได้ว่า อัตราเงินเฟ้อ จะเร่งตัวขึ้นอย่างมากในช่วงปลายปี 2555 และอาจจะส่งผลให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจะต้องขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยนโยบายในปลายปีนี้ ดังนั้นเพื่อไม่ให้ผู้ลงทุนเสียประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น บลจ.ฟินันซ่า จึงแนะนำให้ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น อายุ 6 เดือน กองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัส 6เดือน7 (FAM FIP6M7) จะเปิดเสนอขายครั้งแรก (ไอพีโอ) ตั้งแต่ 13-19 มีนาคม 2555 นี้ ด้วยประมาณ การผลตอบแทนที่ 3.40% ต่อปี โดยสามารถลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท

FAM FIP6M7 เป็น specific fund หรือกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน มีนโยบายที่จะลงทุนในหรือมีไว้ ซึ่งตราสารแห่งหนี้ที่มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยและเงินต้น โดยกองทุนจะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน และ/หรือ เงินฝาก ของ ภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) กองทุนนี้เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้นในตราสารหนี้ภาครัฐและภาคเอกชนและ/หรือ เงินฝาก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมีโอกาส รับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากธนาคาร ในระยะเวลานานประมาณ 6 เดือน กองทุนมีการลงทุนในต่างประเทศซึ่งเราได้ทำการการป้องความเสี่ยงจากอัตราแลก เปลี่ยนเต็มจำนวนประมาณการอัตรารับซื้อคืนอัตโนมัติของกองทุนเท่ากับ 3.40 % ต่อปี ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน

ตราสารที่ลงทุน

ผลตอบแทนของตราสารในรูปสกุลเงินบาทโดยประมาณ (ต่อปี) สัดส่วนการลงทุนโดยประมาณ ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนในรูปสกุลเงินบาทโดยประมาณ (ต่อปี) ระยะเวลาการลงทุนโดยประมาณ

เงินฝากธนาคารต่างประเทศ สกุลเงิน USD หรือ CNY กับธนาคาร BOC, Macao, Banco หรือเงินฝากสกุลเงิน AED ธนาคาร Union National Bank,UAE (P-1)* ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ*** 3.95 %*

20.00%

0.79%

6 เดือน

เงินฝาก AED ธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank, UAE (F1)

4.40%

24.00%

1.05%

6 เดือน

ตราสารหนี้ (EMTN) Banco Itau BBA,Brazil (BBB )*

3.50%

24.00%

0.84%

6 เดือน

ตราสารหนี้ บมจ MINT(A) และตั๋วแลกเงิน/หรือหุ้นกู้บริษัทเอกชนที่มี อันดับเครดิตตั้งแต่ BBB+ ขึ้นไป****

3.40%

30.00%

1.02%

6 เดือน

ตั๋วเงินคลัง หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย

3.00%

2.00%

0.06%

6 เดือน

ประมาณการค่าใช้จ่ายกองทุน (ต่อปี)

(0.36%)

อัตรารับซื้อคืนอัตโนมัติ (ต่อปี)

3.40%

หมายเหตุ:*ตราสารหนี้ธนาคารไอซีไอซีไอ สาขาอินเดีย(BBB-/S&P), Banco Do Brazil, Brazil (BBB+/S&P) GS Caltex, Korea(A2/S&P) โดยอัตราผล ตอบแทนที่เสนอโดยผู้ออกตราสารและ**มีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน USD หรือ CNY หรือ AED เป็นเงินบาทแล้ว(ข้อมูล ณ วันที่ 13 มีนาคม 2555)

*** เงินฝากธนาคารออมสิน หรือ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือตั๋วเงิน หรือหุ้นกู้ ธนาคารเกียรตินาคิน,ธนาคารไอซีบีซี(ไทย),ธนาคาร ทิสโก้,ธนาคารทหารไทย,ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย,ธนาคารกรุงไทย,บริษัททุนธนชาต,ธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์ เป็นต้น (ข้อมูล ณ วันที่ 13 มีนาคม 2555)

****ตั๋วแลกเงินหรือหุ้นกู้บริษัทเอกชน เช่น บมจ.บัตรเครดิต กรุงไทย (BBB+) ,บมจ.เอเซียเสริมกิจ (BBB+), บมจ.แสนสิริ (BBB+) ,บมจ. เอส ซี เอสเซท (BBB+), บมจ. แลนด์ แอนด์เฮ้าส์ (A),บมจ.เอเชียน พร็อพเพอร์ตี ดีเวลล็อปเมนต์ (A),บมจ. ศุภาลัย (A-) บมจ.ภัทรลีสซิ่ง (A-)บมจ.ควอลิตี้ เฮ้าส์ (A-),บมจ.โรจนะ (A-),บมจ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ลิส (A+) ,บมจ.พฤกษา (A) ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่ สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับเงินค่าขายคืนอัตโนมัติเท่าที่คาดหวังไว้เมื่อเกิดเหตุการณ์ผิดนัดชำระดอกเบี้ย หรือเงินต้นของผู้ออกตราสาร หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้เนืองจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไปหรือผลการประมูลของตราสารไม่เป็นไปตาม ที่กำหนดผู้ถือหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่ประมาณการไว้ ทั้งนี้ ตราสารที่ลงทุน สัดส่วนการลงทุน และประมาณการค่าใช้จ่าย อาจมีการ เปลี่ยนแปลงได้ หากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป หรือตามที่บริษัทจัดการเห็นสมควร ในการนี้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหน่วยลงทุน กองทุนจะถือ ทรัพย์สินที่ลงทุนตลอดอายุโครงการจัดการกองทุนรวมหรือตลอดรอบการลงทุนในแต่ละรอบ

เมื่อครบกำหนดการลงทุนบริษัทจัดการจะทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ โดยจะจัดให้มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนส่วนที่เหลือทั้งหมดของ กองทุนนี้เพื่อใช้ในการสับเปลี่ยนไปยังกองทุนเปิดฟินันซ่าเพิ่มพูนทรัพย์ (FAM VF) หรือกองทุนรวมตลาดเงินอื่นภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการของผู้ ถือหน่วยลงทุนทุกรายโดยอัตโนมัติ

ตารางผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนเปิดฟินันซ่า เพิ่มพูนทรัพย์ ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2555

ผลตอบแทนย้อนหลัง FAM VF เกณฑ์มาตรฐาน*

3 เดือน

3.01% 1.95%

6 เดือน

3.12% 1.95%

1 ปี

2.75% 1.73%

3 ปี

n/a

n/a

YTD

0.45% 0.30%

ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน 2.48% 1.56%

*เกณฑ์มาตรฐาน อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือนเฉลี่ย ประเภทบุคคลธรรมดาวงเงิน 1 ล้านบาทของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

การวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมนี้ ได้จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการวัดผลการดำเนินงานกองทุนรวมของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน

ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน ผู้ลงทุนควรลงทุนในกองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัส 6เดือน7 เมื่อ เห็นว่าการลงทุนในกองทุนนี้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การลงทุนของตนและผู้ลงทุนยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนได้

ในกรณีที่มีเหตุการณ์ไม่ปกติ ผู้ลงทุนอาจได้รับชำระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนล่าช้ากว่าระยะเวลาที่กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวน

ในกรณีที่กองทุนนี้ไม่สามารถดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องได้ ผู้ลงทุนอาจไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ตามที่มีคำสั่งไว้ เนื่องจากกองทุนนี้ลงทุนในต่างประเทศบางส่วน จึงมีความเสี่ยงที่ทางการของต่างประเทศอาจออกมาตรการในภาวะที่เกิดวิกฤตการณ์ไม่ปกติ ทำให้กองทุน ไม่สามารถนำเงินกลับเข้ามาในประเทศ ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ลงทุนไม่ได้รับคืนเงินตามระยะเวลาที่กำหนด

กองทุนนี้มีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาถึงปัจจัยต่างๆ ที่อาจมีผลกระทบอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

กองทุนจะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (Fully Hedged)

ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนให้เข้าใจและควรเก็บหนังสือชี้ชวนไว้เป็นข้อมูลเพื่อใช้อ้างอิงในอนาคต และเมื่อมีข้อสงสัย ให้สอบ ถามผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนให้เข้าใจก่อนซื้อหน่วยลงทุน -กภ-