กรุงเทพฯ--12 มี.ค.--เวิรฟ
พร้อมโชว์ศักยภาพของผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรมและการันตีคุณภาพด้วยฉลากรับรองมาตรฐาน SCG Eco Value
ตราช้าง คอตโต้ และซีแพค ตอกย้ำการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนควบคู่กับการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังต่อเนื่อง ก้าวสู่อีกขั้นในการผนึกกำลังเป็นองค์กรชั้นนำกลุ่มแรกของเมืองไทย ที่แสดงความจำนงเสนอ “อาคารสำนักงาน โครงการขยายกำลังการผลิต New Plant หนองแค” เข้ารับ การประเมินมาตรฐานอาคารเขียวไทย หรือ TREES NC (THAI’S RATING OF ENERGY AND ENVIRONMENTAL SUSTAINABLE) นับเป็นการยกระดับแนวทางการพัฒนางานสถาปัตยกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในประเทศไทย ด้วยจุดเด่นของนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง “ตราช้าง คอตโต้ และซีแพค” ทั้งระบบงานพื้น ผนัง ฝ้า หลังคา ไปจนถึงสุขภัณฑ์ ที่ตอบโจทย์คุณภาพด้านการอนุรักษ์พลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมตอบสนองการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
“TREE NC” หรือ “มาตรฐานอาคารเขียวไทย” เป็นมาตรฐานที่กำหนดโดย “สถาบันอาคารเขียวไทย” เพื่อใช้เป็นมาตรฐานสำหรับรับรองอาคารหรือสิ่งก่อสร้างในเมืองไทยที่มีความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งหวังให้มาตรฐานดังกล่าวเทียบเท่ากับมาตรฐานสากลอย่าง LEED ที่กำหนดโดย U.S.Green Building Council (USGBC) และมาตรฐาน TEEAM ซึ่งกำหนดโดยกระทรวงพลังงาน เพื่อเป็นการกระตุ้นให้สังคมไทย หันมาใส่ใจถึงความสำคัญของ “อาคารเขียว” (Green Building) เพื่อการพัฒนาสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันมีหลายหน่วยงานชั้นนำของเมืองไทยได้เข้าร่วมสนับสนุนและผลักดันให้มาตรฐานดังกล่าวเป็นที่ยอมรับในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
นายพันเทพ สุภาไชยกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัท กระเบื้องกระดาษไทย จำกัด เอสซีจีผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เปิดเผยว่าเราได้เข้าร่วมเป็นบริษัทชั้นนำกลุ่มแรกในการแสดงความจำนงเข้ารับการประเมินมาตรฐาน TREES โดยเสนอ “อาคารสำนักงาน โครงการขยายกำลังการผลิต New Plant หนองแค” ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี โดยใช้งบประมาณก่อสร้าง 30 ล้านบาท ก่อสร้างเป็นอาคารสำนักงาน 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 1,440 ตารางเมตร ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ บริษัท กระเบื้องกระดาษไทย จำกัด และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2555 เพื่อเป็นการยืนยันแนวทางการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและเพิ่มคุณภาพชีวิตของพนักงานที่ใช้อาคาร โดยใช้จุดเด่นของผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างในกลุ่ม “ตราช้าง คอตโต้ และซีแพค” ทั้งระบบงานพื้น ผนัง ฝ้า หลังคา ไปจนถึงสุขภัณฑ์ที่ช่วยส่งเสริมให้เป็นอาคารดังกล่าวสามารถประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการรับรองฉลากมาตรฐาน SCG Eco Value อาทิ บล็อคระบายน้ำ POROUS Block ในกลุ่มแลนด์สเคปตราช้าง ที่ช่วยลดปัญหาน้ำท่วมขัง และน้ำไหลล้นออกนอกพื้นที่โครงการเข้าตามเกณฑ์การพิจารณาในหมวดผังบริเวณและภูมิทัศน์ (Site & Landscape) ระบบงานกรอบอาคารที่ประกอบจากผลิตภัณฑ์ตราช้าง เช่น ระบบฝ้าและผนังสมาร์ทบอร์ด ฉนวนกันความร้อน ตราช้าง Stay Cool ฯลฯ ที่ช่วยลดความร้อนที่เข้าสู่ตัวอาคาร และสามารถลดอัตราการใช้พลังงานในอาคาร ตามเกณฑ์ประเมินในหมวดพลังงานและบรรยากาศ (Energy & Atmosphere) สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ประหยัดน้ำ COTTO ลดปริมาณการใช้น้ำในโครงการลงอย่างน้อย 15% เข้าตามเกณฑ์พิจารณาในหมวดการประหยัดน้ำ (Water Conservation) นอกจากนี้ วัสดุในการก่อสร้างทั้งหมดยังเข้าเกณฑ์ในหมวดวัสดุและทรัพยากรในการก่อสร้าง (Materials and Resources) เนื่องจากเป็นวัสดุที่ผลิตภายในประเทศ (Regional Material) ลดการก่อให้เกิดก๊าซ CO2 จากการขนส่ง ใช้ส่วนผสมของวัสดุรีไซเคิล อาทิ คอนกรีต CPAC ที่ผลิตจากเถ้าลอย (Fly ash) หรือฉนวนกันความร้อนตราช้างที่ผลิตจากแก้วรีไซเคิล นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ยังได้ผ่านการรับรองโดยหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่น ฉลากเขียว ฉลากคาร์บอน เป็นต้น
นอกจากการขอรับรองมาตรฐาน TREES NC แล้ว เอสซีจียังถือเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญต่อการก่อสร้างอาคารที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจัดทำโครงการ “Green Elephant Building” ซึ่งเป็นโครงการปรับปรุงอาคารสำนักงานเดิมของบริษัท SCG Trading ให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร และลดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงาน ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐาน TEEAM ระดับฉลากทอง จากกระทรวงพลังงานในปี 2009 ต่อเนื่องด้วยรางวัล Thailand’s Energy Awards 2010 และรางวัล 1st Runner-up for ASEAN Energy Award 2010 ในกลุ่ม Retrofitted Building นอกจากนี้ ยังมีอาคารสำนักงานใหญ่ 1,2 และอาคาร 5 ซึ่งอยู่ที่บางซื่อ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการขอรับรองมาตรฐาน LEED อีกด้วย
ทางด้าน นายธนศักดิ์ สาคริกานนท์ ประธานคณะทำงาน SCG Eco Product เปิดเผยว่า จากแนวคิดในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน รวมถึงการให้ความสำคัญเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้นของผู้คน เอสซีจี จึงได้ผลักดันแนวคิดโลกสีเขียวอย่างจริงจังด้วยการเริ่มต้นวางมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อรับรองสินค้าและบริการของกลุ่มธุรกิจในเอสซีจี และสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคผ่านฉลากรับรองสินค้าและบริการของเอสซีจี โดยเฉพาะการจัดทำฉลากรับรอง SCG Eco Value ที่ใช้เป็นมาตรฐานในการรับรองสินค้าหรือบริการที่มีกระบวนการผลิต (Eco Process) หรือใช้งาน (Eco Use) ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่าสินค้าทั่วไป เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค เช่น ปูนตราช้าง GREY Cement หลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ ตราช้างรุ่นลอนคู่ / PRIMA / AYARA ตราช้างสมาร์ทบอร์ดและสมาร์ทวูด ฉนวนกันเสียง CYLENCE? by ตราช้าง บล็อกปูพื้น ตราช้าง รุ่น COOL Plus เป็นต้น
“จากการมุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้าหลายรายการให้ได้การรับรองมาตรฐานดังกล่าวแล้ว สินค้าบางรายการยังได้ถูกนำมาใช้เป็นวัสดุก่อสร้างที่มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้ “อาคารสำนักงาน โครงการขยายกำลังการผลิต New Plant หนองแค” เข้าสู่การประเมินการรับรองมาตรฐานอาคารเขียวไทย และได้นำมาจัดแสดงให้ทดสอบประสิทธิภาพของสินค้าภายในงานเปิดตัวสถาบันอาคารเขียวไทย ในวันจันทร์ที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะ ฉนวนกันความร้อนตราช้าง Stay Cool ซึ่งเนื้อฉนวนเป็น สีเขียว Green-3 มีประสิทธิภาพในการปกป้องความร้อนได้ดียิ่งขึ้น ด้วยสาร HydroProtec? ที่ช่วยลดการอุ้มน้ำ ไม่ดูดซับน้ำและความชื้น และเป็นวัสดุไม่ลามไฟ จึงไม่เป็นฉนวนที่ก่อให้เกิดอัคคีภัย ซึ่งสามารถสะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความใส่ใจของเอสซีจีในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่กระบวนการออกแบบ การผลิต การบรรจุหีบห่อ การขนส่ง ตลอดจนการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด” นาย ธนศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย
-กภ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit