กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--IR network
บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) จัดทัพผู้บริหารพร้อมทีมงานเข้าประจำเหมืองถ่านหินที่อินโดนีเซีย พร้อมเดินเครื่องขุดถ่านหินและจำหน่ายให้กับลูกค้าที่สั่งออเดอร์ทันที เริ่มมีรายได้จากเหมืองในอินโดนีเซียตั้งแต่ปลายปีนี้เลย “ขจรพงศ์ คำดี” ย้ำเป้ายอดขายถ่านหินปีนี้แตะระดับ 1,200,000 ตัน ระบุบริษัทมีความมั่นคงทางธุรกิจมากขึ้นทั้งรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นจากการเป็นเจ้าของแหล่งวัตถุดิบเอง นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) (EARTH) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้เข้ามาถือหุ้น PT TRI TUNGGAL PITRIATI (TTP) ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในประเทศอินโดนีเซียและได้รับสัมปทานจากรัฐบาลให้สามารถขุดถ่านหินในประเทศอินโดนีเซีย อย่างเต็มตัว ล่าสุดEARTH ได้จัดส่งผู้บริหารหลักของบริษัท พร้อมทีมงานที่มีศักยภาพและมีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการคุณภาพของถ่านหินเข้าไปประจำอยู่ที่เหมืองถ่านหินที่ประเทศอินโดนีเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเริ่มดำเนินการขุดและจัดจำหน่ายถ่านหินให้กับลูกค้าตามออเดอร์ที่ได้รับคำสั่งซื้อแล้วเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้เหมืองถ่านหินจำนวน 2 เหมืองนี้ EARTH ได้ทำสัญญาขายถ่านหินให้กับลูกค้าในประเทศจีนไปทั้งหมดแล้วจำนวน 8 ล้านตัน และจะส่งมอบให้เสร็จสิ้นภายใน 4 ปี ซึ่งล็อตแรกได้เริ่มขุดและจัดจำหน่ายให้ลูกค้าได้แล้ว ขณะเดียวกันในปัจจุบันบริษัทจึงมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าในต่างประเทศล่วงหน้าอยู่ในมือแล้วรวม 16.5 ล้านตัน ทั้งนี้ EARTH จะเริ่มรับรายได้จากการขุดถ่านหินจำหน่ายได้ตั้งแต่ปลายปี 2554 เป็นต้นไป
“เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่าคุณภาพสินค้าทุกชิปเมนต์ของ EARTH ผ่านการตรวจสอบทุกขั้นตอนอย่างละเอียดและมีคุณสมบัติตรงตามที่ลูกค้าต้องการ ดังนั้นบริษัทจึงส่งทีมผู้บริหารที่มีศักยภาพและความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการคุณภาพของถ่านหิน ไปประจำอยู่ที่เหมืองถ่านหินประเทศอินโดนีเซีย ดังนั้นทุกกระบวนการตั้งแต่เริ่มขุดถ่านหินจนกระทั่งจัดจำหน่ายให้กับลูกค้า ได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียด ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้าของเราได้”
กรรมการผู้จัดการ กล่าวต่อว่า EARTH ยังคงเป้ายอดขายถ่านหินในปี 2554 ที่ระดับ 1,200,000 ตัน คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณร้อยละ 50 เปรียบเทียบกับปีก่อน โดยในครึ่งแรกของปี 2554 ได้จำหน่ายถ่านหินไปแล้ว 800,000 ตัน และในปี 2555 วางเป้าหมายจะเพิ่มยอดขายถ่านหินเพิ่มขึ้นเป็น 3,200,000 ตัน พร้อมคาดว่ารายได้น่าจะแตะที่ระดับ 10,000 ล้านบาทได้ ซึ่งการที่ EARTH ได้เป็นเจ้าของเหมืองถ่านหินเองนั้นทำให้มีความมั่นคงทางธุรกิจมากขึ้น ทั้งในแง่ของการลดความเสี่ยงในด้านการจัดหาวัตถุดิบ ทำให้คู่ค้ามีความเชื่อมั่นว่าสามารถส่งสินค้าได้ตามปริมาณและระยะเวลาที่ต้องส่งมอบ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มรายได้ในระดับที่ดีต่อเนื่อง จากการมีแหล่งวัตถุดิบเป็นของตนเอง รวมถึงทำให้อัตรากำไรของบริษัทดีขึ้นเช่นกัน
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit