กรุงเทพฯ--11 ส.ค.--โครงการทูบีนัมเบอร์วัน
โครงการ TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี เป็นโครงการหนึ่งที่เน้นการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด มุ่งการรณรงค์ในกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนเป็นหลักสำคัญ โดยใช้กลวิธีสร้างกระแสการไม่ข้องแวะกับยาเสพติด มีกิจกรรมที่เป็นเสมือนเครื่องมือที่ช่วยเติมเต็มสิ่งที่ดีให้กับชีวิต เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมวัยรุ่น ให้รู้จักการดูแลตนเอง ช่วยเหลือผู้อื่น ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และสามารถแสดงพลังที่มีอยู่ได้อย่างถูกต้องและสร้างสรรค์
หม่อมหลวงยุพดี ศิริวรรณ ที่ปรึกษาสำนักงานโครงการทูบีนัมเบอร์วันกล่าวว่าปัจจุบันได้มีการจัดตั้งชมรม TO BE NUMBER ONE ขึ้นในโรงเรียนทั่วประเทศไทยเพื่อให้กิจกรรมต่างๆในโครงการทูบีนัมเบอร์วันเป็นเครื่องปลูกฝังจิตสำนึกที่เอื้อต่อการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด และเป็นระบบในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้มีพฤติกรรมที่พึงประสงค์ ให้เยาวชนได้รับการส่งเสริมระเบียบวินัย คุณธรรม และจริยธรรม ได้รับการพัฒนาทักษะชีวิตจากการเข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างสรรค์ มีโอกาสได้แสดงออก ทั้งด้านวิชาการ, กีฬา,ดนตรี ศิลปะการแสดงและอื่น ๆ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับวัย สามารถปรับตัวและดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นสุข การดำเนินงานกิจการนักเรียนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีคุณภาพและประสิทธิภาพ เกิดเป็นกระแสค่านิยมของการเป็นที่หนึ่งได้โดยไม่พึ่งพายาเสพติดขึ้นในทุกโรงเรียน
“ โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์” อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นอีกแห่งหนึ่งที่ได้มีการจัดตั้งชมรม TO BE NUMBER ONE ขึ้นในโรงเรียนมาตั้งแต่ปี 2548 และได้ดำเนินกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสมาชิก 3,405 คน การดำเนินกิจกรรมต่างๆของชมรม TO BE NUMBER ONE ของโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่จะช่วยส่งเสริมให้เยาวชนสมาชิก ได้รับการปลูกฝังเจตคติที่ดี มีภูมิคุ้มกันทางจิตใจ ได้รับการพัฒนาให้เป็นคนดีของชาติ มีความรู้คู่คุณธรรม มีทักษะในการดำรงชีวิต รู้จักการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และรู้จักปฏิเสธสิ่งเสพติดแล้ว เยาวชนสมาชิกยังได้รับการส่งเสริมอาชีพจากความถนัดในงานฝีมืออีกด้วย อย่างเช่น นักเรียนกลุ่ม BIY ของโรงเรียนฯ ที่ได้รวมตัวกันสร้างสรรค์อาชีพเสริม จากการทำในสิ่งที่ตนมีความสามารถและถนัด ด้วยการประดิษฐ์งานฝีมือ หมอนอิงไหมพรหม และ ตุ๊กตาถักพวงกุญแจ ที่สามารถนำไปจำหน่ายสร้างรายได้พิเศษให้แก่สมาชิก ได้นำมาใช้แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของทางบ้านได้
ด.ญ.วรุณพร อี้เดิม สมาชิกชมรมทูบีนัมเบอร์วัน โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ สมาชิกกลุ่ม BIY เล่าว่า ปัจจุบันสมาชิกในกลุ่ม BIY มีทั้งหมด 30 คน พวกเราจะใช้เวลาว่างจากการเรียน มาประดิษฐ์หมอนอิงไหมพรหมและตุ๊กตาถักพวงกุญแจ ซึ่งงานฝีมือเหล่านี้สามารถนำมาประดับตกแต่งภายในบ้าน เป็นของฝาก หรือนำมามอบให้กันในโอกาสพิเศษต่างๆได้ ซึ่งจะทำขายกันเองภายในโรงเรียนในช่วงเวลาที่มีการจัดกิจกรรมภายใน และรับออเดอร์จากลูกค้าที่สั่งเข้ามาจากที่ต่างๆด้วย โดยราคาของหมอนอิงไหมพรหมจะเริ่มต้นที่ 300 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับรูปแบบ ขนาด ลวดลาย และผ้าที่นำมาถัก ส่วนตุ๊กตาถักพวงกุญแจราคา 150 บาท โดยงานแต่ละชิ้นจะใช้เวลาประมาณ 2 ถึง 3 วัน ในการผลิต ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ช่วยให้สมาชิกของชมรมมีรายได้จากการขาย อยู่ที่เดือนละ 1,500 บาท ถึง 2,000 บาท
เช่นเดียวกับ น.ส.ศศิภาญา เอื้อเจริญทรัพย์ อีกหนึ่งในสมาชิกกลุ่ม BIY ชมรมทูบีนัมเบอร์วัน โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ เล่าว่า การทำตุ๊กตาถักพวงกุญแจ และหมอนอิงถือเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งในชมรมทูบีนัมเบอร์วัน ประโยชน์ที่ได้รับนอกจากจะสามารถทำเป็นอาชีพเสริม มีรายได้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของทางบ้านได้แล้ว ยังช่วยในการฝึกสมาธิได้อีกวิธีหนึ่งด้วย เพราะเวลาทำงานก็จะต้องใจจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้น ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการเรียนและการอ่านหนังสือได้ โดยทางกลุ่มจะใช้เวลาว่างจากการเรียนหรือวันหยุดทำ ถ้าอยู่ในช่วงสอบก็จะหยุดอ่านหนังสือสอบก่อน เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียและกระทบต่อการเรียน
การทำตุ๊กตาถักพวงกุญแจ และหมอนอิง อีกหนึ่งกิจกรรมสร้างสรรค์ในโครงการทูบีนัมเบอร์วัน ที่ช่วยให้กลุ่มนักเรียนโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ มีรายได้เสริมจากการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และได้ใช้ความสามารถตามความชอบและความถนัดที่มีอยู่ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งสามารถนำมาเป็นต้นแบบของกิจกรรมที่ไม่พึ่งยาเสพติด ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้กับเยาวชนได้เป็นอย่างดี ? สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 025822965 ประชาสัมพันธ์ โครงการทูบีนัมเบอร์วัน
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net