TK รับอานิสงค์สถิติใหม่สองล้อทะลุ 2.1 ล้านคันในปี 55

23 Jan 2012

กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--ฐิติกร

  • วิกฤติน้ำท่วมปี 2554 คาดว่าสินเชื่อเช่าซื้อโตไม่ถึงเป้า 15%
  • เตรียมเปิดสาขาเพิ่ม 5-6 สาขา ตั้งเป้าโตไม่ต่ำกว่า 10% ในปีนี้

บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้นำผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เตรียมรับตลาดรถจักรยานยนต์ทะยานสร้างสถิติใหม่พุ่งอีก 5% ในปีนี้มาอยู่ที่ 2.1 ล้านคัน ซึ่งเป็นการทุบสถิติรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย โดยเตรียมเปิดสาขาเพิ่มอีก 5 – 6 สาขาในปีนี้เพื่อรับกับการเติบโตต่อเนื่องของตลาด

นายประพล พรประภา รองกรรมการผู้จัดการบริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เปิดเผยว่าในปี 2555 ตลาดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ จะทำสถิติสูงสุดทั้งสองตลาด เนื่องจากปี 2554 ก่อนวิกฤติน้ำท่วมทั้งสองตลาดกำลังจะทำลายสถิติสูงสุดเดิม โดยตลาดรถจักรยานยนต์ปี 55 จะแตะระดับ 2.1 ล้านคันหรือคิดเป็นอัตราเติบโตที่ 5% ในปีนี้ ซึ่ง HONDA จะเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ 13 รุ่น โดยเปิดตัวไปแล้ว 7 รุ่น เมื่อต้นเดือนมกราคม และจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่อีก 6 รุ่นภายในปีนี้ ในขณะเดียวกัน YAMAHA ก็จะเปิดตัวรถรุ่นใหม่อีก 6 รุ่น โดยเปิดตัวไปแล้วเมื่อกลางเดือนมกราคม 2 รุ่น ส่วนอีก 4 รุ่นจะเปิดตัวภายในปีนี้เช่นเดียวกัน ย่อมส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจของ TK โดยตรง ทั้งนี้เพราะยอดการปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์ของ TK มีสัดส่วนสูงถึง 80% ของยอดการปล่อยสินเชื่อทั้งหมด นายประพลกล่าวว่าเพื่อการรองรับการเติบโตของตลาดรถจักรยานยนต์ในปีนี้ TK ได้กำหนดแผนขยายงานในปีนี้โดยจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 5 – 6 สาขา กระจายไปยังต่างจังหวัดทั้งหมด โดยจะเปิดสาขาในเขตภาคอีสาน เขตภาคใต้ และ เขตภาคกลาง

“ปกติ TK จะเปิดสาขาปีละประมาณ 2 – 3 สาขา แต่ปีที่ผ่านมา TK เปิดสาขาได้เพียง 1 สาขาเท่านั้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เนื่องจากมีเหตุวิกฤติน้ำท่วม” นายประพลกล่าว

นายประพลกล่าวว่าจากภาวะการเติบโตของตลาดรถจักรยานยนต์อย่างต่อเนื่องในปีนี้ กอร์ปกับจำนวน 78 สาขาที่มีอยู่กระจายทั่วประเทศ และแผนขยายสาขาเพิ่มเติมอีกในปีนี้ จึงทำให้คณะผู้บริหาร TK มีความเชื่อมั่นอย่างมากว่าการเติบโตในปีนี้ของ TK จะไม่ต่ำกว่า 10%

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสภาพการเติบโตของตลาดมีอย่างต่อเนื่อง และเป้าการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ของ TK นั้น นายประพลย้ำว่า TK ยังคงดำเนินการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้กับลูกค้าอย่างระมัดระวังและเข้มงวดตามมาตรฐานของ TK จึงทำให้ TK สามารถรักษาสัดส่วนหนี้สงสัยจะเสียให้อยู่ในระดับต่ำที่ 3.2% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554

ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 พอร์ตเช่าซื้อสุทธิของ TK มูลค่าประมาณ 7,800 ล้านบาท โดยเป็นพอร์ตเช่าซื้อรถจักรยานยนต์สูงถึง 80% ส่วนที่เหลืออีก 20% เป็นพอร์ตเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งสัดส่วนสินเชื่อต่างจังหวัดได้ปรับเพิ่มขึ้นจาก 60% เมื่อต้นปี 2554 มาอยู่ที่ 65% และภายใน 2-3 ปีข้างหน้า สัดส่วนสินเชื่อต่างจังหวัดจะเพิ่มขึ้นเป็น 80% ตามสัดส่วนยอดขายของรถจักรยานยนต์ที่ต่างจังหวัดมีสัดส่วนสูงถึง 80% ของตลาดรวม

“นั่นคือเหตุผลที่ TK กระจายสาขาของเราออกไปต่างจังหวัดมากกว่าในเขตกรุงเทพฯ” นายประพลกล่าว

นายประพลกล่าวเพิ่มเติมว่าตลาดรถจักรยานยนต์ในปีที่แล้ว มียอดขายประมาณ 2 ล้านคัน เติบโตประมาณ 8% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2553 ในขณะที่ TK ได้ตั้งเป้าการเติบโตครั้งแรกที่ 10% ต่อมาการดำเนินธุรกิจมาถึงกลางปี ตลาดมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่องจนสร้างความเชื่อมั่นให้ TK ประกาศปรับเป้าหมายการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 20% อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ประเทศไทยประสบกับวิกฤติการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ จนทำให้ TK ต้องปรับลดเป้าหมายการเติบโตลงต่ำกว่า 15%

“ในปี 55 เรายังเชื่อมั่นว่าเราจะโตได้ไม่ต่ำกว่า 10% เพราะนอกจากการขยายสาขาเพิ่มเติมแล้ว เรายังมีรายชื่อลูกค้าที่ได้จากการเข้าซื้อกิจการของเซทเทเลมเมื่อปีที่แล้วอีก 1 ล้านรายชื่อ ทำให้เรามีฐานรายชื่อลูกค้าเพิ่มเป็น 3 ล้านรายชื่อ ซึ่งจำนวนฐานรายชื่อลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมากนี้ ทำให้เราสามารถขยายธุรกิจของเราได้อย่างต่อเนื่องในปีนี้แน่นอน” นายประพลกล่าว

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit