Movie Guide: "WUXIA"

13 Jul 2011

กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--สหมงคลฟิล์ม

Wu Xia

ประเภท แอ็คชั่น-กำลังภายใน

คำโปรย -

กำหนดฉาย 2011

บริษัทจัดจำหน่าย มงคลซีเนม่า

อำนวยการสร้าง/กำกับ ปีเตอร์ ชาน (The Warlords, Comrades: Almost a Love Story)

เขียนบท ออเบรย์ แลม (Perhaps Love, The Warlords)

นำแสดง ดอนนี่ เยน (Ip Man 1 & 2, Bodyguards and Assassins)

ทาเคชิ คาเนชิโร่ (Red Cliff I & II, The Warlords)

ถังเหว่ย (Lust, Caution, Crossing Hennessy)

หวังหยู่ (One-Armed Swordsman I-III, Master of the Flying Guillotine)

คำนำ

ปีเตอร์ ชาน คือผู้กำกับที่มีผลงานหนังบล็อคบัสเตอร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Comrades: Almost a Love Story, Perhaps Love หรือ The Warlords ครั้งนี้เขาขอเข้าสู่โลกหนังกำลังภายในเป็นครั้งแรกกับ Wu Xia ที่จะปฏิรูปสไตล์การต่อสู้ใหม่ทั้งหมด ด้วยฉากแอ็คชั่นที่จะดึงคนดูเข้าไปในร่างกายมนุษย์ และสัมผัสถึงความรุนแรงของทุกการโจมตี

ดอนนี่ เยน (Ip Man I & II) แอ็คชั่นสตาร์อันดับหนึ่งของโลกในปัจจุบัน กลับมาร่วมงานกับ ปีเตอร์ ชาน ที่อำนวยการสร้าง Bodyguards and Assassins อีกครั้ง โดยรับบทเป็นอดีตนักฆ่าเลือดเย็น ที่กลับใจเป็นหัวหน้าครอบครัว แต่แล้วอดีตก็ได้ตามมาหลอกหลอนเขา เมื่อนักสืบหนุ่มที่รับบทโดย ทาเคชิ คาเนชิโร่ (House of Flying Daggers, Red Cliff) ตั้งใจที่จะนำคนร้ายไปชดใช้ความผิดให้ได้ แต่ต้องพบว่าคนที่เขาเผชิญหน้านั้นไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา

Wu Xia แปลตามตัวอักษรก็จะหมายความได้ว่า “เกียรติแห่งศิลปะการต่อสู้” ภายใต้วัฒนธรรมของชาวจีน Wu Xia คือความหมายที่แท้จริงของการเป็นวีรบุรุษ ที่ต้องใช้ศิลปะการต่อสู้เพื่อหยุดยั้งสงคราม เขาคือผู้ยึดมั่นในเกียรติ รู้จักผิดชอบชั่วดี และคอยช่วยเหลือผู้เดือดร้อน

เนื้อเรื่อง

เรื่องราวใน Wu Xia เกิดขึ้นช่วงปลายราชวงศ์ชิง เมื่อ หลิวจินซี (ดอนนี่ เยน) ช่างทำกระดาษที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับ อายู (ถังเหว่ย) ภรรยาและลูกชายทั้งสองคนในหมู่บ้านเล็กๆ แต่แล้วการเดินทางมาของผู้ชายคนหนึ่ง ก็ทำให้โลกอันแสนสงบของเขาต้องจบลง ซูไป๋จิ่ว (ทาเคชิ คาเนชิโร่) นักสืบจากเมืองหลวง เดินทางเข้ามาสืบสวนถึงการเสียชีวิตของโจรสองคน ที่ถูกสังหารจากการป้องกันตัวของ หลิวจินซี แต่ด้วยการชันสูตรด้วยวิธีการแบบตะวันตก ซูไป๋จิ่ว ค้นพบว่าทั้งสองไม่ใช่โจรธรรมดา แต่เป็นนักฆ่าที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการต่อสู้... แล้วชาวบ้านทั่วไปอย่าง หลิวจินซี สามารถจัดการนักฆ่ามืออาชีพได้ยังไง?

ด้วยความเป็นคนใฝ่ศึกษาศาสตร์กังฟู ซูไป๋จิ่ว ได้ข้อสรุปว่านี่ไม่ใช่โชคของ หลิวจินซี เขาต้องมีฝีมือในการต่อสู้อย่างแน่นอน การสืบสวนของ ซูไป๋จิ่ว นำเขาโยงไปถึง “72 อสูร” สมาคมนักฆ่าที่โหดเหี้ยมและอันตรายที่สุด ที่สมาชิกแต่ละคนถูกฝึกให้ฆ่าคู่ต่อสู้ โดยเฉพาะ ซือฟู่ (หวังหยู่) หัวหน้าสมาคมนักฆ่า ที่มีเคล็ดลับวิชาที่ทรงพลังในแบบที่ไม่มีใครเทียบได้

แต่ยิ่ง ซูไป๋จิ่ว ขุดค้นอดีตของ หลิวจินซี มากเท่าไร เขาก็ยิ่งสับสนว่า หลิวจินซี พูดความจริงหรือว่ากำลังหลอกเขาอยู่ เพื่อที่จะไขคดีนี้ ซูไป๋จิ่ว ตัดสินใจเข้าทำร้าย หลิวจินซี หวังที่จะให้เขาเผยความลับออกมา แต่ หลิวจินซี กลับนิ่งเฉยและถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ทำให้ ซูไป๋จิ่ว รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำ แต่ก่อนที่เขาจะถอดใจและกลับเมืองหลวง ก็มีหลักฐานสำคัญชิ้นหนึ่งที่ยืนยันว่า แท้จริงแล้ว หลิวจินซี ก็คือ ถังหลง รองหัวหน้าของกลุ่ม 72 อสูร ที่เชี่ยวชาญเรื่องในการสังหารที่สุด วันหนึ่ง ถังหลง รู้สึกเสียใจกับความผิดที่เขาได้ก่อ และตัดสินใจทิ้งความชั่วร้ายเอาไว้เบื้องหลัง

ข่าวคราวเรื่องที่กบดานของ หลิวจินซี ได้ล่วงไปถึงหูของ ซือฟู่ ซึ่งยังทำใจไม่ได้กับการถูกหักหลังโดยคนที่เขารักเหมือนลูก ซือฟู่ ส่งสารไปบอก หลิวจินซี ว่าจะสังหารทุกคนในครอบครัว ถ้าเขาไม่กลับมาอยู่ในสมาคมนักฆ่า โดยในขณะที่ ซูไป๋จิ่ว ซึ่งรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงก็ต้องตัดสินใจว่าจะนำ หลิวจินซี กลับไปรับโทษดีหรือไม่ สามนักฆ่ามือดีที่สุดจากกลุ่ม 72 อสูร ก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านเพื่อนำตัว หลิวจินซี กลับไปเช่นกัน

การต่อสู้ครั้งสุดท้ายจะเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตของทุกคน เมื่อ ซูไป๋จิ่ว ต้องเลือกระหว่างความยุติธรรมหรือศีลธรรม เส้นทางสู่การไถ่บาปของ หลิวจินซี ที่เต็มไปด้วยเลือดจะลงเอยเช่นไร ติดตามกันได้วันที่ 4 สิงหาคมนี้

แนะนำตัวละครหลักใน Wu Xia

หลิวจินซี (รับบทโดย ดอนนี่ เยน)

เขาคือสามี คุณพ่อลูกสอง และช่างทำกระดาษ หลิวจินซี ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในหมู่บ้านเล็กๆ แต่การเดินทางมาของนักสืบหนุ่ม ซูไป๋จิ่ว ทำให้อดีตของเขากลับตามมาหลอกหลอน ในที่สุดทุกอย่างก็ถูกเปิดเผยว่าแท้จริงแล้วเขาคือ ถังหลง รองหัวหน้าของสมาคมนักฆ่า 72 อสูร ผู้ซึ่งมีวิทยายุทธไม่ด้อยไปกว่าใคร ซึ่งสำนึกผิดและหันหลังให้กับวงการนักฆ่า แต่เมื่อตัวตนของเขาถูกเปิดเผย อสูรร้ายที่หลับอยู่ภายในใจของเขาก็ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง

ซูไป๋จิ่ว (รับบทโดย ทาเคชิ คาเนชิโร่)

นักสืบหนุ่มจากเมืองหลวง ถึงแม้ ซูไป๋จิ่ว จะไม่เชี่ยวชาญเรื่องการต่อสู้ แต่เขาก็เป็นผู้สนใจเรื่องวิชากำลังภายใน เขาศึกษาศาสตร์แห่งศิลปะการต่อสู้ทุกแขนง ด้วยความเป็นคนที่มีลางสังหรณ์ ช่างสังเกตุ ช่างจินตนาการ และดื้อรั้น ก็ทำห้เขาค้นพบถึงตัวตนที่แท้จริงของ หลิวจินซี แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เกิดความขัดแย้งในใจว่า ความยุติธรรมหรือการสำนึกผิดนั้น อะไรคือสิ่งที่สำคัญกว่ากัน

อายุ (รับบทโดย ถังเหว่ย)

เธอคือผู้หญิงที่เคยเจ็บปวดจากการถูกสามีทอดทิ้ง แต่เธอก็สามารถลุกขึ้นมาอีกครั้งหลังจากพบกับ หลิวจินซี และตั้งใจที่จะสร้างครอบครัวใหม่อีกครั้ง เธอพบว่า ซูไป๋จิ่ว จะนำอันตรายเข้ามาสู่ตัวเธอและ หลิวจินซี เธอจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาครอบครัวไว้ เพียงแต่เธอไม่เคยล่วงรู้ถึงอดีตอันโหดร้ายของสามีมาก่อน

ซือฟู่ (รับบทโดย หวังหยู่)

ซือฟู่ เป็นผู้รอดจากเผ่าตังกุท ที่ถูกชาวมองโกลทำลายล้าง เขาพยายามรวมรวบพี่น้องร่วมเผ่าพันธุ์ที่เหลือ และก่อตั้งเป็นสมาคมนักฆ่าที่รู้จักกันในนาม “72 อสูร” ที่โหดเหี้ยมและอันตรายที่สุดในวงการ ซือฟู่ ถือว่าสมาชิกทุกคนเป็นลูก และในบรรดาลูก 50 คน หลิวจินซี ก็เป็นคนที่เขาโปรดปรานที่สุด เมื่อ หลิวจินซี หันหลังให้กับ 72 อสูร ซือฟู่ ก็หัวใจสลายและตั้งใจที่จะทำลายเขา

ทีมนักแสดง

ดอนนี่ เยน (รับบทเป็น หลิวจินซี / ผู้กำกับคิวบู๊)

ดอนนี่ เยน กลายเป็นแอ็คชั่นสตาร์ที่มาแรงที่สุดในปัจจุบัน เขาคือนักแสดงที่มีรายได้สูงสุดของประเทศจีนในปีที่ผ่านมา โดยมีรายได้รวมกว่า 200 ล้านหยวน และยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “เจ้าแห่งกังฟูคนใหม่” โดยอาจารย์ผู้ฝึกสอนและเป็นผู้ให้กำเนิดเขาอย่าง หยวนหวู่ปิง ได้พูดถึงตัวดอนนี่ เยน ว่า "สุดท้ายแล้วเมื่อเราว่ากันถึงหนังแอ็คชั่นจากเนื้อแท้ ไม่มีใครทำได้ดีไปกว่า ดอนนี่ เยน"

เขาเติบโตท่ามกลางกลิ่นอายของศิลปะการต่อสู้ โดยพ่อแม่ของเขาเป็นนักศิลปะการต่อสู้ที่มีชื่อเสียง เมื่ออายุ 18 ปี เขาได้รับเชิญไปปักกิ่งเพื่อฝึกฝน และมีโอกาสได้พบกับนักออกแบบฉากต่อสู้ที่มีชื่อเสียงอย่าง หยวนหวู่ปิง ซึ่งก็เป็นผู้เปลี่ยนชีวิตเขา โดย 1 ปีหลังจากที่ได้พบกัน เยน ได้แสดงในหนังเรื่องแรกที่กำกับโดย หยวนหวู่ปิง ชื่อ Drunken Taichi (1988) ก่อนที่จะก้าวไปแจ้งเกิดกับบทผู้ร้ายใน Once Upon A Time In China II (1992) ที่เขาต้องต่อสู้กับ หวงเฟยหง (เจ็ท ลี) ในฉากไคลแม็กซ์ของเรื่อง โดยทั้งสองก็ได้ประชันฝีมือกันอีกครั้งในเรื่อง Hero (2003) ของผู้กำกับ จางอี้โหม่ว ซึ่งได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม

จากนั้น ดอนนี่ เยน โกอินเตอร์ด้วยการแสดงหนังในฮอลลิวู้ดหลายเรื่อง โดยมีผลงานอย่างเช่น Highlander: Endgame (2000), Blade II (2002) และ Shanghai Knights (2003) ซึ่งเขาได้ประชันฝีมือกับเพื่อนเก่าอย่าง เฉินหลง

ดอนนี่ เยน กลับมามีผลงานในบ้านเกิดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น SPL: Sha Po Lang (2005), Dragon Tiger Gate (2006), Flash Point (2007) ที่ทำให้เขาได้รับรางวัลออกแบบการต่อสู้ยอดเยี่ยม จากเวทีการประกวดรางวัลม้าทองคำ และ ฮ่องกง ฟิล์ม อวอร์ดส ก่อนที่ภาพยนตร์เรื่อง Ip Man ที่สร้างมาจากชีวิตของปรมาจารย์มวย ยิปมัน จะกลายเป็นหนังที่ทำเงินสูงสุดในอาชีพนักแสดงของเขา

จากผลงานที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นว่า ดอนนี่ เยน เป็นแอ็คชั่นสตาร์อันดับหนึ่งในปัจจุบัน โดยนอกจากหนังเรื่อง Bodyguards and Assassins “5 พยัคฆ์พิทักษ์ซุนยัดเซน" แล้ว เขาก็ยังมีหนังเรื่อง 14 Blades, Ip Man 2 รวมถึง The Legend of Chen Zhen ที่เข้าฉายในปี 2010 ที่ผ่านมาอีกด้วย

ทาเคชิ คาเนชิโร่ (รับบทเป็น ซูไป๋จิ่ว)

ทาเคชิ คาเนชิโร่ เป็นนักแสดงที่ได้รับความนิยมสูง และมีแฟนๆติดตามผลงานมากที่สุดคนหนึ่งในเอเชีย เขาเกิดบนเกาะไต้หวัน โดยมีพ่อเป็นคนญี่ปุ่น และแม่เป็นคนไต้หวัน เขาแจ้งเกิดการแสดงในภาพยนตร์ของ หว่องการ์ไว เรื่อง Chungking Express (1994) และ Fallen Angels (1995) รวมถึง Sleepless Town (1998) ก็ทำให้ คาเนชิโร่ กลายเป็นนักแสดงที่ถูกต้องการตัวมากที่สุดในเอเชีย คาเนชิโร่ มีผลงานหนังมากมายหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นหนังโรแมนติกใน Anna Magdalena (1998) ของ ชุงมั่นหยี และ Turn Left, Turn Right (2003) ของ ตู้ฉีฟง, หนังแอ็คชั่นอย่าง House of Flying Daggers (2004) ของ จางอี้โหมว และ The Warlords (2007) ของ ปีเตอร์ ชาน, หนังเพลงอย่าง Perhaps Love (2005) จนถึงหนังทริลเลอร์อย่าง Confession of Pain (2006) ของผู้กำกับ แอนดรูว เลา

นอกจากนั้น คาเนชิโร่ ก็ยังมีผลงานหนังญี่ปุ่นอีกด้วย อย่างเช่นหนังแอ็คชั่น-ไซไฟ Returner (2002) และ K-20: The Fiend with Twenty Faces (2008) ของผู้กำกับ ชิมาโกะ ซาโต้ โดยผลงานล่าสุดของ คาเนชิโร่ ก็คือการรับบทเป็น ขงเบ้ง ในมหากาพย์สามก็ก Red Cliff 1 & 2 ของผู้กำกับ จอห์น วู โดยในปีนี้ Wu Xia ก็ถือเป็นหนังเรื่องที่สามที่ คาเนชิโร่ ร่วมงานกับผู้กำกับ ปีเตอร์ ชาน

ถังเหว่ย (รับบทเป็น อายุ)

ถังเหว่ย ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งใน 15 คนที่ฝากผลงานการแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุดในปี 2007 ของหนังสือพิมพ์ นิวยอร์ค ไทมส์ โดยผู้กำกับ อังลี เลือกเธอจากนักแสดงกว่า 10,000 คน ให้เข้ามารับบทเป็นสายลับสาวคู่กับ เหลียงเฉาเหว่ย ในหนังคุณภาพ Lust Caution (2007) ซึ่งทำให้ชื่อของ ถังเหว่ย โด่งดังไปทั่วโลก และได้รับเสียงชื่นชมจากคนดูและนักวิจารณ์

การแสดงของถังเหว่ย จาก Lust Caution ทำให้เธอได้รับรางวัล ม้าทองคำ สาขานักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม และได้รับรางวัล Chopard Trophy จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ครั้งที่ 61 และยังถูกเสนอชื่อเข้าชิงในเทศกาลหนัง และการประกวดระดับนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น BAFTA Awards, Independent Spirit Awards, Chicago Film Critics Association Awards, Asian Film Awards และอื่นๆ

หลังจากความสำเร็จ ถังเหว่ย ก็ตัดสินใจที่จะหยุดพักการแสดงไปนานกว่า 3 ปี จนในที่สุดก็กลับมารับงานแสดงอีกครั้ง โดยในปี 2010 ที่ผ่านมา เธอมีผลงานหนังโรแมนติก-คอมเมดี้จากฮ่องกงเรื่อง Crossing Hennessy โดยแสดงคู่กับ จางเซี๊ยะโหย่ว รวมถึงหนังโรแมนติก-ดราม่าเรื่อง Late Autumn ที่ร่วมแสดงกับ ฮุนบิน นักแสดงชื่อดังของเกาหลีใต้

หวังหยู่ (รับบท ซือฟู่)

หวังหยู่ คือนักแสดงระดับตำนานของวงการหนังเอเชีย เขาได้รับยกย่องว่าเป็นแอ็คชั่นสตาร์คนแรกของฮ่องกง โดยเขาเข้าสังกัด ชอว์ บราเดอร์ ตั้งแต่ปี 1963 และก็ได้รับบทนำในหนังกำลังภายในของผู้กำกับในตำนาน จางเชอะ ที่ทำให้เขามีชื่อเสียงที่สุดอย่าง One Armed Swordsman (1967) ซึ่งเป็นหนังฮ่องกงเรื่องแรกที่ทำรายได้เกิน 1 ล้านเหรียญในยุคนั้น และก็ยังมีภาคต่อออกมาอีก 3 ภาค ผลงานเรื่องต่อมาของ หวังหยู่ ก็มีความคลาสสิกไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น The Chinese Boxer (1970) ที่ หวังหยู่ ทั้งกำกับและแสดงนำ ก็ถือเป็นการเปิดเทรนด์หนังกังฟูยุค 70 และปูทางให้กับแอ็คชั่นสตาร์รุ่นใหม่อย่าง บรูซ ลี หรือ เฉินหลง ด้วยการแสดงมากกว่า 70 เรื่อง หวังหยู่ สร้างสรรค์ผลงานคลาสสิกไว้มากมาย เช่น The Assassin (1967), The Golden Swallow (1968), The Invincible Sword (1972) และ Master of the Flying Guillotine (1976)

หลังจากรับบทเล็กๆจากเรื่อง The Executioner ในปี 1993 หวังหยู่ ก็ตัดสินใจที่จะอำลาวงการ แต่ในที่สุด Wu Xia ก็กลายเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของ หวังหยู่ ในรอบ 13 ปี ที่เขาตัดสินใจกลับมาแสดง และเพื่อทำให้หนังกำลังภายในกลับมาสู่ยุคเฟื่องฟูอีกครั้ง

ฮุ่ยอิงหง (รับบทเป็น ภรรยาของซือฟู่)

ผลงาน >>> A Chinese Tall Story, Infernal Affairs II, Night Corridor, Blood Brothers

หลี่เสี่ยวหยาง (รับบทเป็น ภรรยาของซูไป๋จิ่ว)

ผลงาน >>> Dragon Tiger Gate, Driverless, East Wind Rain

ทีมงานเบื้องหลัง

ปีเตอร์ ชาน (ผู้กำกับ / ผู้อำนวยการสร้าง)

เขาถือเป็นผู้มีอิทธิพลของวงการหนังจีน ที่สร้างชื่อจากการเป็นผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้าง โดยผลงาน 4 เรื่องล่าสุดของเขาทำเงินไปกว่า 600 ล้านหยวนเฉพาะในประเทศจีน ช่วงต้นทศวรรษที่ 90 เขากำกับหนังเรื่องแรกที่ได้ทั้งเงินและกล่องที่ชื่อ Alan and Eric: Between Hello and Goodbye (1991) รวมถึง He’s a Women, She’s a Man (1994) และ Comrades, Almost a Love Story (1997) ที่ได้รับถึง 9 รางวัลจาก Hong Kong Film Awards และยังเป็นหนึ่งในสิบหนังยอดเยี่ยมของ Time Magazine ปี 1997

ในปี 1998 ชาน ได้กำกับหนังฮอลลิวู้ดเรื่องแรก The Love Letter ภายใต้การสร้างของ สตีเว่น สปีลเบิร์ก ก่อนที่เขาจะก่อตั้งสตูดิโอ Applause Pictures ที่ได้อำนวยการสร้างหนังอย่าง Jan Dara (2001), One Fine Spring Day (2001), ไตรภาค The Eye (2002, 2004, 2005), Three (2002) and Three…Extremes (2004), Golden Chicken (2002) และ Golden Chicken 2 (2003)

ผลงานการกำกับเรื่องต่อมาของ ชาน ก็คือหนังมิวสิเคิล Perhaps Love (2005) ที่กลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดประจำปีของจีน ไต้หวัน และฮ่องกง และได้รางวัลรวมกันมากถึง 29 รางวัล ต่อมาเขาได้กำกับ The Warlords (2007) ที่นำแสดงโดย หลิวเต๋อหัว, เจ็ทลี และ ทาเคชิ คาเนชิโร่ ซึ่งทำเงินได้มากกว่า 220 ล้านหยวน และ 40 ล้านเหรียญทั่วทั้งเอเชีย ได้รับ 8 รางวัล Hong Kong Film Awards และ 3 รางวัลม้าทองคำ รวมถึงหนังยอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยม

ในปี 2009 ปีเตอร์ ชาน ได้อำนวยการสร้างเรื่อง Bodyguards and Assassins ของผู้กำกับ เท็ดดี้ เฉิน ซึ่งก็ทำเงินถล่มทลายไปกว่า 300 ล้านหยวน และ 50 ล้านเหรียญทั่วทั้งเอเชีย และยังได้รับ 8 รางวัล Hong Kong Film Awards โดยในปี 2011 ชาน ก็ได้กลับมากำกับหนังแอ็คชั่นที่ชื่อ Wu Xia นำแสดงโดย ดอนนี่ เยน และ ทาเคชิ คาเนชิโร่

ออเบรย์ แลม (ผู้เขียนบท)

ผลงาน >>> Perhaps Love, The Warlords, Who’s the Woman Who’s the Man

หลี่หยูเฟย (ผู้กำกับภาพ)

ผลงาน >>> Infernal Affairs, 2046, Confession of Pain

หยีชุงมั่น (ผู้ออกแบบงานสร้าง)

ผลงาน >>> The Warlords, Curse of the Golden Flower, Perhaps Love, A Chinese Ghost Story

ดอร่า อิง (ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย)

ผลงาน >>> Bodyguards and Assassins, Perhaps Love, An Empress and the Warriors

http://www.youtube.com/watch?v=KLKChBhyDKI

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net