กรุงเทพฯ--31 ส.ค.--พม.
วานนี้ (๓๐ ส.ค.๕๔) เวลา ๑๘.๐๐ น. ที่โรงแรมปริ้นซ์ พาเลซ กรุงเทพฯ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาผู้บริหารและหัวหน้าหน่วยงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และบรรยายพิเศษในหัวข้อ “เจคติอย่างสร้างสรรค์และการจัดสวัสดิการให้แก่กลุ่มเป้าหมายในภาวการณ์เปลี่ยนแปลง” เพื่อชี้แจงแนวทางในการปฏิบัติงานแก่ผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการ ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยกล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีภารกิจที่สนับสนุนการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ในด้านสังคมและคุณภาพชีวิต และนโยบายความมั่นคงของชีวิตและสังคม ซึ่งให้ความสำคัญในเรื่องของการส่งเสริมครอบครัวให้มีความมั่นคงอบอุ่น สร้างหลักประกันความมั่นคงในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชน ส่งเสริมบทบาทสตรีในการมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ ตลอดจนเสริมสร้างให้ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาสมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จึงมีนโยบายหลักที่ต้องให้ความสำคัญ ได้แก่ การติดตามการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ อย่างต่อเนื่อง การน้อมนำพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในการสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง การบูรณาการงาน/โครงการของทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับเด็ก เยาวชน สตรี และขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลด้านสังคม
นายสันติ กล่าวต่อว่า ในการดำเนินงานตามนโยบายด้านสังคม ได้แก่ ๑.การส่งเสริมพัฒนาให้ครอบครัวมีความมั่นคงอบอุ่น โดยมุ่งสานความสัมพันธ์ การส่งเสริมศักยภาพครอบครัว ผ่านคลีนิคครอบครัวระดับตำบล ซึ่งเป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาแนะนำด้านครอบครัวและเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว ๒.การสนับสนุนบทบาทของสตรี โดยส่งเสริมให้สตรีได้รับการพัฒนาศักยภาพและมีบทบาทอย่างเสมอภาคเช่นเดียวกับผู้ชาย เสริมสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มองค์กรในการดำเนินกิจกรรมเพื่อประโยชน์ของสตรีในทุกๆ ด้าน ๓.การสร้างหลักประกันความมั่นคงและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ขจัดการเลือกปฏิบัติและการละเมิดสิทธิเด็ก สตรี รวมถึงคนพิการและคนด้อยโอกาสอย่างเหมาะสม ตลอดจนป้องกันและปราบปรามกระบวนการค้ามนุษย์ ๔.การส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ ให้มีศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัยที่ได้มาตรฐาน จัดให้มีโปรแกรมอัจฉริยะเพื่อเสริมสร้างเชาว์ปัญญาแก่เด็กและเยาวชนในชุมชนและสถานสงเคราะห์ การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น ๕. การเสริมสร้างให้ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาสมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งแบ่งเป็น กลุ่มผู้สูงอายุ เพื่อเตรียมความพร้อมผู้ที่กำลังจะเข้าสู่วัยสูงอายุได้อย่างเป็นระบบและครบทุกมิติ พัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุในชุมชน การจัดตั้งศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในชุมชน คนพิการ พัฒนาศักยภาพคนพิการและครอบครัวให้เข้าถึงระบบสวัสดิการต่างๆ ส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนพิการทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้ด้อยโอกาสสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรีและความเท่าเทียมในสังคม กลุ่มผู้ด้อยโอกาส และกลุ่มชาติพันธุ์ เสริมสร้างการพัฒนาศักยภาพอย่างรอบด้าน เพื่อให้ผู้ด้อยโอกาสสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรีและความ เท่าเทียมในสังคม ตลอดจนส่งเสริมศักยภาพของชุมชนชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง ๖. การสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย ให้แก่ผู้ที่มีฐานะยากจนและ ด้อยโอกาสในชุมชนแออัด ตลอดจนผู้มีรายได้น้อยและผู้มีรายได้ปานกลางให้ได้มีที่อยู่อาศัย ๗.การส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในชุมชนท้องถิ่น ส่งเสริมให้ชุมชนท้องถิ่นมีการจัดสวัสดิการชุมชน เพื่อช่วยเหลือดูแลคนด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ยากไร้ และมี “แผนที่ทางสังคม” ซึ่งเป็นระบบข้อมูลกลางทางสังคมเป็นเครื่องมือช่วยติดตามกำกับดูแลในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ
นายสันติ กล่าวอีกว่า พม.เป็นภาคส่วนสำคัญที่จะสร้างสรรค์ พัฒนาและสร้างความเสมอภาคเท่าเทียมในทุกกลุ่ม โดยเฉพาะสตรี ซึ่งในประเทศไทยมีจำนวนกว่า ๓๒ ล้านคน การจัดตั้งกองทุนสตรี จังหวัดละ ๑๐๐ ล้าน จึงเป็นนโยบายใหม่ที่จะช่วยพัฒนาและสร้างเสริมโอกาสให้กับสตรีได้อีกมาก รวมทั้งการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการให้สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข นอกจากนี้ จะสนับสนุนให้ พม.เป็นแกนนำในการจัดทำดัชนีตัวเลขชี้วัดความสุขของประชาชนทั่วประเทศ โดยมีพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทั้ง ๗๗ จังหวัด ดำเนินการและให้มีรายงานออกมาในทุกๆ เดือน เพื่อจะใช้ในการชี้วัดความพึงพอใจของประชาชนในด้านต่างๆ ซึ่งทุกส่วนราชการสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ประกอบในการดำเนินงานและบริหารงานได้ เพื่อให้ประชาชนมีความสุขเพิ่มขึ้น และหากยังบกพร่องในด้านใด รัฐบาลก็จะได้ลงไปแก้ไขได้อย่างตรงจุด.
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit