กรุงเทพฯ--25 มิ.ย.--พรีม่า เฮิร์บ
ในปัจจุบันมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ป่วยเป็นโรคเข่าเสื่อม เมื่อก่อนเราคิดว่าโรคเข่าเสื่อมคงเกิดได้เฉพาะกับผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ปัจจุบันสามารถเกิดได้กับผู้มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการนั่งขัดสมาธิ หรือนั่งงอเข่า การยืนเป็นเวลานานๆ การเดินขึ้น ลงบันได น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งล้วนแต่ส่งผลต่อการเสื่อมของเข่าโดยทั้งสิ้น
การรักษาผู้ป่วยโรคข้อเสื่อมมีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการทานยาลดการปวดอักเสบ การทำกายภาพบำบัด แต่ต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและใช้เวลานานพอสมควร การฉีดยาเพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงเข้าข้อเข่า ต้องฉีดเป็นประจำ และมีผลเสียตามมาภายหลัง และการผ่าตัดซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ทั้งยังอาจเสี่ยงติดเชื้อหลังการผ่าตัดได้ ทำให้มีอันตรายตามมาอีกมากมาย จนเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยหลายคนเริ่มหันมาพึ่งวิธีธรรมชาติบำบัดเพราะปลอดภัยและราคาประหยัดกว่า
ศ.ดร. อุษณีย์ วินิจเขตคำนวณ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ค้นพบว่าผลไม้ไทยของภาคเหนืออย่างลำไย มีเมล็ดที่ดูไม่มีประโยชน์แต่อุดมไปด้วยสารโพลีฟินอลและฟลาโวนอยด์ซึ่งมีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันขบวนการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และยับยั้งการสลายของกระดูกอ่อน สามารถช่วยให้เกิดน้ำหล่อเลี้ยงที่ข้อได้ดี จึงได้ทำการวิจัยจนได้สารสกัดจากเมล็ดลำไยชื่อว่า “ลองกานอยด์” จากนั้นนำไปผสมกับว่านสมุนไพรพื้นเมือง 12 ชนิดของทางภาคเหนือ และเพื่อให้สะดวกต่อการนำไปใช้จึงทำออกมาในรูปของครีมนวด แล้วนำไปทดสอบกับกลุ่มอาสาสมัครที่มีปัญหาเป็นระยะ เวลา 3-4 เดือน พบว่าหลายคนพึงพอใจอาการปวดข้อกระดูกลดลง หลายคนเดินสะดวกขึ้น ที่สำคัญครีมดังกล่าวไม่มียากลุ่มสเตียรอยด์ ซึ่งไม่เหมาะสมต่อผู้ป่วยสูงอายุ กลุ่มผู้เป็นโรคความดันโลหิต หัวใจ กระเพาะอาหาร
สารสกัดเมล็ดลำไยลองกานอยด์มีงานวิจัยรับรองผลประสิทธิภาพและความปลอดภัย ช่วยป้องกันและบรรเทาภาวะเสื่อมสลายของกล้ามเนื้อคอลลาเจน, อิลาสติน และเซลล์กระดูกอ่อน อันเป็นสาเหตุสำคัญของโรครูมาตอยด์และกล้ามเนื้ออักเสบ สารสกัดเมล็ดลำไยลองกานอยด์พิสูจน์แล้วว่าสามารถยับยั้งการสลายองค์ประกอบที่สำคัญของกระดูกอ่อน อาทิ ไฮยารูโลนิค และไกลโคสอะมิโนไกลแคน ทั้งยับยั้งเอนไซม์โปรทีเนส MMP มิให้ย่อยสลายกระดูกอ่อนและกล้ามเนื้อในภาวะทำงานหนัก จึงช่วยยืดอายุไขข้อกระดูกและกล้ามเนื้อไม่ให้เสื่อมและสึกหรอก่อนเวลา ต่อมาสารสกัดเมล็ดลำไยลองกานอยด์มีการพัฒนาให้อยู่ในรูปแบบของครีมนวดลองกานอยด์เพื่อการใช้งานได้อย่างสะดวก มีการคิดค้นให้มีสองสูตรด้วยกันเพื่อความสะดวกของผู้ใช้ คือ สูตรเฮอร์บัลวอร์ม ที่พัฒนาจากสูตรดั้งเดิมกลิ่นสมุนไพร และ สูตรคูลแอนด์อะโรมาที่ให้ความเย็นพร้อมกลิ่นหอมสดชื่นของน้ำมันหอมระเหย
ครีมนวดลองกานอยด์ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การรันตีคุณภาพงานวิจัยด้วยรางวัลนวัตกรรมดีเด่นจากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในปี 2552 รางวัลนวัตกรยอดเยี่ยมจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 2554
ครีมนวดลองกานอยด์ถือเป็นการพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาไทย โดยเน้นวัตถุดิบจากสมุนไพรไทยธรรมชาติเข้ากับนวัตกรรมเทคโนโลยีสากล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ คุณภาพ และความปลอดภัยเป็นสำคัญ คุ้มค่า โดยไม่เอาเปรียบผู้บริโภคปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง โดยใช้นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า ความแปลกใหม่ที่ตรงใจลูกค้า ทำให้ครีมนวดลองกานอยด์เป็นที่รู้จักทั่วประเทศ เนื่องจากเป็นธรรมชาติบำบัดแท้ๆ ผู้ที่ได้ทดลองใช้ต่างบอกว่า เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว ราคาถูกกว่าครีมนวดทั่วไปในท้องตลาด ปัจจุบันครีมนวดลองกานอยด์เป็นที่รู้จักของคนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งทำให้ผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมที่เคยต้องทานยารักษาหรือเสี่ยงผ่าตัดยิ้มได้ และมีกำลังใจในการต่อสู้กับอาการเจ็บปวดที่เป็นอยู่ และต้องขอขอบคุณนักวิจัยไทยที่เก่งและมีคุณภาพที่เล็งเห็นการนำประโยชน์จากเมล็ดลำไยที่ถูกทิ้งขว้างมาแสนนานมาพัฒนาและสามารถช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาโรคเข่าเสื่อมให้หายจากอาการเจ็บปวดและไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอีกต่อไป ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 053-222778 ในวันและเวลาราชการ หรือคลิกไปที่ www.primaherb.com
ติดต่อ:
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท พรีม่า เฮิร์บ (ประเทศไทย) จำกัด
โทรศัพท์ 053-222778
-กผ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit