กรุงเทพฯ--28 ธ.ค.--ไทยเทรดดอทคอม
กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ สรุปผลการดำเนินงาน หลังเปิดตัวโครงการตลาดกลางซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านเว็บไซต์ thaitrade.com อย่างเป็นทางการของประเทศไทยเพื่อเป็นช่องทางการส่งออกสินค้าไทยไปสู่ตลาดโลก สำหรับผู้ประกอบการ และผู้ส่งออกไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีอยู่มากกว่า 2 ล้านในประเทศไทยเพียงครึ่งปี ส่งผลให้ผู้ประกอบการ และผู้ส่งออกไทย ตื่นตัวเกี่ยวกับการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์มากขึ้น และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี พร้อมสานต่อโครงการตั้งเป้าสร้างthaitrade.com ให้กลายเป็น E-Marketplace ระดับ World class
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการที่ทางกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายกรมส่งเสริมการส่งออก จัดทำโครงการตลาดกลางซื้อขายทาอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Thailand B2B E-Marketplace ผ่านเว็บไซต์ thaitrade.com ซึ่งได้เปิดตัวไปเมื่อกรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมาโดยตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปี 2554 นี้ จะมีผู้ประกอบการไทยเข้าเป็นสมาชิกthaitrade.com ไม่ต่ำกว่า 3,000 ราย และมีสินค้าไม่ต่ำกว่า 60,000 ชิ้น โดยมีจำนวนผู้ซื้อมาลงทะเบียนไม่น้อยว่า 5,000 ราย ปัจจุบันมีจำนวนผู้ประกอบการและผู้ส่งออกไทย ให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการตลาดกลางซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านเว็บไซต์ thaitrade.com เป็นจำนวนมาก
“สำหรับ thaitrade.com ปัจจุบันมีผู้ประกอบการ และผู้ส่งออกไทยสมัครเข้าร่วมโครงการฯ แล้วกว่า4,688 ราย โดยจำนวนนี้ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกผู้ขายแล้วกว่า 3,100 ราย ซึ่งเกินจากเป้าหมายที่ตั้งไว้เมื่อตอนเปิดโครงการที่ 3,000 ราย นอกจากนี้เว็บไซต์ยังมีความเคลื่อนไหวดีมาก มีผู้สนใจเข้าชมเว็บไซต์ กว่า 284,381รายมีจำนวนผู้ซื้อจากต่างชาติที่ลงทะเบียนแล้ว 8,108 ราย และ ได้มีการเจรจาติดต่อซื้อ-ขาย จากผู้ซื้อในประเทศต่างๆ เข้ามาแล้ว จึงกล่าวได้ว่าโครงการนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากทีเดียว”
เหตุผลหลักที่ทำให้โครงการประสบความสำเร็จนอกเหนือไปจากความตื่นตัวด้านการทำตลาดออนไลน์ของผู้ประกอบการเองแล้ว ทางกรมฯ ยังได้จัดกิจกรรมอบรมสัมมนาให้ความรู้ของโครงการฯ ตลอดช่วงเวลา 6 เดือนที่ผ่านมามีผู้สนใจเข้าร่วมฟังเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการส่งออกยังมีเครือข่ายที่จะทำให้สินค้าของผู้ประกอบการไทย ได้เข้าถึงผู้ซื้อที่มีศักยภาพ ได้อย่างรวดเร็วและตรงเป้าหมาย ได้อีกหลายช่องทาง ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กว่า 65 แห่งจาก 43 ประเทศทั่วโลก และกรมฯ ยังมีประสบการณ์ด้านการจัดงานแสดงสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการทำให้การจัดกิจกรรม Business matching บนโลกออฟไลน์เป็นตัวเสริมกิจกรรมบนโลกออนไลน์ได้อีกทาง
นอกเหนือไปจากนั้น thaitrade.com ยังได้มีการทำตลาด ผ่านสื่อ online ต่างๆ ที่จะทำให้ thaitrade.comเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางไปทั่วโลกอีกด้วย อาทิ ใน www.facebook.com/Thaitradedotcom มีการ update status อย่างสม่ำเสมอ ทั้งด้านข่าวสารการค้าของไทยและต่างประเทศ ข่าวการส่งออก แนวโน้มการส่งออก ข่าวกิจกรรม งานแสดงสินค้าต่างๆ การสร้าง album ภาพสินค้าต่าง ๆ เพื่อดึงดูดให้ แฟนเพจ และผู้สนใจสินค้าไทย ได้เห็นภาพสินค้าที่น่าสนใจสม่ำเสมอและทุกภาพจะมีคำบรรยาย รวมทั้งลิงค์ซึ่งเชื่อมโยงกลับไปที่หน้าสินค้าใน www.thaitrade.com รวมถึงมีการจัดทำแคมเปญ Search for Thai Products จุดประสงค์เพื่อให้ทั้ง B2B และผู้สนใจในการทำธุรกิจส่งออกได้คุ้นเคยกับการใช้ www.thaitrade.com ในการค้นหาสินค้า และยังเป็นการเพิ่มความสนใจให้กับตัว website อีกด้วย รวมทั้งได้มีการ link account กับโซเชียลเน็ตเวิร์คด้วยกันอย่าง twitter จึงทำให้มีแฟนเพจ และ follower ติดตาม ส่งผลให้มีการเพิ่มจำนวนผู้สนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการ B2B
แต่อย่างไรก็ตามกรมส่งเสริมการส่งออก ยังคงเดินหน้าต่อไปเพื่อสร้าง thaitrade.com ให้เป็นThailand B2B E-Marketplace เพื่อช่วยให้ยอดการส่งออกสินค้าไทยเพิ่มมากขึ้น เชื่อว่า thaitrade.comจะเป็นศูนย์กลางการซื้อขายทางออนไลน์ในลักษณะ Business to Business ที่เป็นช่องทางใหม่เพื่อขยายการขายสินค้าไปทั่วโลก และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในระดับสากลให้กับผู้ขายของไทยอย่างแน่นอน
สำหรับผู้ประกอบการและผู้ส่งออกไทย ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ สามารถสมัครได้หลายทาง อาทิ สมัครผ่านทางเว็บไซต์ www.thaitrade.com , e-mail : [email protected] ,[email protected] และwww.facebook.com/ThaitradeDotCom หรือสมัครด้วยตนเองที่บูธ thaitrade.com ภายในงานแสดงสินค้าต่างๆ ที่กรมฯ จัดขึ้น ทั้งนี้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ใดๆ ทั้งสิ้น หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ DEP Call Center 1169 โทร 02 685 1169 โทรสาร 02 530 9791
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit