เครือกสิกรไทยรุกไพรเวทแบงก์ ชูมาตรฐานที่ปรึกษาการลงทุนระดับเวิล์ดคลาสยึดแชมป์ผู้นำตลาดต่อเนื่อง ดันส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 35% ภายใน 2 ปี

05 Aug 2011

กรุงเทพฯ--5 ส.ค.--กสิกรไทย

เครือกสิกรไทย ชี้ธุรกิจไพรเวทแบงก์ในช่วงครึ่งปีหลัง 2554 เติบโตดี รุกรีแบรนด์ดิ้งบริการไพรเวทแบงก์กิ้งเครือธนาคารกสิกรไทย ชูบริการทางการเงิน ที่ปรึกษาทางการลงทุนและสิทธิพิเศษระดับมาตรฐานโลก ตอกย้ำศักยภาพการดูแลและการเข้าถึงมัดใจลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูง ตั้งเป้า 2 ปีนับจากนี้โกยยอดรวมสินทรัพย์เพิ่มเป็น 564,000 ล้านบาท ดันส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 35% ครองแชมป์ผู้นำตลาดธุรกิจไพรเวทแบงก์อย่างต่อเนื่อง

นายกฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในปี 2553 ที่ผ่านมา ภาพรวมกลุ่มลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูง (High Net Worth Individual) ระดับโลกมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากยอดรวมสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ถึง 1,281 ล้านล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 9.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่จำนวนลูกค้ามีจำนวนสูงถึง 10.9 ล้านคน คิดเป็นอัตราเติบโต 8.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงประเทศไทย มีอัตราการเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคอื่นๆ ในโลก โดยมีจำนวนลูกค้าทั้งสิ้น 3.3 ล้านคน ด้วยยอดรวมสินทรัพย์รวมกว่า 324 ล้านล้านบาท สูงเป็นอันดับสองรองจากภูมิภาคอเมริกาเหนือเพียงภูมิภาคเดียวเท่านั้น โดยประเทศที่มีส่วนสำคัญต่อการเติบโตดังกล่าว ได้แก่ จีน อินเดีย

สำหรับแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจไพรเวทแบงก์กิ้งในประเทศไทยนั้น นายกฤษฎา มองว่า มีอัตราการเติบโตทิศทางเดียวกับระดับโลกและภูมิภาค โดยในช่วงครึ่งปีหลัง 2554 ยังสามารถเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากมาตราการการจำกัดวงเงินคุ้มครองเงินฝาก ภายใต้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อผู้ฝากต่อสถาบันการเงิน โดยมาตราการดังกล่าวจะส่งผลให้ลูกค้าเล็งเห็นความสำคัญของบริการจัดการสินทรัพย์ส่วนบุคคลมากยิ่งขึ้น เนื่องจากบริการดังกล่าวสามารถจัดสรรเงินออมไปสู่ช่องทางการลงทุนอื่นๆ อาทิ การลงทุนในกองทุนรวม การออมผ่านการประกันชีวิต การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ของสะสม และทรัพย์สินมีค่าอื่น ๆ

ด้านนางสาวณัฐรินทร์ ตาลทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด และผู้บริหารธุรกิจไพรเวทแบงค์เครือธนาคารกสิกรไทย กล่าวเสริมว่า จากภาพรวมธุรกิจไพรเวทแบงก์กิ้งข้างต้นทำให้เครือธนาคารฯ เล็งเห็นโอกาสและศักยภาพการเติบโตที่มีนัยสำคัญจึงรุกทำตลาดอย่างจริงจิงยิ่งขึ้น โดยล่าสุดนี้ได้รีแบรนดิ้งบริการไพรเวทแบงก์กิ้งเครือธนาคารกสิกรไทย (KGroup Private Banking) เพื่อตอกย้ำศักยภาพการดูแลและการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงที่มีสินทรัพย์กับเครือธนาคารกสิกรไทยตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป ทั้งทางด้านบริการทางการเงิน ที่ปรึกษาทางการลงทุน และสิทธิพิเศษระดับมาตรฐานโลก โดยให้บริการคำปรึกษาด้านการลงทุนแบบครบวงจร ทั้งการลงทุนพื้นฐาน การลงทุนทางเลือก และการลงทุนในหลักทรัพย์ เพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์การลงทุนที่สลับซับซ้อน สอดรับกับแนวทางที่บริษัทฯ ยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและเหนือกว่าจากผู้ให้บริการรายอื่น ภายใต้แนวคิด When Your Wish is more than Wealth ผ่าน 3 บริการหลัก ดังนี้

บริการทางการเงินและการลงทุนอย่างครบวงจร (Investment Products) ในรูปแบบแบบการลงทุน (Discretionary Portfolio) เพื่อตอบสนองความลูกค้าบุคคลที่มีสินทรัพย์จำนวนมาก แต่ไม่สะดวกในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้วยตัวเอง เนื่องจากไม่มีเวลา หรือยังไม่มีความเชี่ยวชาญในการเลือกลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่เหมาะสม ผ่านผลิตภัณฑ์กองทุนรวมส่วนบุคคล

บริการให้คำปรึกษา (Advisory & Service) จากทีมงานไพรเวทแบงค์เกอร์ (Private Banker) ที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor) และผู้เชี่ยวชาญในเครือธนาคารกสิกรไทย สำหรับการการบริหารพอร์ตการลงทุน (Asset Allocation) และการบริการให้คำปรึกษาในรูปแบบสัมมนาหัวข้อต่างๆอาทิ วางแผนภาษี (Tax Planning) ที่เหมาะกับการจัดการส่วนตัวและธุรกิจของลูกค้า การส่งต่อธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่น (Succession Planning) และให้คำแนะนำการลงทุนในสิ่งที่รัก (Passion Investment) ที่ให้ข้อมูลด้านการลงทุน และการประเมินราคาสำหรับการลงทุนในเพชร ภาพวาด และนาฬิกามีค่า พร้อมให้บริการประกันของสะสมประเภทศิลปวัตถุและอัญมณี (Private Collection of Fine Art and Jewelry) เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ชอบสะสมสิ่งของมีค่า

สิทธิพิเศษเหนือระดับ (Privilege) ที่ให้บริการพิเศษเหนือสถาบันการเงินแห่งอื่น อาทิ บริการ Meet and Assist Service ที่สร้างขึ้นจากความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าในเชิงธุรกิจและชีวิตส่วนตัว เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับลูกค้ากลุ่มลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูง ที่เดินทางระหว่างประเทศผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ อังกฤษ จีน อินเดีย โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกตั้งแต่ออกจากที่พัก บริการเช็ค-อิน พิธีการตรวจคนออกนอกประเทศ พิธีการตรวจคนเข้าประเทศ และบริการรถรับส่งสู่ที่พักปลายทาง เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกรวดเร็วในการเดินทาง พร้อมสิทธิประโยชน์เทียบเท่าบัตรสมาชิกของโรงแรมชั้นนำ และบริการทางด้านการแพทย์ และบริการเลขาส่วนตัว

นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลจากการรีแบรนดิ้งบริการไพรเวทแบงก์กิ้งเครือธนาคารกสิกรไทย ทำให้ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2554 เครือธนาคารกสิกรไทยมียอดรวมสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ของกลุ่มลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงเพิ่มเป็น 350,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 17% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีจำนวนลูกค้า 5,200 ราย คิดเป็นสัดส่วน 29% ของจำนวนลูกค้าทั้งหมดในประเทศไทยที่ปัจจุบันมีอยู่ 18,000 ราย ซึ่งจัดเป็นผู้นำตลาดธุรกิจไพรเวทแบงก์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าลูกค้ามีความเชื่อมั่นในการให้คำปรึกษาและคำแนะนำจากทีมงานไพรเวทแบงค์เกอร์ (Private Banker) ที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor) และผู้เชี่ยวชาญในเครือธนาคารกสิกรไทย ทั้งนี้ คาดว่าอีก 2 ปีนับจากนี้เครือธนาคารกสิกรไทยจะมียอดรวมสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ของกลุ่มลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงเพิ่มเป็น 564,000 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 35% ถือเป็นผู้นำตลาดธุรกิจไพรเวทแบงก์อย่างต่อเนื่อง

ส่วนประชาสัมพันธ์ ธนาคารกสิกรไทย 1 ซอยกสิกรไทย ราษฎร์บูรณะ กทม.10140 โทร.0 2470 2653-8