กรุงเทพฯ--6 ก.พ.--อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น
ประเทศไทย สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทย ด้วยการเป็นเจ้าภาพจัดงานยิ่งใหญ่ระดับโลก “งานประชุมใหญ่โรตารีสากล ปี 2555” โดย โรตารี ผนึกกำลังกับ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) พร้อมด้วยภาคีภาครัฐและเอกชน ผนวกกับพลังของคนไทยทั้งประเทศ ต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมจากทั่วโลกกว่า 38,000 คน ระหว่างวันที่ 6-9 พฤษภาคมนี้ โดยเป็นการทำลายสถิตที่มีจำนวนผู้ลงทะเทียนล่วงหน้าสูงสุดในประวัติการณ์ของการจัดประชุมใหญ่ของโรตารีสากล คาดจะกระตุ้นอุตสาหกรรมไมซ์และท่องเที่ยวให้คึกคักนำรายได้เข้าประเทศกว่า 3,000 ล้านบาท
นายพิชัย รัตตกุล ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดงานประชุมใหญ่โรตารีสากล ฝ่ายเจ้าภาพ ปี 2555 กล่าวว่า นับเป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทยและคนไทยที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัด “งานประชุมใหญ่โรตารีสากล ปี 2555” หนึ่งในงานประชุมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งประเทศไทยได้รับคัดเลือกจากโรตารีสากลให้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมเป็นครั้งแรก เนื่องจากมีความพร้อมทั้งด้านทำเลที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางการบิน นโยบายของรัฐบาล ที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE: Meeting, Incentive, Convention, Exhibition) ตลอดจนสถานที่จัดประชุมที่มีความพร้อมและมีสิ่งอำนวยความสะดวกตามหลักเกณฑ์ที่โรตารีสากลกำหนด ซึ่งงานประชุมใหญ่โรตารีสากล นับเป็นวาระสำคัญของโรแทเรียนทั่วโลก ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเครือข่ายแห่งมิตรภาพในการบำเพ็ญประโยชน์ร่วมกันตามอุดมการณ์ของโรตารี โดยมีสมาชิกโรตารีจากทั่วโลกมาประชุมเพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน สำหรับงานประชุมในปีนี้นับเป็นครั้งที่ 103
นายนรเศรษฐ ปัทมานันท์ ประธานจัดงานประชุมใหญ่โรตารีสากล ฝ่ายเจ้าภาพ ปี 2555 กล่าวว่า งานนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6–9 พฤษภาคม 2555 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยแนวคิดของการจัดประชุมในประเทศไทยครั้งนี้จะเป็นการสร้างสรรค์สันติสุขผ่านรอยยิ้ม โดยใช้สโลแกน The Land of a Thousand Smiles ซึ่งสื่อถึงเอกลักษณ์ของคนไทยในการแสดงไมตรีจิตต่อผู้มาเยือน โดยมีสัญลักษณ์ของงาน คือ น้องยิ้มและน้องแย้ม เด็กชายหญิงในชุดโจงกระเบน ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นทูตต้อนรับสมาชิกโรตารีที่คาดว่าจะมาร่วมประชุมจากทั่วโลกกว่า 38,000 คน
ไฮไลต์ของงานประชุมในปีนี้ คือ Keynotes Speakers ซึ่งล้วนเป็นผู้มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ Muhammad Yunus เจ้าของรางวัลโนเบลประจำปี 2006, Hugh Evans, CEO ของ the Global Poverty Project และ Amanda Martin จาก the Global Health Access Program นอกจากนี้ ในงานครั้งนี้ จะมีการประกาศความสำเร็จที่โรตารีสากลสามารถระดมทุนบริจาคได้ครบ 202 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อใช้ในการรณรงค์ขจัดโรคโปลิโอให้หมดไปจากโลก ในโครงการโปลิโอพลัส ซึ่งเป็นโครงการสำคัญอีกหนึ่งโครงการของโรตารีสากล ซึ่งการที่โรแทเรียนทั่วโลกสามารถระดมทุนบริจาคได้ครบ 202 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลนิธิบิลและเมลินดา เกตส์ จึงได้จะสมทบทุนให้อีก 405 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นายนรเศรษฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การจัดงานประชุมในครั้งนี้ โรตารี ได้รับการสนับสนุนหลักจาก สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน.ซึ่งเป็นตัวแทนภาครัฐในการเป็นเจ้าภาพร่วมกับทางโรตารี สสปน.นับว่ามีบทบาทสำคัญโดยได้ร่วมกับโรตารีประเทศไทย เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดประชุมจนชนะการประมูลสิทธิ์ในปี 2548 และให้การสนับสนุนการเตรียมงานมาอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ด้าน รวมถึงงบประมาณการจัดงาน นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนและร่วมมือจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในการเตรียมความพร้อมเรื่องโรงแรมและการท่องเที่ยว เพื่อรองรับกิจกรรมของผู้ร่วมประชุมหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ท่องเที่ยวต่อในประเทศไทย ในขณะที่กรุงเทพมหานคร ได้ให้ความร่วมมือในการตกแต่งและดูแลพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตลอดจนจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อพร้อมกับการต้อนรับผู้มาเยือน
ด้าน นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ในฐานะเจ้าภาพร่วมในการจัดงาน กล่าวว่า “การผลักดันให้ประเทศไทยได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมระดับนานาชาตินับเป็นพันธกิจหลักของ สสปน.ที่มุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ให้เป็นหนึ่งในธุรกิจหลักที่สร้างรายได้และขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ การประชุมโรตารีสากล เป็นการประชุมขนาดใหญ่ระดับโลกที่มีสมาชิกโรตารีซึ่งเป็นนักธุรกิจ และผู้ที่อยู่ในสาขาวิชาชีพต่างๆ จากทั่วโลกมารวมกัน ยิ่งเป็นการฟื้นฟูความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของประเทศได้ในช่วงวิกฤตการณ์ของประเทศที่ผ่านมา และเป็นการนำเสนอประเทศไทยในมุมมองที่แตกต่างจากเดิม ภายใต้แคมเปญ “Believe in Thailand มั่นใจเมืองไทยพร้อม”
สสปน.และโรตารีสากลทั้งสี่ภาคในประเทศไทย ประกอบด้วย ภาค3330, 3340, 3350 และ 3360 ได้ร่วมกันทำงานมาตั้งแต่ปี 2547 เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยได้รับสิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมโรตารีสากลปี 2555 โดยจัดทำหนังสือยื่นประมูลสิทธิ์ (Bid Book) เสนอต่อโรตารีสากล และ สสปน.ในฐานะตัวแทนภาครัฐและผู้ให้การสนับสนุนทางการเงิน ได้ทำหนังสือแจ้งข้อเสนอให้การสนับสนุนทางการเงินในวงเงิน 270 ล้านบาท สำหรับจัดประชุมใหญ่โรตารีสากล ประจำปี 2555 เพื่อใช้แนบใน Bid Book ซึ่งในขณะนั้นมี 3 เมืองที่เข้ารอบการพิจารณาจากคณะกรรมการบริหารของโรตารีสากล ได้แก่ ซิดนีย์ กัวลาลัมเปอร์ และกรุงเทพมหานคร และเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2550 สสปน.ได้ลงนามในสัญญาให้การสนับสนุนทางการเงินสำหรับจัดงานประชุมใหญ่โรตารีสากล ปี 2555 ในวงเงิน 270 ล้านบาทตามที่เสนอ โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2554 เห็นชอบให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าว
การประชุมใหญ่โรตารีสากล ประจำปี 2555 เป็นงานที่สำคัญของประเทศ และเป็นการแสดงถึงการผนึกความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ นอกจากนี้ เราได้รับทราบข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการจากการประชุมกับสโมสรโรตารีสากล เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2555 ณ เมืองซาน ดิเอโก้ว่า มีจำนวนยอดผู้ลงทะเบียนอย่างไม่เป็นทางการกว่า 28,000 คน ซึ่งดำเนินไปตามเป้าหมายผู้เข้าร่วมประชุมใหญ่โรตารีสากลประจำปี 2555 จะสูงถึง 38,000 คน โดยคาดว่าจะสามารถนำรายได้เข้าประเทศกว่า 3,000 ล้านบาท จากผู้เข้าร่วมประชุม 38,000 คน ซึ่งจะมีส่วนช่วยส่งเสริมภาพรวมการเติบโตของอุตสาหกรรมไมซ์ในปี 2555 ที่ สสปน.ตั้งเป้าหมายว่าจะมีผู้เดินทางกลุ่มไมซ์จำนวน 750,000 คน และสร้างรายได้ให้กับประเทศกว่า 60,120 ล้านบาท
“นอกจากนี้ กิจกรรมของโรตารีได้ให้ความสำคัญทางด้านการช่วยเหลือมนุษยชนและคุณภาพชีวิต ดังนั้นผลประโยชน์ที่เกิดจากโครงการต่างๆ จึงมุ่งเน้นไปยังชุมชนที่ห่างไกลโดยตรง ทั้งนี้การจัดประชุมใหญ่ที่จะหมุนเวียนทั่วโลก ย่อมส่งผลให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสนับสนุนโครงการต่างๆ ของประเทศเจ้าภาพที่กำลังดำเนินอยู่ หรือกำลังจะเกิดให้เป็นผลสำเร็จ สำหรับประเทศไทย การประชุมครั้งนี้จะเป็น Show Case สำคัญที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของไทยในการเป็นเจ้าภาพงานมหกรรมโลก เวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 อีกด้วย” นายอรรคพล กล่าวสรุป
นอกจากนี้ ในปี 2555 โรตารีสากลยังกำหนดให้มีการจัดประชุม Rotary World Peace Symposium ขึ้นที่ประเทศไทยก่อนหน้าการประชุมใหญ่โรตารีสากล 1-2 วัน ซึ่งเป็นการประชุมที่จัดขึ้นทุก 3 ปี การที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้จัด Rotary World Peace Symposium นับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เผยแพร่ชื่อเสียงของประเทศในฐานะประเทศที่รักสงบ และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นประเทศไทยยังเป็น 1 ใน Peace Centers ที่มีอยู่เพียง 6 แห่งทั่วโลก
-กผ-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit