หนังสั้น “เล่าเรื่องโกง” รุดฉายโรงภาพยนตร์ ปลุกกระแสสังคมต่อต้านการโกง พร้อมเปิดสายด่วน ตู้ ปณ. 50 แจ้งเบาะแสเรื่องโกง ก่อนรวบรวมส่งตรงไปยังรัฐบาล

25 Jun 2012

กรุงเทพฯ--25 มิ.ย.--สสส.

เครือข่ายศิลปินเพื่อการปฏิรูป สำนักงานปฏิรูป แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ (ศสส.) ร่วมกับ ภาคีเครือข่าย เปิดฉายหนังสั้น 14+1 เรื่อง จาก 15 แนวการกำกับในโครงการ “เล่าเรื่องโกง” หลังพบคนไทยเพิกเฉยต่อการทุจริตคอร์รัปชั่น ทั้งสถิติยังระบุไทยมีคะแนนความโปร่งใสต่ำมาก เพียง 3.4 จาก 10 คะแนน เพื่อกระตุ้นสังคม “เท่าทันโกง” เปิดรอบชมฟรี! พร้อมกันใน 5 โรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ 25 มิถุนายนนี้ ชี้หนังสั้นจะเป็นสื่อกลางเพื่อปลุกจิตใต้สำนึกสังคมให้หันมามองสิ่งรอบตัวมากขึ้น ทั้งยังเปิดตู้ ปณ. 50 แจ้งเบาะแสการโกงก่อนส่งตรงให้รัฐบาล

โดยนายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า โครงการ "เล่าเรื่องโกง" เท่าทันการโกง (Corruption Literacy) ผ่านศิลปินเรื่องสั้น หนังสั้น และละครเร่ ที่เกิดขึ้นครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นของการบูรณาการการดำเนินงานร่วมกันของหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ที่ต้องการสร้างค่านิยมผ่านการปลุกกระแสสังคม รู้เท่าทันการโกง ผ่านสื่อหนังสั้น เรื่องสั้นและละครเร่ โดยใช้พลังของศิลปินที่มุ่งใช้ศิลปะแห่งการสร้างสรรค์ เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมสังคมในทุกมิติอย่างต่อเนื่องต่อไป โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน คนรุ่นใหม่ ให้รู้เท่าทันการโกง หรือการคอรัปชั่น ทั้งนี้ยังเป็นการสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลปัจจุบันว่าด้วย ยุทธศาสตร์ชาติเพื่อการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี มีนโยบายให้ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น พร้อมน้อมนำหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นแนวทางแก้ไขปัญหาที่เรียกว่า การทำงานนั้นต้องระเบิดจากข้างใน อาทิ โครงการ 1 หน่วยงาน 1 ข้อเสนอ ที่ให้ส่วนราชการทุกกระทรวง ทุกจังหวัด ทุกหน่วยงานต่างๆ เสนอโครงการจากข้างใน เพื่อจะร่วมกันวางปรับระบบหรือขบวนการใหม่ ให้ลดปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ที่จะมีโครงการที่เป็นรูปธรรมภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ อีกทั้งยังมีนโยบายพร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น เพื่อให้ประเทศมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจและเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน

“และที่ผ่านมา องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (TI) ได้จัดลำดับดัชนีภาพลักษณ์การทุจริตคอร์รัปชั่นของประเทศไทย พบว่ามีการทุจริตหรือมีค่าคะแนนในเรื่องความโปร่งใสที่ต่ำมาก มีค่าคะแนน 3.4 จาก 10 คะแนน จัดอยู่ในลำดับที่ 80 จาก 183 ประเทศทั่วโลก และอยู่ในลำดับที่ 21 จาก 27 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย และในอนาคตมีแนวโน้มที่จะลดลงเรื่อย ๆ ดังนั้น การรณรงค์ให้สังคมไม่เพิกเฉยต่อการทุจริตคอร์รัปชั่นจึงเป็นเรื่องที่ต้องเร่งทำอย่างเร่งด่วน งานครั้งนี้จึงเป็นพลังสำคัญอย่างยิ่งในระเบิดจากข้างในของภาคประชาชนในการร่วมรณรงค์อย่างต่อเนื่องแก่ทุกภาคส่วนในสังคม เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ” นายสมชาย เสียงหลาย กล่าว

ด้านนายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ประธานคณะกรรมการเครือข่ายศิลปินเพื่อการปฏิรูป กล่าวว่า ที่ผ่านมาเมื่อมองถึงรูปแบบการโกงที่เกิดขึ้นในสังคมไทยนั้นมีอยู่หลากหลายรูปแบบสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ 1) ดื้อตาใส หมายถึง การโกงแบบหน้าด้านๆ ไร้ยางอาย โกงกันซึ่งๆ หน้า ไม่สนใจทั้งกฎหมายและคุณธรรม, 2) ใช้ตัวช่วย คือ พวกที่โกงแบบซ่อนเร้น กลัวถูกจับได้จึงต้องพยายามหาเล่ห์เหลี่ยมทุกรูปแบบมาเป็นเครื่องมือ, และ 3) มวยล้มต้มคนดู หมายถึง การโกงแบบฮั้วกัน เรียกว่าทั้งคนโกงและคนยอมให้ถูกโกง ต่างรู้เห็นเป็นใจและพร้อมใจกันเล่นละครตบตาเพื่อโกงคนอื่นๆ อีกต่อหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อปลูกและปลุกจิตสำนึกให้ตื่นตัวและไม่เพิกเฉยต่อการโกงที่นับวันจะเป็นปัญหาลุกลาม และเรื่องรัง ทางเครือข่ายศิลปินฯ จึงได้รวมพลังนักเขียนมาเขียนเรื่องสั้นขึ้น 21 เรื่อง หนังสั้นโดยผู้กำกับหนังมือทองของประเทศ 21 เรื่อง ทั้งยังมีละครเร่เรื่อง “เมื่อผียังถูกโกง (ไม้พะยูงต้นเดียว)” โดยศูนย์ศึกษาศิลปะธรรมชาติเด็กรักษ์ป่า จ.สุรินทร์ อีก 1 เรื่อง ที่สะท้อนเรื่องราว มุมมอง การโกงรูปแบบต่างๆ ขึ้น โดยปลูก คือ การปลูกจิตสำนึกใหม่ให้กับเยาวชน และปลุก คือ ปลุกจิตสำนึกให้กับคนที่รู้แล้วแต่ยังไม่ตื่นให้เห็นความสำคัญของเรื่องนี้อย่างจริงจัง

“และเพื่อให้สังคมได้มีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส เรื่องราวการโกงที่พบเห็น จึงได้มีการเปิดสายด่วนต้านโกงขึ้นผ่าน ตู้ ปณ. 50 ปณฝ.ราชเทวี กรุงเทพมหานครขึ้น เพื่อส่งเรื่องโกงที่พบเห็น ซึ่งหากเบาะแสที่ส่งมาเป็นเรื่องของการกระทำความผิดจะมีการส่งไปให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) , สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ กระทรวงยุติธรรม (ป.ป.ท.) , สำนักนายกรัฐมนตรี และพร้อมกับการทำเป็นฐานข้อมูลเพื่อเป็นการรวบรวมเรื่องราวที่แจ้งเบาะไว้เพื่อดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ยังมีการเปิดบัญชี “โครงการเครือข่ายศิลปินต้านโกง” ขึ้นเพื่อเป็นกองทุนในการผลิตสื่อรณรงค์และวิธีการรณรงค์ในรูปแบบต่างๆ ขึ้น เพื่อให้เข้าถึงสังคมได้อย่างกว้างขวางทั่วทั้งประเทศอีกด้วย ซึ่งผู้ที่อยากเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นร่วมกับเครือข่ายฯ สามารถร่วมสนับสนุนผ่าน ธนาคารกรุงไทย สาขาอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เลขที่บัญชี 007-0123-594 ได้” นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กล่าว

นายดนัย หวังบุญชัย กรรมการและหน่วยเลขานุการ เครือข่ายศิลปินเพื่อการปฏิรูป กล่าวว่า และครั้งนี้ถือเป็นจังหวะก้าวที่สำคัญที่จะใช้สื่อหนังสั้นมาปลุกกระแสสังคมให้ไม่เพิกเฉยต่อการโกง จึงได้เปิดฉายหนังสั้นถึง 14 แถม 1 เรื่องขึ้นในโรงภาพยนตร์เครือของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รอบ 10.30 น. พร้อมกันใน 5 โรงภาพยนตร์ ได้แก่ เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ปิ่นเกล้า, เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน, เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ รังสิต, เอสพลานาด แคราย และ เมกะซีนีเพล็กซ์ เริ่มฉายวันที่ 25 มิถุนายน นี้ ซึ่งผู้ที่สนใจชมสามารถจองที่นั่งได้ที่ www.artculture4health.com ฟรีทุกรอบฉาย

ทั้งนี้นายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ นากยกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย และ ผู้กำกับหนังสั้นเรื่อง “ภิกษุณี” กล่าวว่า หนังสั้นในโครงการเล่าเรื่องโกงชุดนี้มีผู้กำกับมารวมตัวกันทำหนังสั้นเพื่อเล่าเรื่องโกงมากกว่า 20 คน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับการโกงที่เกิดขึ้นในสังคมไทยหนังสั้นที่ได้มาทั้ง 21 เรื่องนี้แล้วคงเล่าเรื่องโกงที่มีอยู่อยากหลากหลายได้ไม่ครบทุกแง่มุม แต่เชื่อว่าอย่างน้อยเมื่อคนดูได้ชมแล้วจะต้องกลับมาตั้งคำถามกับตัวเอง และหาคำตอบไปด้วยกันอย่างแน่นอนว่า “ทุกวันนี้เราโกงหรือโดนโกงหรือเปล่า” อย่างหนังสั้นเรื่อง “ภิกษุณี” ที่กำกับขึ้นมานั้นก็เป็นอีกตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงการโกงในรูปแบบของโกงการนิพพาน โกงชีวิต โกงเพศ โกงตัวตนของคนอื่น โกงชีวิตมนุษย์ด้วยกันเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ร้ายแรงที่สุด ส่วนเรื่องราวการโกงในแนวการกำกับของผู้กำกับท่านๆ อื่นๆ ก็น่าสนใจเพราะแต่ละเรื่องแฝงไปด้วยมุมมอง รูปแบบการโกงที่เราก็คาดไม่ถึงว่านั่น “ก็โกง” ได้ อยากรู้ว่าหนังแต่ละเรื่องเป็นอย่างไร วันที่ 25 มิถุนายน ถึง 1 กรกฎาคม นี้ ไปชมพร้อมกันในโรงภาพยนตร์

-นท-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net