อิมเมชั่นมั่นใจ “DataGuard” เสริมแกร่งระบบสำรองข้อมูลบนคลาวด์ โซลูชั่นด้านสตอเรจเพื่อทางเลือกที่เหนือชั้นในการปกป้องข้อมูลให้ธุรกิจเอสเอ็มอี

26 Mar 2012

กรุงเทพฯ--26 มี.ค.--อิมเมชั่น (ประเทศไทย)


อิมเมชั่นเผยโฉมอุปกรณ์ใหม่ล่าสุด “DataGuard R4” และ “DataGuard T5R” จุดประกายเอสเอ็มอีสู่อนาคตการสร้างระบบสำรองข้อมูลบนคลาวด์ มั่นใจช่วยธุรกิจเอสเอ็มอีสร้างระบบสำรองข้อมูลบนคลาวด์ได้ตรงความต้องการ ย้ำกลยุทธ์การพัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลต้องคุ้มค่า ทั้งการปกป้องข้อมูลทุกระดับโดยใช้อิฟราสตรัคเจอร์พื้นฐานในการแบ็คอัพชุดเดียวกัน เสริมความยืดหยุ่นในการทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ อาทิ ฮาร์ดไดร์ฟ ดิสก์ RDX แบบเคลื่อนย้ายได้ อุปกรณ์สตอเรจแบบคลาวด์ในการทำซ้ำข้อมูล พร้อมเชื่อมโยงกับระบบที่มีอยู่เดิมได้มีประสิทธิภาพ เพื่อปกป้องเม็ดเงินลงทุนด้านไอทีให้กับธุรกิจ

นายเอียน วิลเลียม รองประธานฝ่ายการตลาดทั่วโลก บริษัท อิมเมชั่น คอร์ป เปิดเผยว่า ธุรกิจ ณ วันนี้คงไม่อาจต้านทานกระแสของคลาวด์ได้ แต่การเริ่มต้นย้ายข้อมูลขึ้นสู่คลาวด์นั้น ยังติดขัดในเรื่องข้อมูลที่มีปริมาณมาก กับข้อจำกัดของแบนด์วิธ ยิ่งเป็นการย้ายข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตก็ยิ่งต้องใช้เวลาซึ่งขึ้นอยู่กับว่าเรามีข้อมูลที่ต้องดำเนินการมากแค่ไหน DataGuard จะช่วยแก้ไขข้อจำกัดโดยลูกค้าสามารถเริ่มต้นเข้าสู่คลาวด์โดยนำดิสก์ข้อมูล RDX ไปให้ผู้บริการด้านคลาวด์ และสามารถวางแนวทางเพื่อตรวจสอบเป็นระยะ ๆ ผ่าน ซอฟท์แวร์ เมเนเจอร์ส เพื่อดูว่าระบบสำรองข้อมูลบนคลาวด์ยังใช้การได้ดีอยู่หรือไม่

“เอสเอ็มอีส่วนใหญ่ต่างสนใจระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง และเข้าใจถึงประสิทธิภาพที่ส่งผลดีต่อต้นทุนและการบริหารงาน แต่ที่ยังไม่เข้าสู่คลาวด์เพราะติดกับอินฟราสตรัคเจอร์ที่ได้ลงทุนไปแล้ว DataGuard จะมีส่วนช่วยให้ลูกค้าเข้าสู่คลาวด์ได้ง่ายขึ้น” นายบิล ชิลลิ่ง ผู้อำนวยการด้านการตลาดอุปกรณ์สตอเรจ บริษัท อิมเมชั่น กล่าวเสริม

อุปกรณ์บริหารการจัดเก็บและสำรองข้อมูลแบบ DataGuard R4 และ T5R พร้อมช่วยธุรกิจเอสเอ็มอีในการสร้างระบบสำรองข้อมูลบนคลาวด์ได้ตรงความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องข้อมูล การกำหนดแนวปฏิบัติที่เหมาะสม และการกู้คืนข้อมูลยามวิกฤต การส่งผ่านประสิทธิภาพการทำงานได้ไม่ต่างจากอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบ NAS (Network Attached Storage)โดยรวมความสามารถที่เหนือชั้นในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล ความยืดหยุ่นและการใช้งานที่สะดวกไว้ด้วยกัน การสำเนาข้อมูลโดยใช้ดิสก์ RDX ซึ่งให้ความสะดวกรวดเร็วทั้งการแบ็คอัพข้อมูลในระบบหลัก (Onsite) ข้อมูลระยะไกลหรือต่างพื้นที่ (Offsite) ช่วยลดเวลาในการกู้คืนข้อมูลที่อยู่ภายในหรือภายนอกองค์กร หรือสามารถกู้คืนได้ตามเวลาที่กำหนด การสำรองข้อมูลไปยังอุปกรณ์จัดเก็บแบบคลาวด์โดยการตั้งค่าอัตโนมัติแทนการใช้คนเพื่อป้องกันข้อผิดพลาด DataGuard ยังทำงานร่วมกับอินฟราสตรัคเจอร์หรือระบบกู้คืนข้อมูลขององค์กรที่มีอยู่แล้วได้มีประสิทธิภาพ ทั้งยังขยายขอบเขตการทำงานเพื่อรองรับโซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ซึ่งครอบคลุมทั้ง APIs, Amazon S3, Dropbox และ OpenStack-based

เจอโรม เวนด์ท นักวิเคราะห์แถวหน้าและประธานบริษัท DCIG บริษัทที่ปรึกษาและวิเคราะห์ด้านระบบจัดเก็บข้อมูลและ สกอตต์ สแลค รองประธานฝ่ายการตลาด Crenel Imaging ผู้ให้บริการรูปแบบการบริหารจัดการข้อมูลภายในองค์กรธุรกิจ ต่างขานรับถึงประสิทธิภาพของ DataGuard ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ความสนใจกับเรื่องที่สร้างความวิตกกังวลของเอสเอ็มอีและพร้อมแก้ไขปัญหาด้านการปกป้องข้อมูลในปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นสะพานเชื่อมสู่ระบบป้องกันและกู้คืนข้อมูลบนคลาวด์ในอนาคต

DataGuard R4 ในรูปทรงแบบ Rack มีช่องติดตั้งฮาร์ดดิสก์ 3.5” SATA ได้ 4 ตัว และช่องยูเอสบี 5 ช่องทั้งเวอร์ชัน 2.0 และ 3.0 สำหรับต่อเพิ่มดิสก์ RDX และ DataGuard T5R ในแบบ Tower Desktop มีช่องติดตั้งฮาร์ดดิสก์ 3.5” SATA ได้ 5 ตัว และดิสก์ SATA RDX 1 ตัว พร้อมช่องยูเอสบีอีก 5 ช่อง ดำเนินการจัดจำหน่ายผ่านเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายของอิมเมชั่นทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่เหมาะกับเอสเอ็มอีซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน ยังประกอบไปด้วย เทปบันทึกข้อมูล Imation LTO Tape Libraries อุปกรณ์บันทึกข้อมูลส่วนที่เกินระยะใช้งาน Imation InfiniVault multi-tiered data-archive และดิสก์เก็บข้อมูลแบบเคลื่อนย้ายได้ Imation RDX removable hard disk storage


-นท-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net