กรุงเทพฯ--5 ต.ค.--กระจกไทยอาซาฮี
มิสเตอร์ โทชิคาซึ อาดาจิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กระจกไทยอาซาฮี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เกือบครึ่งศตวรรษที่พวกเรา กระจกไทยอาซาฮี เป็นผู้นำในการคิดค้นผลิตภัณฑ์กระจกแผ่นเรียบใหม่ๆออกสู่ตลาด สังคมไทยอย่างต่อเนื่อง ภายใต้นโยบายบริษัท Look Beyond – to make the world the brighter place และวันนี้ ก็นับว่าเป็นความสำเร็จอีกขั้นในการคิดค้นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ล่าสุด LAMITAG-E ผลิตโดยคนไทย ใช้วัตถุดิบในประเทศไทย นับเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของพวกเรา กระจกไทยอาซาฮี ที่จะช่วยสร้างสรรสิ่งที่ดีที่สุดสู่สังคมไทย”
LAMITAG-E (ลามิแทค-อี) กระจกนิรภัยลามิเนต แบบ ซอฟโคต โลว อี (Soft Coat Low E Laminated Safety Glass) ที่สุดแห่งนวัตกรรมการผลิตกระจกแผ่นเรียบในเมืองไทย ผลิตโดยนำกระจก 2 แผ่นมายึดติดกันด้วยฟิลม์ PVB ที่มีความเหนียว และทนทานสูง โดยให้กระจกที่อยู่แผ่นใน เป็นกระจกที่เคลือบสารโลว อี ที่มีคุณสมบัติให้แสงสว่างผ่านได้ดี แต่มีค่าสัมประสิทธิ์การส่งผ่านความร้อนจากรังสีอาทิตย์ต่ำ ส่งผลให้สามารถลดปริมาณการใช้จำนวนหลอดไฟ และการใช้ไฟฟ้าเพื่อส่องสว่างบริเวณที่อยู่ใกล้กรอบอาคารลง ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าสำหรับเครื่องปรับอากาศ ด้วยเหตุนี้ LAMITAG-E จึงมีส่วนเป็นอย่างมากในการช่วยประหยัดพลังงาน ลดค่าใช้จ่ายและช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นอกจากนี้แผ่นฟิลม์ PVB ยังช่วยป้องกันรังสียูวี (UV) ได้มากกว่า 99% และยังช่วยลดอันตรายเมื่อกระจกแตก ซึ่งสอดคล้องกับกฏระเบียบข้อบังคับในเรื่องความปลอดภัยของกฎหมายควบคุมอาคาร
มิสเตอร์ มาซาฮิโร ซึจิยะ กรรมการบริหาร บริษัท กระจกไทยอาซาฮี จำกัด (มหาชน)ได้เปิดเผยว่า “สำหรับในปี 2554 นี้บริษัทฯ วางกลยุทธ์การตลาด โดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม บริษัทฯจะไม่สร้างการแข่งขันด้านราคา แต่จะเน้นการสร้างความแตกต่างและมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายของ LAMITAG-E จะเน้นการขายผ่านตัวแทนจำหน่ายกระจกไทยอาซาฮี ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยบริษัทฯจะทำหน้าที่ให้คำปรึกษา และให้ข้อมูลทางเทคนิคต่างๆกับผู้จัดจำหน่าย สถาปนิก ผู้รับเหมาติดตั้ง ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มเป้าหมายเน้น อาคารสำนักงาน, อาคารขนาดใหญ่, คอนโดมิเนียม, บ้านพักอาศัยและอาคารสาธารณะต่างๆ ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเราจะเน้นการขายแบบ made to order เท่านั้น โดยมีราคาที่เหมาะสมสามารถแข่งขันได้........
นอกจากนี้ มิสเตอร์ มาซาฮิโร่ ซึจิยะ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ในปี 2555 ที่จะถึงนี้ บริษัทฯได้ เพิ่มงบการตลาด กว่า 30% เพื่อใช้ในการสื่อสารทางการตลาด ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โฆษณา และประชาสัมพันธ์ผ่านนิตยสารต่างๆ และการจัดสัมมนาให้กับกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้มูลค่าของตลาดกระจกนิรภัยลามิเนต นั้นมีมูลค่าโดยรวมของตลาดอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท ต่อปี ซึ่งเราเชื่อว่า ด้วยคุณสมบัติของกระจกนิรภัยบวกกับความสามารถในการช่วยให้เกิดการใช้พลังงานอย่างประหยัด และความหลากหลายของสีสรร ของ LAMITAG-E จะทำให้เกิดการใช้อย่างกว้างขวาง โดยคาดว่าบริษัทฯจะสามารถ เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้อีกไม่ต่ำกว่า 5-10% ภายในปี 2556 นี้”
สนใจ สอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ตัวแทนจำหน่ายฯใกล้บ้านท่าน หรือที่ฝ่ายการตลาด บริษัท กระจกไทยอาซาฮี จำกัด (มหาชน) โทร 0-2815-5000 ต่อ 1306, 1324
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit