กรุงเทพฯ--5 ก.ค.--Public Hit
“ตาวิเศษ” สมาคมสร้างสรรค์ไทย จับมือ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง สร้างสรรค์โครงการ ละครเวทีสัญจรโรงเรียน เปิดตัวครั้งแรกที่ มาแตร์เดอีฯ รณรงค์ให้เด็กและเยาวชนตื่นตัวในการรักษ์สิ่งแวดล้อม
ภาพของเด็กนักเรียนตัวน้อยๆ เดินต่อแถวยาวเหยียด มาทิ้งเศษขยะในมือลงในถังแยกขยะที่เตรียมไว้เพื่อนำไปรีไซเคิลในภายหลัง ทำให้ผู้ใหญ่หลายคนมองด้วยความปลาบปลื้มและชื่นชม เพราะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของ โครงการละครเวทีสัญจร เรื่อง “หลักทรัพย์บัวหลวงชวนรีไซเคิลกับตาวิเศษ” ซึ่ง สมาคมสร้างสรรค์ไทย (ตาวิเศษ) องค์กรที่รณรงค์เรื่องสิ่งแวดล้อมให้กับเด็กและเยาวชน ร่วมกับ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) จัดทำขึ้นเพื่อนำมารณรงค์เป็นโครงการเพื่อรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) อบรมพนักงานของ บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง เรื่องการจัดการขยะและจัดทำละครเวทีสัญจรไปยังโรงเรียนต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล
ในงานเปิดตัวโครงการ ละครเวทีสัญจรโรงเรียน ที่จัดขึ้นเมื่อวันก่อน ณ โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช นายกสมาคมสร้างสรรค์ไทย เผยว่าหลังจากที่โครงการตาวิเศษยุติการแสดงละครเพื่อสิ่งแวดล้อมไปหลายปี สมาคมฯ พบว่าเด็กรุ่นใหม่ขาดสื่อสร้างสรรค์ที่ให้ความรู้และการปฏิบัติที่ง่ายและเป็นรูปธรรม จึงวางแผนนำการแสดงละครสร้างสรรค์กลับมาอีกครั้งเพื่อช่วยรณรงค์เรื่องเหล่านี้ นอกจากนี้ยังเป็นการตอบสนองความต้องการของโรงเรียน ผู้ปกครอง ที่ยังคงนึกถึงความสำคัญและประโยชน์ของละครตาวิเศษ ที่ช่วยปลูกฝังเด็กและเยาวชนไทยมาตลอดระยะเวลา 20 ปี
“ที่ผ่านมาโครงการตาวิเศษลดขนาดลง แต่เรายังมีทีมงานทำให้กับองค์กรและบริษัทต่างๆ อยู่เรื่อยๆ ส่วนใหญ่จะไปโรงเรียนที่อยากเข้าโครงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมตามต่างจังหวัดมากกว่า ส่วนที่มาของ โครงการละครเวทีสัญจรโรงเรียน เรื่องหลักทรัพย์บัวหลวงชวนรีไซเคิลกับตาวิเศษ เนื่องจากดิฉันมักจะเจอหนุ่มๆสาวๆ ที่มีลูกเล็กๆ ตามห้าง ตามถนนหนทางต่างๆ เข้ามาพูดคุยว่าตอนเด็กๆ เขาซึมซับเรื่องของตาวิเศษอยู่เรื่อยๆ อยากให้ตาวิเศษมาสอนลูกเขาเรื่องทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทาง เรื่องรีไซเคิล และสิ่งแวดล้อมอีก ดิฉันจึงคุยกับทีมงานว่าจะทำอย่างไรดี เพราะสมัยนี้เราไม่มีทางออกโฆษณาเหมือนสมัยก่อนได้เพราะค่าสื่อแพงมาก จึงน่าจะเข้าไปถึงเด็กๆ เลยโดยทำละครเรื่องนี้ไปแสดงตามโรงเรียนต่างๆ ใช้ความสนุกสนานสอนให้เด็กทำในสิ่งที่ควรจะทำเกี่ยวกับเรื่องการจัดการขยะ ซึ่งรีไซเคิลเป็นเรื่องใกล้ตัว ทุกคนสามารถทำได้ และสื่อไปถึงผู้ปกครองได้”
“ในละครจะมีเพลงดังของนักร้องชื่อดัง อย่าง เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์, บี้ เดอะสตาร์, น้ำชา ชีรณัฐ ฯลฯ เรานำมาใส่ข้อความที่เกี่ยวกับรีไซเคิลเพื่อให้เด็กเพลิดเพลินและจำได้ง่ายขึ้น กลุ่มเป้าหมายของผู้ชมละครของเรามุ่งไปที่เด็กระดับอนุบาล ถึง ป.3 เพราะถ้าโตเกินไป เด็กอาจเบื่อกับสื่อแบบนี้ได้ ส่วนผู้แสดง หลักๆ จะเป็นทีมของสโมสรแอปเปิ้ลยิ้ม และจะมีอาสาสมัครที่เป็นพนักงานหลักทรัพย์บัวหลวงมาร่วมด้วย ซึ่งจะตระเวนไปจัดแสดงสัญจรตามโรงเรียนต่างๆ 40 แห่ง โดยมีกิจกรรมประกอบการชมละครด้วย เช่น ให้นักเรียนนำขยะรีไซเคิลได้มาใช้เป็นบัตรเข้าชมละคร ซึ่งจะขอความร่วมมือให้คุณครูอธิบายให้เด็กๆฟังเบื้องต้นก่อนเข้าชมละคร นอกจากนั้นมีการเล่นเกมส์เกี่ยวกับการแยกขยะ การสอนท่าเต้นประกอบเพลง โดยจัดร่วมกับอาสาสมัครซึ่งเป็นพนักงานของ บมจ. หลักทรัพย์บัวหลวง ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมกับเด็กๆ นอกจากนี้เรายังผลิต CD เพลงจากละคร โปสเตอร์ และคู่มือความรู้ เพื่อมอบให้คุณครูได้นำไปใช้จัดกิจกรรม และให้ความรู้แก่เด็กได้อย่างต่อเนื่องด้วย”
เจ้าของฉายา “เจ้าแม่ตาวิเศษ” กล่าวเสริมว่า ขณะนี้บริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์พยายามผลักดันให้ทุกบริษัททำ CSR สำหรับโครงการละครเวทีสัญจรฯ นอกจากทางสมาคมฯ จะได้รับการสนับสนุนจากหลักทรัพย์บัวหลวงในการสร้างแล้ว ยังได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทุกคนในการเข้ารับการอบรมเรื่องสิ่งแวดล้อม และทางบริษัทฯ เริ่มมีการรีไซเคิลโดยแยกขยะแล้ว รวมทั้งมีอาสาสมัครที่จะออกไปตามโรงเรียนด้วย
พิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง กล่าวว่า เรื่อง CSR เป็นสิ่งสำคัญของพวกเราทุกคน รวมทั้งบริษัททั่วไป และบริษัทจดทะเบียน โครงการละครเวทีสัญจรฯถือเป็นหนึ่งในโครงการที่หลักทรัพย์บัวหลวงกำลังทำอยู่ จะเห็นได้ว่าเมื่อ 20 ปีที่แล้วคนส่วนใหญ่อาจไม่ค่อยสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมเท่าที่ควร ต้องยอมรับว่าคุณหญิงมองการณ์ไกลมาก
“ทุกวันนี้เวลาใครพูดเรื่องสิ่งแวดล้อม ทุกคนจะเห็นด้วยเพราะมันมาถึงพวกเราแล้ว สิ่งที่บริษัทเราได้รับการอบรมไป ต้องค่อยเป็นค่อยไป เพราะการจะให้ทุกคนมีส่วนร่วมต้องใช้เวลา สิ่งที่พวกเรากังวลคือ เรื่องโฟม การจะไม่ใช้โฟมเลยไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งคนทำงานออฟฟิศ มื้อเที่ยงก็ต้องซื้อข้าวใส่กล่องโฟมมากินแล้ว ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมกันเยอะ เรายังแซวกันว่าช่วงปีใหม่คงต้องแจกกล่องข้าวให้พนักงานใช้แทน กล่องโฟมกันดีกว่า แต่เวลานี้เราก็เริ่มแยกทั้งกระดาษที่ใช้แล้วโดยทำกล่องแยกกระดาษไว้ใต้โต๊ะพนักงานทุกคน การที่เรามาทำละครเป็นสิ่งสำคัญเพราะเด็กๆ แค่สอนอย่างเดียวก็เท่านั้น ต้องทำให้เห็น ต้องให้ได้ฟังกับหู สิ่งพวกนี้จะช่วยทำให้เด็กๆ หรือพวกเราเองจำได้แล้วก็ถึงเวลานำไปใช้ได้ครับ”
ส่วน กำธร ศิลาอ่อน รองกรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง ในฐานะคุณพ่อซึ่งมีลูกสาวตัวน้อยเรียนอยู่ที่มาร์แตร์ฯ ถึง 2 คนคือ ชั้นป.5 และ ชั้นป. 1 เผยว่ารู้สึกดีใจมากที่มีกิจกรรมดีๆ แบบนี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนแห่งนี้ นอกเหนือไปจากการปลูกฝังทั้งเรื่องความรู้ และความดีอยู่แล้ว
“เรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม เราก็สอนลูกที่บ้านอยู่แล้ว แต่ก็ดีใจที่มีโครงการนี้อีกจากที่ตอนเด็กๆ ผมเคยได้ซึมซับคำแนะนำของตาวิเศษเข้าไปในยีนของเรา จึงอยากให้ลูกมีโอกาสได้รับการปลูกฝังคุณธรรมอันนี้บ้าง ต้องขอบคุณคุณหญิงชดช้อยซึ่งเป็นคนที่รณรงค์เรื่องนี้มาโดยตลอดครับ” กำธร กล่าว
ทางด้าน ซิสเตอร์กัญญา คุวินทร์พันธุ์ ผู้จัดการโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย กล่าวว่าได้มีโอกาสฟังเพลงที่ทางโครงการละครทำแล้ว เป็นเพลงที่ดีมาก และตรงกับสิ่งที่ทางโรงเรียนกำลังทำอยู่เช่นกัน ทำให้เป็นการตอกย้ำ และเด็กจะจำได้มากกว่าเมื่อร้องเพลง อยากให้เด็กร้องทุกวันในช่วงพัก สิ่งที่นักเรียนกำลังทำกันอยู่ขณะนี้ ได้ส่งผลต่อถึงเจ้าหน้าที่ พนักงานที่โรงเรียนอีกด้วย จากที่แรกๆ ยังทำไม่ค่อยได้ แต่ทุกวันนี้ลงมือทำเองเลย และเห็นผลว่าขยะพวกนี้ สามารถกลับมาเป็นเงินทองที่สนับสนุนชีวิตเขาอยู่ และคิดไว้ว่าจะต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ 100% ให้ได้
หลังจบจากการแถลงข่าวเกี่ยวกับโครงการแล้ว ก็ได้เวลาพบไฮไลท์พิเศษ ของงานคือ ละครเวทีสัญจรรอบปฐมฤกษ์ เรื่อง “หลักทรัพย์บัวหลวงชวนรีไซเคิลกับตาวิเศษ” ซึ่งทุกคนในงานจะได้รับชมก่อนใคร โดยผู้ชมกลุ่มสำคัญคือ น้องๆ นักเรียนมาแตร์ฯ ชั้นอนุบาล ถึง ชั้นป.3 ต้องนำขยะรีไซเคิลคนละชิ้นมาหย่อนในกล่องที่จัดเตรียมไว้ สำหรับเป็นตั๋วในการเข้าชม
ละครเรื่องนี้ มีเนื้อหาข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการจัดการขยะในชีวิตประจำวัน การแยกขยะประเภทแก้ว กระดาษ โลหะ พลาสติก เพื่อนำไปรีไซเคิล และการปฏิเสธภาชนะโฟมใส่อาหาร การสร้างสื่อการเรียนรู้ในรูปแบบละครสร้างสรรค์นี้ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือหลักในการรณรงค์ให้เด็กและเยาวชนเกิดพฤติกรรมในการรักษาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งส่งเสริมให้คุณครู ตลอดจนโรงเรียนต่างๆ เกิดความตื่นตัวและสนใจเข้าร่วมกิจกรรม จะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านข้อมูล และเทคนิคการจัดการเรียนการสอน เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ระหว่างการแสดงละคร น้องๆจะให้ความสนใจ และมีส่วนร่วมในการเล่นด้วย เช่น เมื่อนักแสดงร้องเพลงดังคุ้นหู น้องๆก็ร้องตาม หรือเวลาพี่ถังขยะออกมาตามหาขยะรีไซเคิล น้องๆ ก็ชี้ไม้ชี้มือบอกว่าอยู่ตรงไหน แถมตอนท้ายเรื่องยังช่วยกันตะโกนปฏิเสธการใช้ภาชนะโฟม ซึ่งเป็นขยะที่อยู่เป็นร้อยๆ ปีโดยไม่ย่อยสลาย จนเสียงดังลั่นห้องประชุม ทำให้ทราบว่า น้องๆสามารถรับรู้และเข้าใจในสิ่งที่ต้องการนำเสนอได้เป็นอย่างดี
นก-ภาณุมาศ จิราธิวัฒน์ ดีไซเนอร์สาวสวย ที่มาร่วมเป็นกำลังใจกับการกลับมาของ “ตาวิเศษ” กล่าวว่า ดีใจที่เริ่มมีการปลูกฝังเรื่องสิ่งแวดล้อมให้เด็กๆ อีกครั้ง ตั้งแต่เธอเด็กๆ ก็ได้ยินเพลงตาวิเศษมาตลอด การจะทำสิ่งใดก็แล้วแต่ นอกจากจะเริ่มต้นที่ครอบครัวแล้ว ที่สำคัญคือต้องเป็นที่โรงเรียนด้วย
“จากที่ได้ดูละครเรื่องนี้เห็นว่าการนำเพลงดังๆ มาใส่เนื้อหาเข้าไปใหม่ ถ้าเด็กได้ฟังทุกวันเขาจะได้จำ ขนาดเราดูและฟังแค่รอบเดียวยังฝังใจเลยว่า เราต้องช่วยกันทำตาม 5R และไม่ควรใช้โฟมแล้ว เป็นการปลูกฝังตั้งแต่แรกเลย เนื้อหาของละครสนุกและเข้าใจง่าย เมื่อเด็กๆ ได้ชมแล้วคงกลับบ้านไปบอกคุณพ่อคุณแม่ว่าอย่าใช้โฟม สมัยนี้สิ่งแวดล้อมรอบตัวเราที่เกี่ยวกับธรรมชาติเริ่มลดน้อยลง มีสารพิษเพิ่มมากขึ้น ถึงเวลาแล้วที่เราต้องมาปลูกฝังกันอีกรอบค่ะ”
น้ำ-สลิล ล่ำซำ คุณแม่คนสวย หนึ่งในผู้ชมที่มีโอกาสได้ดูละครก่อนใคร กล่าวว่า ตัวเธอเองผูกพันกับตาวิเศษมาตั้งแต่เด็ก ยังจำเพลงได้จนถึงทุกวันนี้ มีส่วนทำให้เธอสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และคิดทุกครั้งก่อนจะทิ้งขยะว่าควรทิ้งที่ไหน สำหรับละครที่ได้ชมนั้นสนุกมาก เด็กๆให้ความสนใจดี และยังอินกับละครด้วย เห็นได้จากปฏิกิริยาโต้ตอบกับละครที่น่ารักมาก การนำเพลงที่เด็กรู้จักมาใส่ในเนื้อเรื่องทำให้น้องๆ ตั้งใจฟังและรู้สึกมีส่วนร่วมไปกับโครงการนี้ด้วย เนื้อหามีความสนุกสนาน ผู้ใหญ่ดูแล้วก็ชอบเช่นกัน
สำหรับโครงการละครเวทีสัญจรโรงเรียนฯ จะมีระยะเวลาในการตระเวนไปจนถึงเดือนกันยายน 2554 โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ นักเรียนระดับอนุบาล – ระดับประถมศึกษา ในโรงเรียนที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล โรงเรียนละ 300-400 คน จำนวน 40 โรงเรียน รวมแล้วประมาณกว่า 12,000 คน และ พนักงาน บมจ. หลักทรัพย์บัวหลวง จำนวน 300 คน
สิ่งที่เด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับจากละครเวทีสัญจรครั้งนี้ นอกจากความสนุกสนานกับกิจกรรมต่างๆ แล้ว ยังเป็นการปลูกฝังให้เกิดความเข้าใจ และมีจิตสำนึกในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการทิ้งขยะในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่ผู้ใหญ่อย่างพนักงาน บมจ.หลักทรัพย์บัวหลวง ก็สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันเพื่อการรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งในที่ทำงานและที่บ้าน ในขณะที่ บมจ.หลักทรัพย์บัวหลวง ก็นำประโยชน์จากโครงการละครสร้างสรรค์ไปใช้ในการพัฒนางาน CSR ของหน่วยงานได้อย่างเหมาะสม และเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะได้ด้วยเช่นกัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 2525699 Public Hit
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net