‘ซัน’ ทุ่มทุนกว่า 4 ชม. แต่งเอฟเฟคไฟท่วมตัว จุดจบคนชั่วใน ‘ขุนเดช’

02 Jun 2012

กรุงเทพฯ--2 มิ.ย.--พอดีคำ

ใกล้เดินทางมาถึงจุดจบแล้ว สำหรับตัวละคร “สัมฤทธิ์” ที่สุดแสนจะร้ายกาจในเรื่อง “ขุนเดช”และแน่นอนว่าบทนี้ทำให้ “ซัน – พิชยดนย์ พึ่งพันธ์” แจ้งเกิดได้อย่างไม่ต้องสงสัย

ฉากในวันนี้เป็นจุดจบของ “สัมฤทธิ์” ที่เจ้าตัวทุ่มทุนสุดๆ ยอมทรมานตัวเองแต่งเอฟเฟคอยู่นานร่วม 4 ชั่วโมงเพื่อให้ได้ภาพออกมาสมจริง ถือเป็นการปิดท้ายอย่างสวยงาม โดยมีนักแสดงที่เข้าฉากทั้ง จั๊กจั่น , กรีน , เวียร์ ,หนุ่ม สุรวุฑ และทีมงานเป็นกำลังใจบ้าง แกล้งบ้าง ช่วยเกาให้บ้าง เพราะแต่งเอฟเฟคเสร็จจะตึงไปทั้งตัวและคัน และซันก็ขยับตัวลำบากมาก

“เสียงตอบรับยิ่งดีมากขึ้นเรื่อยๆ ในทวิตเตอร์แฟนๆ พูดถึงกันครับ เค้าบอกถึงผมจะร้ายแต่พวกเค้ายังรักเหมือนเดิม(หัวเราะ) ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของละครเรื่องนี้ คิดไม่ผิดเลยจริงๆ เมื่อก่อนอาจจะยึดติดต้องเป็นพระเอก ตอนนี้เปลี่ยนความคิดแล้วไม่ว่าจะเล่นบทไหนต้องทำให้เต็มที่ แล้วผลตอบรับจากผู้ชมจะดีเอง จะให้ผมไปเล่นร้ายอีกก็ยินดีมากครับ ผมถือว่าผมสอบผ่านกับบทร้ายเลยแหละสำหรับ ขุนเดช ”

ฉากจบของ “สัมฤทธิ์” เข้มข้นน่าดู โดยเฉพาะต้องแต่งเอฟเฟค ?

“ใช่ครับ หนักหนาสาหัสเลย ตัวละครแต่ละตัวมีเส้นทางของตัวเอง ใครทำดีก็ได้ดีไป สำหรับ สัมฤทธิ์ เป็นคนเลว ทำร้ายพระ ทำร้ายคนอื่น ถือว่าบาปหนาสุดท้ายโดนไฟคลอกตาย ฉากนี้ผมแต่งตัวใส่เอฟเฟคอยู่ประมาณ 4 ชั่วโมง ทำออกมาเละมากเลย เนียนมากตั้งแต่เส้นผมจนถึงปลายเท้า เก็บรายละเอียดได้ดีมากๆ รอยไหม้ก็เนียนมาก ใช้ทีมแต่งเอฟเฟคที่เป็นมืออาชีพมากันสองคนมาแต่งให้ผมโดยเฉพาะ ตอนแต่งต้องใช้ความอดทนมาก ด้วยอากาศก็ร้อนนิดหน่อย พอแต่งออกมาเสร็จนักแสดงในเรื่องเหวอกันหมด เพราะเหมือนจริงมากๆ อารมณ์เหมือนผีซอมบี้ เข้ามาถ่ายรูปกับผมใหญ่แล้วเอาไปลงอินสตาร์แกรม ตอนถ่ายจริงๆ ช่วงที่โดนไฟคลอกใช้สแตนอินนิดหน่อยเพื่อความปลอดภัย จุดพีคมันอยู่ที่ พี่หนุ่ม สุรวุฒิ ที่เล่นเป็นพ่อผมในเรื่องถึงแม้จะร้ายแค่ไหนแต่พอเห็นลูกชายจะตายต่อหน้าต่อตา เค้าต้องถ่ายทอดอารมณ์ของความเป็นพ่อ ถ่ายทอดอารมณ์ว่ารักลูกออกมา รับรองตอนจุดจบของสัมฤทธิ์น่าดูและน่าติดตามมากๆ ครับ”

ฉากสุดท้ายของ “สัมฤทธิ์” จะเป็นอย่างไรและจะตายด้วยน้ำมือของ “วีรบุรุษบาป”หรือไม่? ติดตามฉากนี้ได้ในวันพุธที่ 6 มิถุนายนนี้ เวลา 20.25 น. ช่อง 7 สี

-กภ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net