กรุงเทพฯ--22 พ.ค.--กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์
ณ จุดที่สามโลกธาตุคือ สวรรค แดนมนุษย์ และบาดาล มาบรรจบกัน เมื่อวันที่ 5 เดือน 5 ปี 2555 ขึ้น 15ค่ำ ได้มีพิธีสมโภชมหารัตนเจดีย์ศรีไตรโลกธาตุ ณ วัดทุ่งเศรษฐี ใจกลางเมืองขอนแก่นอย่างยิ่งใหญ่ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวและการเรียนรู้ทางศาสนาที่โดดเด่นด้วยศิลปกรรมหนึ่งเดียว ตามแบบแผนทางสถาปัตยกรรมแนวจารีตด้วยแนวทางการออกแบบร่วมสมัย ให้เป็นศูนย์รวมของของผู้คนทุกหมู่เหล่าและทุกความเชื่อโดยไม่มีการแบ่งแยก...
“ถึงเวลาที่จะกลับไปโปรดลูกหลานตนเองในบ้านเกิดที่ขอนแก่น”ส่วนหนึ่งของคำบอกเล่าจากลูกศิษย์ที่เคารพรักใน “หลวงตาอ๋อย” หรือที่รู้จักกันในนาม “หลวงตาอ๋อยย่ามแดง” ผู้ซึ่งเป็นผู้อุปัฎฐากครูบาอาจารย์พระกรรมฐานสายวัดป่าในภาคอีสานตลอดจนเป็นผู้อุทิศตนในการช่วยเหลือผู้คนมากมาย ได้บอกให้สร้างมหาเจดีย์สิ่งก่อสร้างทางพระพุทธศาสนาแห่งนี้ขึ้น เพื่อสงเคราะห์ลูกหลานและให้เหล่าชาวพุทธได้มีโอกาสสร้างกุศลสะสมบุญครั้งยิ่งใหญ่
ต่อมาในปี 2542หลวงตาอ๋อยได้เห็นด้วยญาณวิถี ว่าที่ดินเก่าแก่ราว 5 ไร่ ที่ ต.พระลับ อ.เมืองจ.ขอนแก่นแห่งนี้ เป็นแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นช่องทางสำคัญที่เหล่าเทวดาทั้งที่สถิตย์อยู่เบื้องบนและเบื้องล่างใช้เป็นที่สัญจรติดต่อกัน โดยมีโลกมนุษย์เป็นแดนกลาง ซึ่งหลวงตาอ๋อยเรียกว่า “แผ่นดินสามโลกธาตุ”ที่ได้มีการขุดพบพระขรรค์สำริดโบราณเข้าโดยบังเอิญทำให้หลวงตาดำริให้ลูกหลานศิษยานุศิษย์ร่วมกันก่อสร้างมหารัตนเจดีย์ขึ้น บนที่ดินรวมกว่า73 ไร่ที่ได้จัดซื้อเพิ่มเติมให้เพียงพอเหมาะสมกับการสร้างสิ่งปลูกสร้างทางพระพุทธศาสนาแห่งนี้โดยได้ถวายชื่อว่า “มหาเจดีรัตนะ” หรือ“มหาเจดีย์ศรีไตรโลกธาตุ” เพื่อประกอบความมุ่งหมาย3 ประการ คือ 1. สถาปนามหารัตนเจดีย์ฯ ไว้เป็นพุทธบุชาและเป็นที่ระลึกถึงมหาเจดีย์องค์สำคัญสามองค์ในสามโลก คือเจดีย์บุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ นาคเจดีย์ในนาคพิภพและมหารัตน์เจดีย์ศรีไตรโลกธาตุ (มหาเจดีย์รัตนะ) แห่งนี้ผู้มาสักการะบูชาย่อมเท่ากับได้กราบบูชาเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ 3 แห่งในสามโลกพร้อมกัน 2.เพื่อน้อมเอาบุญเอาคุณความดีแห่งการสร้างมหาเจดีย์ฯ นี้ถวายแด่พระบาทสทเด็จพระเจ้าอยู่หัว และราชวงศ์จักรีที่ท่านเทิดทูนยิ่ง 3.ให้ลูกหลานศิษย์และประชาชนทั่วไปใช้เป็นนาบุญแห่งการทำกุศลบำเพ็ญคุณความดี
กำธร ศีลอุดมทรัพทย์ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนา บริษัท น้อมบุญ จำกัด ซึ่งหลวงตาอ๋อยได้มอบหมายได้รับหน้าที่เป็นผู้ออกแบบมหารัตนเจดีย์ เล่าให้ฟังว่าตอนแรกไม่คิดว่าจะออกแบบได้ เพราะไม่มีประสบการณ์ออกแบบงานสถาปัตยกรรมเช่นนี้มาก่อนแต่ก็เกิดแรงบันดาลใจขึ้นจากเหตุการณ์เหมือนกับฝันและจริงในคืนที่ไปถือศีลสมาธิโดยตอนนั้นหลวงตาอ๋อยพาข้ามมิติไปเห็นหมู่ปราสาทขอมงดงามที่มีแผนผังซับซ้อนพร้อมกับบอกว่าในอดีตชาติตนเคยเป็นผู้ออกแบบปราสาทบายนมาก่อนจากภาพวันนั้นงานออกแบบที่ไม่เคยทำและที่คิดว่าไม่ถนัดจึงเกิดขึ้นภายใต้แรงบันดาลใจจากภาพที่หลวงตาท่านพาไปเห็นก็เสร็จสมบูรณ์ในเวลาอันรวดเร็วภายใต้แนวคิดการออกแบบหมายถึง “พุทธภาวะ” ตั้งอยู่ท่างกลางบึงน้ำล้อมรอบ4 ทิศ เปรียบเป็นโอฆสสงสารอันสัตว์ทั้งหลายวียนว่ายตามเกิดอยู่ปลียอดของพระมหาเจดีย์รูปดอกบัวตูมสื่อถึงพุทธภาวะหมายความว่า ดอกบัวแห่งความรู้แจ้งนี้ผุดงอกมาจากบึงน้ำแห่งวัฎสงสารเติบโตขึ้นเพื่อเบ่งบานสู่เบื้องบน คือพระนิพพานในที่สุดฐานทักษิณาเป็นรูปสี่เหลี่ยมแทนพระอริยสัจสี่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรคอันเป็นอุดมสัจธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ และนำมาเผยแพร่
ส่วนเจดีย์ทิศทั้งสี่แทนมหาภูตรูป4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ อันเป็นธาตุองค์ประกอบพื้นฐานของโลก ซึ่งเป็นที่สถิตของ เทวรูปแทนองค์ท้าวจาตุมหาราชิกาทั้ง4 เทวราช ผู้ดูแลมนุษย์ พิทักษ์โลก และพระพุทธศาสนา เริ่มจากทิศเหนือ-ธาตุไฟ เป็นที่สถิตของท้าวเวสสุวัณหรือ ท้าวกุเวร จ้าวแห่งจิตวิญญานและโชคลาภ ทิศตะวันออก-ธาตุลม จ้าวแห่งคนธรรพ์ทิศใต้-ธาตุดิน ท้าววิรุฬหก จ้าวแห่งปฐพีและจตุบาท และทิศตะวันตก-ธาตุน้ำเป็นที่สถิตของท้าววิรูปักษ์ จ้าวแห่งนาค ห้วงน้ำบาดาลและอปาทิกะ
ฐานชั้นที่ 2ส่วนประดิษฐานพระประธานเป็นรูป 8 เหลี่ยม หมายถึงมรรคมีองค์ 8 ทางสายกลาง อันเป็นแนวปฏิบัติเพื่อสู่นิพพานองค์พระเจดีย์ออกแบบให้เป็นวิหารลักษณ์เป็นคัพภวิสัยคือเป็นห้องโถงโล่งทรงระฆังคว่ำ ประดิษฐานพระประธาน คือพระพุทธนีลวรรโณศีโลทรัพยุดม (หลวงปู่เจ้าพระองค์ดำ) เป็นพระพุทธรูปสำริดทรงเครื่องจักรพรรดิปิดทองประดับด้วยอัญมณีสีต่างๆ
ความหมายในแนวตั้งขององค์มหาเจดียฯชั้นล่างสุดเป็นชั้นบาดาล ถัดมาเป็นมนุษย์ภูมิ เป็นชั้นเดียวกันกับพระเจดีย์ซึ่งทั้งสองชั้นนี้ เป็นชั้นที่ผู้คนจะเข้าไปกราบไหว้และประกอบพิธีทางศาสนาได้ ส่วนตั้งแต่หลังคาขึ้นไปนั้นคือชั้นเทวภูมิโดมใหญ่มีรูปปั้นเทพพนมลิยตัวประจำอยู่ทั้ง 8 ด้านที่สันโดมมีพญานาคประคองพุ่มดอกไม้โคมไฟบูชาพระมหาเจดีย์เคียงคู่อยู่ด้วย” ผู้ออกแบบอธิบาย
พร้อมกันนี้ยังบอกด้วยว่าเพดานภายในโถงเจดีย์ แสดงระบบสุริยจักรวาลมีพระอาทิตย์ที่จุดกึ่งกลางโดมโดยใช้ดาวเพดานสีทองห้อยช่อไฟแชนเดอร์เลียร์เป็นสัญลักษณ์รายล้อมด้วยดาวนพเคราะห์ที่เหลืออีก 8 ดวง ส่วนกระจกแต่ละด้านขององค์เจดีย์แกะเป็นเรื่องราวอันเกี่ยวเนื่องกับคำสอนในพระศาสนาว่าด้วยเรื่องของกิเลส 3 อัน ได้แก่ ความโลภ ความโกรธ ความหลงตลอดจนหลักธรรมที่เป็นทางการกิเลส 3 ท่าน คือ ทาน เมตตา และปัญญา นอกจากนี้ยังมีการนำการ์ตูนที่ให้แง่คิดอย่างอิคคิวซัง มิกกี้เม้าท์ ไลออนคิงส์ โดเรมอน มาบอกกล่าวเพื่อเป็นแรงรูงใจให้เด็กๆได้เรียนรู้โดยแฝงนัยนัยให้เข้าใจอย่างง่ายๆ ถึง การทำดี การมีสติ เจริญปัญญาการมีเมตตา พร้อมกับเป็นการปลูกฝังเรื่องราวของธรรมมะไปยังคนรุ่นต่อๆ ไป กำธร ศีลอุดมทรัพทย์กล่าว
“ทั้งนี้ส่วนใต้ดินของมหารัตนเจดีย์ฯ เป็นห้องโถงกว้างสำหรับใช้เป็นห้องแสดงปริศนาธรรมเพื่อเรียนรู้และปฏิบัติธรรม พร้อมๆ กับการจัดนิทรรศการเรื่องราวธรรมะในขณะที่บริเวณโดยรอบของพื้นที่ก็ยังมีการจำลองเรื่องราวของเพื่อตอกย้ำและเตือนใจแก่คนที่เข้ามาสักการะมหารัตนเจดีย์ฯดังนั้นจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวและการเรียนรู้ทางศาสนาที่มีความโดดเด่นในด้านของศิลปกรรมหนึ่งเดียว อีกทั้งมีการนำองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมของต่างวัฒนธรรมมาหลอมรวมเข้าด้วยกันแฝงแนวคิดเรื่องหลักคำสอน หลักปรัชญา และภพภูมิในพระพุทธศาสนาได้อย่างแยบยล ผู้คนแม้ต่างวัฒนธรรมเมื่อได้เห็นมหารัตนเจดีย์ฯ แห่งนี้ ก็สามารถระลึกได้ถึงความเชื่อมโยงกับรากวัฒนธรรมที่ตนนั้นได้เติบโตงอกงามขึ้นมาโดยไม่ยากที่จะสะท้อนถึงเจตนาที่จะให้สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์รวมของผู้คนทุกหมู่เหล่าได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาไปด้วยอีกทางหนึ่งซึ่งหลังจากที่ใช้เวลาก่อนสร้างกว่า 7 ปี 7 เดือน มาวันนี้มหารัตนเจดีย์ฯ แห่งนี้ก็ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว แม้จะไม่มีหลวงตาอ๋อย ที่เคยดำริไว้ว่า “มหาเจดีย์ ไม่ใช่สร้างเพื่อตนเอง แต่จะช่วงสงเคราะห์ลูกหลานให้ได้มีโอกาสสร้างบุญครั้งยิ่งใหญ่เพื่อเป็นมงคลชีวิตต่อไปในวันหน้า” หากแต่สถานที่แห่งนี้ก็จะยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนรุ่นต่อๆไป เพื่อร่วมสืบทอดพระพุทธศาสนาให้คงอยู่เป็นที่พึ่งให้กับชาวพุทธต่อไป” มานะ จิระนภากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้อมบุญ จำกัด ตัวแทนคณะศิษยานุศิษย์ผู้จัดสร้างมหารัตนเจดีศรีไตรโลกธาตุกล่าวทิ้งท้าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: คุณกนกรัตน์ วีรานุวัตติ์ E-mail: [email protected]
บริษัท กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์ จำกัด โทร 02-2842662 www.kanokratpr.com
-กผ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit