กรุงเทพฯ--10 พ.ย.--สมาคมผู้ผลิตผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่
นายมงคล พิพัฒสัตยานุวงศ์ นายกสมาคมผู้ผลิตผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ นายมาโนช ชูทับทิม นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ และนายอาทร ช่วยณรงค์ ประธานสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว ร่วมกันแถลงข่าวส่งมอบไข่ไก่วันละ 1,100,000 ฟองให้กับโมเดิร์นเทรด 2 แห่ง ได้แก่ แม็คโคร และบิ๊กซี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผู้บริโภค ณ ห้างแม็คโครสาขาสาทร
นายมงคล พิพัฒสัตยานุวงศ์ นายกสมาคมผู้ผลิตผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ เปิดเผยว่า จากกรณีภาวะน้ำท่วมอาจทำให้ผู้บริโภคหาซื้อไข่ไก่ได้ค่อนข้างยาก เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่จึงรวมกลุ่มกันเร่งระดมไข่ไก่จากพื้นที่ต่างๆ ส่งเข้าโมเดิร์นเทรด เพื่อกระจายสินค้าให้ทั่วถึงมากที่สุด จะช่วยทำให้ง่ายต่อการหาซื้อของผู้บริโภค เบื้องต้นจะส่งไข่ไก่เข้าที่วันละ 1,100,000 ฟอง เป็นเวลา 14 วันติดต่อกัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยไข่ไก่ดังกล่าวเป็นไข่คละเบอร์ 2 และ 3 ในราคายุติธรรมที่ 115 บาทต่อแผง (30 ฟอง : แผง) และห้างจะจำหน่ายที่ 125 บาทต่อแผง
ขณะที่นายมาโนช ชูทับทิม นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ กล่าวว่า ภาพรวมไข่ไก่ในประเทศขณะนี้ ไม่ได้ขาดแคลน แต่เกิดจากปัญหาไม่สามารถขนส่งสินค้าได้ เพราะเส้นทางถูกน้ำท่วมตัดขาด ทั้งยังประสบปัญหาเรื่องจุดจำหน่ายสินค้าที่ขาดแคลน ทำให้โมเดิร์นเทรดหลายแห่งไม่มีไข่ไก่วางจำหน่าย ส่งผลให้ประชาชนหาซื้อไข่ไก่ได้ยาก จึงเข้าใจว่าไข่ไก่ขาดแคลน ซึ่งเป็นปัญหาด้านจิตวิทยา ที่รัฐบาลต้องบริหารจัดการแก้ปัญหาความตื่นตระหนกของประชาชนที่ซื้อไข่ไปกักตุนจำนวนมากให้ได้
สำหรับประเด็นการนำเข้าไข่ไก่ นายมาโนช ให้ความเห็นว่า “ในฐานะประเทศผู้นำการเลี้ยงไก่ แต่กลับแก้ปัญหาโดยการนำเข้าไข่ไก่จากมาเลเซีย ประเทศที่ได้แจ้งต่อองค์กรโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (โอไออี) ด้วยตัวเองว่ามีโรคระบาดนิวคาสเซิลในไก่ซึ่งเป็นโรคต้องห้าม จากการตัดสินใจดำเนินการดังกล่าว ทำให้กล่าวได้ว่าไทยนำเข้าไข่ไก่จากประเทศที่มีโรคระบาด ทั้งที่ความเป็นจริงปริมาณไข่ไก่ในประเทศยังเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค เช่นนี้ประเทศซึ่งเป็นตลาดส่งออกต่างๆในโลกจะมั่นใจในอุตสาหกรรมการเลี้ยงและผลิตไก่ไทยได้อย่างไร อนาคตอันใกล้อาจเป็นสาเหตุทำลายอุตสาหกรรมส่งออกไก่เนื้อของไทยที่มูลค่าปีละประมาณ 100,000 ล้านบาท ดังที่ท่านอธิบดีกรมปศุสัตว์ได้ให้ข้อคิดไว้ก็เป็นได้”
ด้านนายอาทร ช่วยณรงค์ ประธานสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว กล่าวว่า การผลิตไข่ไก่ของไทยนั้นได้มาตรฐานและมีการบริหารจัดการฟาร์มที่ดีกว่าประเทศเพื่อนบ้าน จึงยังคงยืนยันว่า การนำเข้าไข่ไก่จากเพื่อนบ้านถือเป็นการซ้ำเติมเกษตรกรเนื่องจากจะเกิดความเสี่ยงต่อการติดโรคระบาดซึ่งจะก่อความเสียหายในวงกว้าง จึงอยากให้ภาครัฐช่วยศึกษาหาทางแก้ปัญหาในระยะยาวสำหรับการฟื้นฟูฟาร์มไก่ไข่ที่จมน้ำจะดีกว่า