กรุงเทพฯ--31 พ.ค.--GHC Asia
บลู เอเลเฟ่นท์ เปิดหลักสูตรใหม่สอนทำอาหารไทยโบราณที่โรงเรียนสอนทำอาหารและภัตตาคารบลู เอเลเฟ่นท์ กรุงเทพฯ แล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายน ศกนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ หลักสูตรสอนทำอาหารไทยโบราณ จะเป็นหลักสูตรพิเศษเพิ่มเติมจากหลักสูตรการสอนทำอาหารไทยที่มีอยู่เดิม เปิดโอกาสให้เชฟอาชีพและมือสมัครเล่นผู้รักในการทำอาหารได้มีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับอาหารไทยโบราณ 10 อย่าง อาทิ ม้าอ้วน แกงบุ๋มไบ่ และหลนเต้าเจี้ยวปู เป็นต้น
“ในฐานะที่บลู เอเลเฟ่นท์ ทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งในการประชาสัมพันธ์อาหารไทยให้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ เรารู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่จะนำเสนออาหารไทยโบราณที่ได้รับความนิยมในอดีต ดังนั้น เราจึงอยากถ่ายทอดความรู้และความภาคภูมิใจในความเป็นไทยนี้ไปสู่คนรุ่นใหม่และชาวต่างชาติที่มีความสนใจในการทำอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารไทย” มาสเตอร์เชฟ นูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ แห่งภัตตาคารบลู เอเลเฟ่นท์ กล่าว
สำหรับท่านที่สนใจเรียนทำอาหารไทยโบราณ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครเรียนได้ทุกวัน ในราคา 17,655 บาท/ท่าน/วัน ได้ที่โรงเรียนสอนทำอาหารและภัตตาคารบลู เอเลเฟ่นท์ โทร. 0-2673-9353-8 หรืออีเมล์ [email protected]
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่บริษัท จีเอชซีเอเซีย จำกัด
คุณชุตินันท์ คุณะดิลก โทร. 0-2357-1183
อีเมล์ [email protected]
เกี่ยวกับบลู เอเลเฟ่นท์ กรุ๊ป
นับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2523 คุณนูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ ได้มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่อาหารไทยและวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายไปทั่วโลกผ่านการทำงานของบลูเอเลเฟ่นท์ กรุ๊ป ปัจจุบัน ธุรกิจภายใต้บลูเอเลเฟ่นท์ กรุ๊ป ประกอบด้วย ภัตตาคารบลูเอเลเฟ่นท์ทั้งหมด 10 สาขาทั่วโลก ได้แก่ ลอนดอน ปารีส บรัสเซลส์ โคเปนเฮเกน ลียง ดูไบ มอลต้า จาการ์ตา ภูเก็ต และกรุงเทพฯ โดยมีโรงเรียนสอนทำอาหาร 2 แห่งที่กรุงเทพฯ และภูเก็ต รวมทั้งการผลิตและส่งออกเครื่องแกง น้ำจิ้ม และเครื่องปรุงต่างๆ ของไทยสู่กว่า 20 ประเทศทั่วโลก ด้วยความรักในการทำอาหารที่ได้รับแรงบัลดาลใจจากมารดาของเธอ ผู้ซึ่งได้ถ่ายทอดวิชาด้านการปรุงอาหารและเคล็ดลับเกี่ยวกับอาหารไทยต้นตำรับให้แก่คุณนูรอ ทำให้การรังสรรค์และปรุงอาหารไทยในประเทศที่มีวัตถุดิบตามฤดูกาล หรือบางครั้งอาจหาไม่ได้เลยไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเธอ และนอกจากมารดาของคุณนูรอแล้ว เธอยังได้รับคำแนะนำและฝึกสอนจากอาจารย์ ศรีสมร คงพันธุ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารไทยอีกด้วย นอกจากอาหารไทยโบราณที่หาทานยากแล้ว มาสเตอร์เชฟนูรอได้สร้างสรรค์รายการอาหารใหม่ที่ใช้วัตถุดิบและผลิตภัณฑ์โครงการหลวงให้กับแขกอยู่เสมอ
-กผ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit