กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--พีอาร์ บูม
HBIRMเผยธุรกิจบริหารอาคารและบ้านจัดสรรทั้งระบบมีปัญหาขาดแคลนบุคลากร ชี้หลายบริษัทต้องปิดกิจการเพราะวิกฤติแรงงาน ชี้ภาครัฐไม่ชัดเจนเรื่องหลักสูตรการศึกษาเพื่อผลิตบุคลากรป้อนตลาด เร่งแก้ปัญหาโดยการเพิ่มค่าจ้างแรงงานและลดค่าบริการลูกค้า ย้ำธุรกิจบริหารและจัดการชุมชนมีความสำคัญต่อภาพลักษณ์และเศรษฐกิจของประเทศ
นายธนันทร์เอก หวานฉ่ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอชบี อินเตอร์ เรียลตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (HBIRM) เปิดเผยถึงการดำเนินงานในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมาว่า สามารถเข้าไปบริหารโครงการอาคารชุดและบ้านจัดสรรทั้งสิ้น 20 โครงการ ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ว่าภายในปีนี้จะต้องเข้าไปบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ทั้งสิ้น 40 โครงการ เชื่อว่าอีก 6 เดือนจากนี้ไปหากไม่ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันของตลาดและภาวะน้ำท่วม คาดว่าจะสามารถเจาะตลาดใหม่ ๆ และเข้าไปบริหารเพิ่มอีก 20 โครงการ ทั้งนี้เพราะมีโครงการอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นใหม่ทุกเดือน รวมทั้งมีโครงการที่หมดสัญญาจ้างหรือไม่พึงพอใจที่จะต่อสัญญา และต้องการใช้บริการบริษัทอื่น ๆ ที่เป็นมืออาชีพมากกว่า หรือแม้แต่โครงการที่เคยใช้บริการกับบริษัทต่างชาติที่คิดค่าบริการที่แพงกว่า และต้องการร่วมงานกับบริษัทคนไทยที่มีความได้เปรียบด้านความเข้าใจในพฤติกรรมการอยู่อาศัยของสมาชิกในโครงการ ทั้งยังมีค่าบริการที่ถูกกว่าบริษัทต่างชาติ คาดว่าจะมีลูกค้ากลุ่มนี้เข้ามาใช้บริการเพิ่มในช่วง 2 ไตรมาสุดท้ายของปีนี้
นายธนันทร์เอกกล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับธุรกิจบริหารชุมชนและอาคารในช่วงที่ผ่านมา ไม่ใช่เรื่องการแข่งขันของตลาด เนื่องจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องการบริหารหลังการขาย รวมทั้งการดูแลอาคารและชุมชนให้อยู่ในสภาพดี แม้ว่าโครงการขนาดใหญ่ได้ตั้งบริษัทลูกที่ทำหน้าที่บริหารและจัดการชุมชนอยู่แล้ว แต่ในตลาดก็มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่าง ๆ อีกจำนวนมาก ที่มองหาบริษัทที่เป็นมืออาชีพเข้าไปทำหน้าที่ดูแลงานระบบและบริการหลังการขาย ซึ่งโครงการเหล่านี้ก็มีความชัดเจนว่าจะเลือกใช้บริการจากบริษัทของคนไทยหรือต่างชาติ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับทุกบริษัทที่ทำหน้าที่บริหารชุมชนในขณะนี้คือการขาดแคลนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญงานระบบวิศวกรรม
“ไม่ใช่เฉพาะ HBIRM เท่านั้น แต่ทุกบริษัทขาดแคลนบุคลากรทางด้านนี้ บางบริษัทขาดเป็น 100 อัตรา สาเหตุที่ธุรกิจนี้ได้รับผลกระทบเนื่องจากภาครัฐไม่มีความชัดเจนในเรื่องหลักสูตรการศึกษาทางด้านนี้ เห็นได้จากผู้ที่จบการศึกษาในระดับ ปวช.-ปวส. มีโอกาสในการพัฒนาตนเองสู่อาชีพที่ตนเองเรียนมาค่อนข้างน้อย ในขณะที่ตลาดแรงงานมีความต้องการจำนวนมาก ดังนั้น ภาครัฐควรใส่ใจเรื่องการศึกษาด้านวิชาชีพโดยเฉพาะช่างเทคนิค ในสาขาที่เกี่ยวกับการดูแลบำรุงรักษางานระบบวิศวกรรม ไม่ว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารต่าง ๆ ก็ต้องการวิชาชีพนี้มาก” นายธนันทร์เอกกล่าว และให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า เมื่อไม่นานมานี้บริษัทที่รับดูแลงานระบบวิศวกรรมของสนามบินสุวรรณภูมิยังต้องเลิกกิจการ เพราะปัญหาขาดแคลนแรงงาน ดังนั้น ภาครัฐจะต้องหันมาทบทวนการผลิตบุคลากรในด้านวิศวกรรมและช่างเทคนิค
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ระบบการศึกษาไทยไม่ได้ให้ความสำคัญกับหลักสูตรดังกล่าว เพราะภาครัฐไม่เข้าใจว่าธุรกิจนี้มีความสำคัญอย่างไรกับเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งที่งานบริหารและจัดการชุมชนนั้นทำหน้าที่ดูแลคุณภาพชีวิตของคนที่อยู่ในอาคารและหมู่บ้านต่าง ๆ และเป็นภาคธุรกิจที่ใหญ่มากปัจจุบันมีทั้งบริษัทข้ามชาติและบริษัทคนไทยไม่น้อยกว่า 120 บริษัท แต่ไม่มีนโยบายในการผลิตบุคลากรเพื่อรองรับธุรกิจดังกล่าว ดังนั้น รัฐบาลจะต้องเข้ามาศึกษาว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อสามารถผลิตบุคลากรให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด เชื่อว่าธุรกิจนี้ยังต้องการบุคลากรจำนวนอีกหลายพันคน ไม่ใช่เฉพาะธุรกิจบ้านจัดสรรเท่านั้นแต่ภาคอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ต้องมีระบบวิศวกรรมอาคารก็ได้รับผลกระทบด้วย
สำหรับทางออกของปัญหาแรงงานนั้น ธุรกิจบริหารชุมชนต้องทำความเข้าใจกับโครงการต่าง ๆ ที่ใช้ HBIRM ทำหน้าที่บริหารจัดการอยู่ เพื่อให้เข้าใจว่าธุรกิจนี้ทั้งระบบกำลังขาดแคลนบุคลากรทางด้านนี้ โดยการเสนอปรับลดอัตรากำลังด้านวิศวกรรมแต่ยังคงให้บริการเช่นเดิม เนื่องจากบริษัทฯ ได้ใช้กลยุทธ์ในการบริหารบุคลากรที่มีอยู่ให้สามารถรองรับและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับลูกค้าได้ครบทุกอาคารและทุกหมู่บ้าน โดยการจัดคลัสเตอร์โครงการอยู่ใกล้กัน และให้บุคลากรที่มีอยู่ทำหน้าที่บริการลูกค้าที่อยู่ในครัสเตอร์เดียวกัน รวมทั้งการใช้กลยุทธ์เพิ่มแรงจูงใจทั้งพนักงานโดยการเพิ่มรายได้สำหรับบุคลากรที่เหลืออยู่ และลดค่าใช้จ่ายให้กับโครงการต่าง ๆไปด้วย
ทั้งนี้ เชื่อว่ามีบริษัทต่าง ๆ ที่ขาดแคลนบุคลากรทางด้านนี้และทำหน้าที่ฝึกอบรมบุคลากรกันเอง เช่นเดียวกับ HBIRM ที่ได้เปิดแผนกฝึกอบรมและมีแนวโน้มว่าจะเปิดเป็นสถาบันฝึกอบรมในหลักสูตรวิชาชีพงานระบบวิศวกรรม ขณะนี้ได้เปิดรับสมัครผู้ที่สนใจอาชีพดังกล่าว ทั้งผู้ที่เป็นช่างในสาขาอื่นหรือผู้ที่สนใจอาชีพดูแลและซ่อมบำรุงงานระบบวิศวกรรมที่ทำงานภายใต้การควบคุมของวิศวกร ให้มีโอกาสได้ฝึกและพัฒนาความสามารถ แล้วส่งไปยังตลาด โดยใช้เวลาฝึก 15 วัน สำหรับผู้ที่ผ่านหลักสูตรนี้จะได้รับการบรรจุให้ทำงานในอาคารและหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งจะได้รับเงินเดือนตั้งแต่ 12,000 บาทขึ้นไป นี่คือแนวทางหนึ่งที่ธุรกิจนี้จะต้องแก้ปัญหากันเอง
-กภ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit