กรุงเทพ--23 ม.ค.--ไอแอมพีอาร์
ย้อนอดีตไปเมื่อปีพุทธศักราช 2498 งานวันเด็กแห่งชาติได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบต่อกันมาของนายกรัฐมนตรีที่จะมอบคำขวัญเป็นโอวาทแก่ลูกหลานเด็กไทย หากได้ย้อนอ่านคำขวัญวันเด็กของแต่ละปีและตีความอย่างถี่ถ้วน ก็จะพบว่าคำขวัญในแต่ละปีนั้นล้วนมีความหมายที่มุ่งให้ข้อคิดและคติสอนใจเพื่อให้เด็กไทยเป็นคนดีและคนเก่ง ด้วยเล็งเห็นว่าก่อนที่เด็กๆ จะเป็นคน “เก่ง” ได้ จะต้องเกิดจากการสั่งสมกระบวนการ “เรียนรู้” ดังนั้นในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2555 นี้ “มิวเซียมสยาม” โดย สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) จึงได้จัดกิจกรรม “พิพิธพาเพลิน ตอนพิเศษ” ขึ้น เพื่อส่งเสริมและให้ความรู้ผ่านกิจกรรมและเกมสนุกสนานที่เด็กๆ จะได้รับการกระตุ้นต่อมคิดและท้าทายให้พิชิตหาคำตอบที่ซุกซ่อนอยู่ในนิทรรศการ “เรียงความประเทศไทย” ด้วยตนเอง นายราเมศ พรหมเย็น ผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ กล่าวว่า บทบาทของมิวเซียมสยามคือมุ่งสร้างเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ให้แก่ประชาชนไทยทุกเพศทุกวัย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะการปลุกกระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกแห่งความเป็นคนไทย (Sense of Dignity) เกิดความเข้าใจ เห็นคุณค่า รู้จักตนเอง ภาคภูมิในความเป็นคนไทย และรู้ศักยภาพความเป็นคนไทยที่บรรพชนได้พัฒนาและสั่งสมมา รวมถึงสามารถนำมาพัฒนาตนเองเพื่อเสริมศักยภาพในการยืนอยู่บนประชาคมอาเซียนและเวทีโลกได้ “กิจกรรมวันเด็กที่จะจัดขึ้นในปี 2555 นี้ มุ่งปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนได้เกิดการเรียนรู้อย่างเต็มที่ มิวเซียมสยามจึงเปิดพื้นที่ทั้งบริเวณลานรุ้งด้านหน้าพิพิธภัณฑ์และภายในอาคาร ให้เด็กๆ ได้เล่นสนุกซุกซนตามประสาวัยใส ด้วยกิจกรรมและเกมต่างๆ อาทิ เกมต่อตุ๊กตากระดาษ 3 มิติ เกมเศรษฐียักษ์ เกมจิ๊กซอว์ 3 มิติ การประดิษฐ์ของเล่นจากวัสดุเหลือใช้ฯลฯ โดยแต่ละกิจกรรมล้วนกระตุ้นให้เด็กเกิดการสร้างสรรค์จินตนาการและได้เรียนรู้เรื่องราวของประเทศไทยอย่างไม่น่าเบื่อ เช่น เกมจับคู่สินค้า เป็นเกมที่สอนเรื่องการค้าขายในยุคสุวรรณภูมิว่าใช้การแลกเปลี่ยนแทนการใช้เงินแบบสมัยนี้ บ่งบอกว่าประเทศไทยมีการค้าขายกับนานาชาติมานานแล้ว โดยเปิดโอกาสให้เด็กๆ สวมบทพ่อค้าลองซื้อ-ขายสินค้าได้” นายราเมศกล่าว นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมลับสมองประลองความรู้ค้นหาปริศนาแห่งประวัติศาสตร์ “ใบผ่านแดนพิพิธภัณฑ์” โดยหนูน้อยนักสืบที่ไขปริศนาครบทุกข้อจะได้รับของที่ระลึกจากมิวเซียมสยาม พร้อมร่วมวงฟังนิทานแสนสนุกจากนักเล่านิทานมืออาชีพ ที่จะช่วยปลุกจินตนาการของเด็กๆ ให้เบ่งบานไม่รู้จบ เมื่อได้สนุกสนานและปลดปล่อยพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ไปกับการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมต่างๆ แล้ว น้องหนูๆ ยังจะได้เรียนรู้เรื่อง “การแบ่งปัน” อันเป็นคุณสมบัติอย่างหนึ่งของการเป็นคนดีของสังคมด้วย โดยการร่วมบริจาควรรณกรรมเยาวชนและหนังสือนิทาน เพื่อส่งต่อให้กับสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี รวมถึงการเรียนรู้เรื่อง “น้ำใจนักกีฬา” จากการเล่นเกมชิงรางวัลต่างๆ เพราะการรู้แพ้ รู้ชนะ และรู้อภัย ถือเป็นรางวัลที่สูงค่ามากกว่าสิ่งของใดๆ นอกจากกิจกรรมวันเด็กที่จัดขึ้น ณ มิวเซียมสยาม กรุงเทพมหานคร ทาง สพร. ยังได้จัดกิจกรรมพิเศษให้เด็กๆ ในต่างจังหวัดได้สนุกสนานกับการเล่นและทำกิจกรรมในงาน “ขุดค้นทางโบราณคดี” และงาน “muse kids play + learn” ในโครงการ "Muse Mobile มิวเซียมติดล้อ" นิทรรศการและกิจกรรมการเรียนรู้เคลื่อนที่สู่ท้องถิ่น เพื่อบ่มเพาะเด็กและเยาวชนไทยให้เป็นผู้ใฝ่รู้ อันจะนำไปสู่การสร้างสรรค์สังคมแห่งการเรียนรู้ เพื่อรองรับการพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืน ปัจจุบัน มิวเซียมติดล้อ มีจำนวน 2 ชุด ชุดที่ 1 แบบรถบัส ขณะนี้จัดแสดงอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี วันนี้ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2555 ชุดที่ 2 แบบตู้คอนเทนเนอร์ จัดแสดงอยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช วันนี้ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2555 เช่นกัน สำหรับคำขวัญวันเด็กในปีนี้ที่ว่า “สามัคคี มีความรู้คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี” ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้สังคมไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้กับเด็กและเยาวชนไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เก่งและดีไม่อาจเกิดขึ้นได้ในวันเด็กเพียงวันเดียว ด้วยเหตุนี้ทาง สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ จึงได้จัดโครงการและกิจกรรมที่จะส่งเสริมการศึกษาอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการ “ปั้นนักพิพิธภัณฑ์สายพันธุ์สยาม Young Muse Project” เพื่อกระตุ้นให้เยาวชนคนเจนเนอเรชั่นวาย รักการสร้างสรรค์งานนิทรรศการ โดยเปิดรับไอเดียจากนักศึกษาทั่วประเทศเพียง 20 ทีม มาเข้าแคมป์ จากนั้นคัดเลือกโครงการที่โดดเด่นที่สุดได้รางวัล 200,000 บาท พร้อมได้ไปศึกษาดูงานพิพิธภัณฑ์ ณ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งภัณฑ์รักษ์รุ่น 2 นี้อยู่ระหว่างการสร้างสรรค์ผลงานให้เป็นจริง และจะนำมาจัดแสดงที่มิวเซียมสยามประมาณเดือนพฤษภาคมนี้ “นอกจากนี้ยังมีโครงการเผยแพร่สินค้าต้นแบบเชิงวัฒนธรรม หรือ Museum Take Away สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่รักการออกแบบและสนใจในธุรกิจเชิงวัฒนธรรม ให้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกร่วมสมัย มีอัตลักษณ์ไทยเข้ามาประกวด โดยผู้ชนะจะได้รับรางวัลและผลงานจะถูกนำไปผลิตจริง จดสิทธิบัตร และเสนอขายในร้านค้าพิพิธภัณฑ์ของมิวเซียมสยาม เป็นความภาคภูมิใจให้แก่นักศึกษา และในปี 2555 จะจัดขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งโครงการและกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้นี้ทางมิวเซียมสยามมุ่งหวังให้เด็กและเยาวชนไทยเกิดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ เกิดการคิดวิเคราะห์ สังเกต สร้างสรรค์ และเกิดแรงบันดาลใจที่จะเรียนรู้ต่อไป” ผอ.สพร.ระบุ
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
กส