กรุงเทพฯ--9 ก.ค.--borkboon.com
“เฉินหลง” เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อสร้างปรากฏการณ์แห่งการให้ครั้งใหญ่ภายใต้โครงการ Jackie Chan’s Dragon Heart Thailand ร่วมกับ กระทรวงวัฒนธรรม สมาคมมิตรภาพไทย-จีน และ www.borkboon.com โดยมีตัวแทนจาก 30 องค์กรการกุศลที่ได้รับบริจาคในครั้งนี้ ร่วมต้อนรับอย่างอบอุ่น ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง จากนั้นเดินทางไปเยี่ยมมูลนิธิธารนุเคราะห์ สถานพักฟื้นคนชราบางเขน และเด็กกำพร้ากว่า 300 คน ที่วัดโบสถ์วรดิษฐ์ จังหวัดอ่างทอง
แจ็คกี้ ชาน เดินทางมาถึงท่าอากาศยานดอนเมืองเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 8 กรกฏาคม 2555 โดยมีคุณกุสุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และตัวแทนมูลนิธิต่างๆ รวมทั้งเด็กกำพร้ามาร่วมต้อนรับจำนวนมาก แจ๊คกี้ ชาน กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้กลับมาที่ประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากที่ได้ทราบข่าวเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อช่วงปลายปี2554 ตนก็ให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะเชื่อว่ายังมีคนที่ได้รับความลำบากอยู่อีกมาก ซึ่งที่ผ่านมานั้นแฟนคลับจากประเทศไทยได้บริจาคเงินให้มูลนิธิแจ็คกี้ ชาน ที่ตนตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือเด็กและคนชรามาโดยตลอด ซึ่งตนก็นำเงินจำนวนนั้นไปช่วยเหลือประเทศอื่นๆไม่ว่าจะคนละ 1 บาท หรือ 100 บาท ก็ต่างมีคุณค่า โดยครั้งนี้ตนได้นำเงินที่ได้รับบริจาคจากทั่วโลกกลับมาช่วยเหลือคนไทยเช่นกัน ซึ่งจำนวนเงินนี้จะสามารถช่วยเหลือเด็กกำพร้าและคนชราได้มากกว่า 10,000 คน
หลังจากได้พบปะและถ่ายรูปร่วมกับมูลนิธิที่ได้รับการบริจาคแล้ว แจ็คกี้ ชาน จึงเดินทางไปมอบของใช้ที่จำเป็นแก่มูลนิธิธารนุเคราะห์ สถานพักฟื้นคนชราบางเขน และจากนั้นจึงเดินทางไปเยี่ยมเด็กกำพร้ากว่า 300 คนที่วัดโบสถ์วรดิษฐ์ จังหวัดอ่างทอง พร้อมทั้งนำขนมเค็กไปเลี้ยงเด็กๆ ในบรรยากาศเป็นกันเอง นำความปลาบปลื้มใจมาให้ทุกฝ่าย โดยตัวแทนน้องๆ เด็กกำพร้าจากวัดโบสถ์วรดิษฐ์กล่าวขอบคุณพร้อมทั้งน้ำตาว่า “ดีใจที่รู้ว่าเด็กๆ กำพร้าที่นี่ยังมีคนรักและแจ็คกี้ ชาน ยังนึกถึงพวกเรา”แจ๊คกี้ ชาน ให้แง่คิดที่สำคัญแก่เด็กๆ ว่า เมื่อก่อนตนก็เคยลำบาก และเรียนหนังสือไม่สูง แต่พ่อสอนเสมอว่า มีสองสิ่งที่ต้องจดจำไว้คือ 1. อย่าไปยุ่งกับยาเสพติด 2. อย่าข้องเกี่ยวกับสังคมมืดหรือผิดกฎหมาย และที่สำคัญให้เด็กๆ เน้นความสำคัญของการศึกษา และให้มีความกตัญญูต่อพ่อแม่ และคนชรา เพราะวันหนึ่งทุกคนก็ต้องกลายเป็นคนชราเช่นกัน
สำหรับที่มาของโครงการ Jackie Chan’s Dragon Heart Thailand คุณนงลักษณ์ โกวัฒนะ ผู้ก่อตั้งร่วม www.borkboon.com และประธานมูลนิธิบอกบุญ กล่าวว่า “ดร. แจ็คกี้ ชาน ทำงานการกุศลอย่างจริงจังมา 24 ปีแล้ว ท่านเน้นการมอบสิ่งของให้ถึงมือผู้รับที่เดือดร้อนจริงๆ ครั้งแรกที่ขอมา คือต้องการช่วยเหลือสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าที่ถูกผลกระทบจากน้ำท่วมเป็นหลัก แต่ดิฉันเห็นว่า เมืองไทยมีเด็กกำพร้าและคนชราเป็นจำนวนมาก อีกทั้งแจ็คกี้ ชานเป็นต้นแบบของผู้ให้อยู่แล้ว ความดีและชื่อเสียงของท่านน่าจะสร้างผลกระทบต่อคนในวงกว้างได้มากกว่าแค่ทำบุญ สัมภาษณ์สื่อ แล้วก็กลับบ้าน นั่นจึงเป็นที่มาของแคมเปญทำความดีออนไลน์ครั้งใหญ่ ผ่าน social network ซึ่งกระตุ้นให้คนไทยได้เรียนรู้การให้และการแบ่งปันกันอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์”
ในการคัดเลือกมูลนิธิที่เข้าร่วมโครงการ Jackie Chan’s Dragon Heart Thailand นั้น ทางบอกบุญให้ความสำคัญกับการพิจารณาเป็นสาระสำคัญว่าที่ใดควรได้รับสิทธิในการบริจาค จึงได้ประสานงานกับกระทรวงวัฒนธรรม และสมาคมมิตรภาพไทย-จีน เพื่อความเหมาะสม ความเป็นมาตรฐาน และมีความโปร่งใสในการพิจารณา โดยเน้นการให้สิ่งของที่จำเป็นต่อความต้องการของแต่ละสถานที่ ซึ่งจะมีประโยชน์กว่าการให้เป็นเงิน ทั้งนี้เป็นไปตามความประสงค์หลักที่ทางแจ็คกี้ ชาน ต้องการบริจาคผ่านทางมูลนิธิบอกบุญ โดยขั้นตอนการดำเนินการจัดซื้อสิ่งของ และนำไปมอบให้กับมูลนิธิต่างๆ จะใช้เวลาระหว่าง 1-3 เดือนนับจากนี้
ประเมินตัวเลขของผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือ นับเป็นสถานที่ 30 แห่ง (ประกอบด้วย มูลนิธิ วัด โรงเรียนที่ขาดแคลน และศูนย์พัฒนาชาวไทยภูเขา) โดยมีจำนวนบุคคลที่ได้รับความช่วยเหลือ ประมาณ 10,000 คน ตั้งแต่ทารกแรกเกิดไปจนถึงคนชราอายุกว่า 80 ปี โครงการ Jackie Chan’s Dragon Heart Thailand จัดขึ้นในช่วงเวลา 17 วัน (21 มิถุนายน -7 กรกฏาคม 2555) ในระหว่างนั้น แจ็คกี้ ชาน ได้เปิดโอกาสให้ชาวไทยมีส่วนร่วมในการบริจาค โดยการกด like และ share ข้อมูลมูลนิธิต่างๆ ไปยังเพื่อนๆ ทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ www.borkboon.com/jackiechancharity/ ทุกๆ 1 like หมายถึง ผู้ร่วมกิจกรรมแสดงความจำนงบริจาคเงิน 10 บาทให้กับมูลนิธิต่างๆ ซึ่งแจ็คกี้ ชาน เป็นผู้บริจาคเงินให้ทั้งหมด ผ่านมูลนิธิ Jackie Chan โดยเงินบริจาคครั้งนี้เป็นจำนวน 6,000,000 บาท
คุณเลิศศักดิ์ เป้งแสงทอง ผู้ก่อตั้ง borkboon.com และเลขาธิการมูลนิธิบอกบุญ กล่าวถึงที่มาของ Borkboon.com ซึ่งเป็น Social Good Platform ระบบแรกในประเทศไทยว่า “ทุกวันนี้พฤติกรรมของของคนเมืองเปลี่ยนไป โดยเฉพาะคนในกรุงเทพฯ เราใช้เวลาในโลกออนไลน์ไม่ต่ำกว่าวันละ 8 ชั่วโมง เราทำงานและสื่อสารกันได้เร็วมาก แต่เข้าวัดน้อยลง ทำให้ปัญหาสังคมทุกวันนี้รุนแรงมากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีคนไทยบางส่วนใช้ social media สร้างค่านิยมสังคมผิดๆ แต่ทางยุโรปและอเมริกากลับพบว่าการ Social Good หรือเครือข่ายสร้างความดีเป็นกระแสที่มาแรงอย่างมาก ตัวอย่างเช่น causes.com สามารถส่งเสริมให้เกิดการทำความดีในสังคมได้จริงๆ ทั้งผู้รณรงค์และผู้ร่วมบริจาค ผมคิดว่าเราควรนำข้อได้เปรียบของ social network มาส่งเสริมให้คนไทยเข้าถึงการทำความดีได้จากทุกที่ ทุกเวลา จากทุกระบบที่เชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ในที่ทำงาน แล็บท็อปส่วนตัว iPad โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากมือถือ”
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Borkboon.com ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงวัฒนธรรม คือการนำหลักปฏิบัติในวิถีทางแห่งพุทธศาสนา มาประยุกต์ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ คุณเลิศศักดิ์ กล่าวว่า “เราสนับสนุนให้ผู้คนได้ \\\"ทำ\\\" และ \\\"ศึกษา\\\" สิ่งที่ควรศึกษา 3 อย่าง หรือ ไตรสิกขา ได้แก่ ศีล สมาธิ และ ปัญญา แต่เราจะเริ่มจากก้าวง่ายๆ ก่อน คือ ทาน ศีล ภาวนา หรือ บุญสิกขา สรุปง่ายๆ ก็คือ สมาชิกใน Borkboon.com ซึ่งมีทั้งบุคคลทั่วไป และองค์กรการกุศล ต่างก็ได้รับประโยชน์จากระบบที่เราสร้างขึ้นไว้ให้ ไม่ว่าจะเป็นในฝั่งของผู้บริจาคเอง ก็สามารถบริจาคเงิน บริจาคทาน หรือชวนเพื่อนมาร่วมทำบุญที่คุณเป็นคนเริ่มต้นได้ ในส่วนขององค์กรการกุศล นอกจากจะใช้ Borkboon.com เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์โครงการต่างๆ ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรงแล้ว ยังสามารถระดมทุน หรือระดมแรงอาสาสมัคร ได้ในทันทีที่มีความต้องการ”
“นอกจากนี้เรายังมี application ศีล ที่ช่วยในการควบคุมสติและการปฏิบัติได้จากทุกที่ทุกเวลา และในส่วนของภาวนา เราได้สร้างปฏิทินภาวนาอัตโนมัติ ซึ่งวัด และสถานปฏิบัติธรรมทั่วไทยใส่ข้อมูลเข้าไปในระบบเองได้ สะดวกกับการวางแผนของสมาชิกที่สนใจไปปฏิบัตธรรม ซึ่งสามารถหาข้อมูลที่ต้องการได้ครบถ้วน ทั้งในด้านสถานที่ตั้ง รูปแบบการปฏิบัติ การเดินทาง จำนวนคนที่รองรับได้ และในระยะเวลาที่สอดคล้องกับแผนการในชีวิต”
ในอนาคต www.borkboon.com จะนำบุคคลระดับโลกมาช่วยกันรณรงค์เรื่องการทำดีอีกหรือไม่ คุณนงลักษณ์กล่าวว่า “มีความเป็นไปได้ที่คนดังระดับโลกทั้งหมด จะบริจาคให้กับผู้ยากไร้ในทวีปเอเชียผ่าน Borkboon.com เราตั้งใจที่จะให้ปรากฏการณ์ออนไลน์สร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในกลุ่มประเทศ AEC ซึ่งไม่ได้อยู่ไกลเกินความสามารถในการเข้าถึงของทีมงานบอกบุญ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบออนไลน์หรือออฟไลน์”
Jackie Chan’s Dragon Heart Thailand ได้สร้างสถิติใหม่บน facebook และเว็บไซต์ และได้สัมผัสถึงความเอื้อเฟื้อของคนไทยรุ่นใหม่ในโลกออนไลน์ อย่างมากมาย โดยในระหว่างที่ดำเนินโครงการ ได้มีจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ www.borkboon.com/jackiechancharity/ 1.77 ล้าน view ใน 1 สัปดาห์ มีผู้ที่เผยแพร่ข่าวสาร หรือพูดถึงโครงการ 145,000 คนใน 1 สัปดาห์ มีคนเข้าร่วมทำบุญ 28,000 คนภายใน 2 สัปดาห์ และในส่วนของ www.facebook.com/borkboon ได้ติดอันดับ fanpage ที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด ต่อวัน เป็นอันดับ 4 ในประเทศไทย อีกทั้งยัง เป็นอันดับ 3 ของโลกในหมวด Non-profit Organizations โดยมีการเติบโตของสมาชิกสูงสุดที่ 5,800 like ภายในวันเดียว(ข้อมูลอ้างอิงจาก socialbakers.com ผู้เชี่ยวชาญด้านสถิติของเว็บไซต์และ fanpage ชั้นนำของโลก)
เกี่ยวกับ Borkboon.com
www.borkboon.com เป็นระบบ Social Good Platform ระบบแรกในประเทศไทย ที่สนับสนุนให้คนเข้าถึงการทำความดี ได้จากทุกที่ ทุกเวลา ผ่านนวัตกรรมใหม่บนโลกออนไลน์
ทำไมต้องมี Borkboon.com
ที่มาของคำว่า “บอกบุญ” คือ
Borkboon.com สนับสนุนให้คนทำความดีภายใต้หลักบุญสิกขา คือ ทาน ศีล ภาวนา โดยสร้างเครื่องมือต่างๆ เพื่อรองรับการใช้งานของสมาชิก ดังนี้
กลุ่มเป้าหมายของ Borkboon ประกอบด้วย
เกี่ยวกับมูลนิธิที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้
1. มูลนิธิดูแลเด็กกำพร้า และด้อยโอกาสในสังคม
2. มูลนิธิที่ดูแลคนชรา ผู้ยากไร้ และด้อยโอกาสในสังคม
3. โรงเรียนที่ขาดแคลน
4. วัดที่ดูแลเด็กกำพร้า และส่งเสริมการศึกษาของเด็กๆ
5. โครงการห่มรัก ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย
รายละเอียดเพิ่มเติมของมูลนิธิทั้งหมด ดูได้ที่ www.borkboon.com/jackiechancharity
เกี่ยวกับมูลนิธิแจ็คกี้ ชาน
ดร.แจ็คกี้ ชาน หรือที่ชาวไทยรู้จักกันดีในฐานะดารากังฟูชื่อดังระดับโลก “เฉินหลง” ได้ดำเนินงานด้านการกุศลอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 ซึ่งในปีนั้นเขาได้ก่อตั้งมูลนิธิแจ็คกี้ ชาน (Jackie Chan Charitable Foundation) เน้นการช่วยเหลือเยาวชนในฮ่องกง ตลอดจนผู้ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดร้ายแรงและภัยธรรมชาติ ต่อมาในปี พ.ศ. 2547 จึงได้ก่อตั้งมูลนิธิหัวใจมังกร (Dragon’s Heart) ขึ้นมา เพื่อดูแลเด็กกำพร้า เด็กด้อยโอกาส และคนชราในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ โดยได้สร้างโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารหลายแห่ง และมอบผ้าห่มให้กับผู้สูงอายุเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งในปีพ.ศ. 2554 เกิดเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ในประเทศไทย เป็นเหตุให้ ดร.แจ็คกี้ ชานให้ความสำคัญในการส่งความช่วยเหลือมายังประเทศไทยเป็นกรณีพิเศษ
ข้อมูลเพิ่มเติม www.jackiechan.com
ติดต่อ:
www.facebook.com/borkboon
-กผ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit