กรุงเทพฯ--18 ต.ค.--มูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข
“The Solo Night No.10 Southern Suite...เสียงจากแดนใต้”
การผสมผสานทางดนตรีระหว่าง ดร.แซ็กฯ กับวงออร์เคสต้าเยาวชนเทศบาลนครยะลา
มูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข
มูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข ร่วมกับ 8 ภาคีเครือข่าย จัดคอนเสิร์ตเสียงจากแดนใต้ “The Solo Night No.10 Southern Suite” นำวง ดร.แซ็กเชมเบอร์ออร์เคสตร้า ร่วมแสดงกับวงออร์เคสตร้าเยาวชนเทศบาลนครยะลา โดยรายได้ทั้งหมดมอบให้เทศบาลนครยะลา เพื่อจัดตั้งโรงเรียนดนตรี
รองศาสตราจารย์ ดร.สุกรี เจริญสุข ผู้ก่อตั้งวง ดร.แซ็กเชมเบอร์ออร์เคสตร้า และประธานมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข เปิดเผยว่า มูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข ร่วมกับเทศบาลนครยะลา บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มูลนิธิไทยคม ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (TK park) และโรงเรียนสอนดนตรีเอื้อมอารีย์ จัดการแสดงคอนเสิร์ตเสียงจากแดนใต้ “The Solo Night No.10 Southern Suite” ขึ้นในวันที่ 25 ตุลาคม 2554 ณ หอแสดงดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยรายได้จากการจัดแสดงทั้งหมดจะมอบให้กับเทศบาลนครยะลา เพื่อจัดตั้งโรงเรียนดนตรี
ซึ่งการจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ ถือเป็นการหยิบยื่นโอกาสให้แก่เยาวชนในภาคใต้ที่มีใจรักในดนตรี เพราะดนตรีคือศิลปะที่มีความไพเราะสามารถเข้าถึงหัวใจของมนุษย์ทุกคนได้อย่างไร้พรมแดน เชื้อชาติ และศาสนา ผ่านบทเพลงพื้นบ้านที่นำมาเรียบเรียงใหม่ และสิ่งเหล่านี้ถือเป็นการยกระดับความเป็นท้องถิ่นนิยมสู่ความเป็นชาตินิยม และนำไปสู่ระดับนานาชาติได้อย่างลงตัว
“ดนตรีเป็นเสน่ห์ที่เราสามารถถ่ายทอดความเจริญงอกงาม ความศิวิไลซ์และความอิ่มเอมสู่คนฟัง ผมเชื่อว่าเวทีนี้จะเป็นพื้นที่ให้กับเยาวชนจากปักษ์ใต้ได้มาโชว์ความสามารถ ขณะที่ปัญหาความไม่สงบสุขในชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ได้เป็นตัวกีดกั้นความสามารถของเยาวชนเลย ซึ่งการที่เราหยิบยื่นโอกาสให้ เขาจะมีความรู้สึกว่า ชีวิตยังมีความหวังและยังมีกำลังใจจากหลายๆ คนที่ส่งผ่านจากเวทีนี้ไปให้เขา ผมเชื่อว่าหัวใจของเด็กทุกคนจะสู้ทันที”
พันตรีประทีป สุพรรณโรจน์ หัวหน้าแผนกดนตรีสากล กองดุริยางค์ทหารบก ผู้อำนวยเพลงและผู้เรียบเรียงเพลงวง ดร.แซ็กเชมเบอร์ ออร์เคสตร้า กล่าวว่า คอนเสิร์ตเสียงจากแดนใต้ “The Solo Night No.10 Southern Suite” ครั้งนี้ เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างวงเทศบาลนครยะลาเยาวชนจากภาคใต้และวงดร.แซ็กเชมเบอร์ ออร์เคสตร้า ที่มีใจรักในเสียงดนตรีเหมือนกัน ซึ่งการเล่นคอนเสิร์ตร่วมกันของทั้งสองวงนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก รองศาสตราจารย์ ดร.สุกรี โดยการแสดงครั้งนี้จะมีการนำบทเพลงพื้นบ้านของภาคใต้มาบรรเลงด้วย
“ผมเชื่อว่าดนตรีจะเป็นสื่อสัมพันธ์และลดความขัดแย้งต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในภาคใต้ได้ เพราะวงออร์เคสตร้าเยาวชนเทศบาลนครยะลา ทุกคนคือต้นกล้าที่จะสานต่องานดนตรี ซึ่งคอนเสิร์ตครั้งนี้มีไฮไลต์ที่น่าสนใจคือการนำเพลงพื้นบ้านภาคใต้มาบรรเลงในรูปแบบของออร์เคสตร้าที่มีกลิ่นอายวัฒนธรรมภาคใต้ คือมีทั้งความบันเทิง ความไพเราะ และความสนุกสนาน เช่น เพลงบุหรงกาก๊า ซัมเป็ง แกแนะอูแด ซึ่งเพลงเหล่านี้หาชมได้ยากมาก จึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้นักดนตรีจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาคมาช่วยกันเป็นสื่อกลางถ่ายทอดอารมณ์เพลง ผ่านเครื่องดนตรีประเภทต่างๆ ผมอยากเชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมชมเพื่อเป็นกำลังใจแก่เยาวชนไทย และขอรับประกันว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้สนุกแน่นอน”
นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา ผู้ก่อตั้งวงออร์เคสตร้าเทศบาลนครยะลา กล่าวว่า วงออร์เคสตร้าเทศบาลนครยะลาก่อตั้งขึ้นเพื่อตอบโจทย์ที่ว่าทำอย่างไรเยาวชนไทยพุทธและไทยมุสลิมจะมีกิจกรรมร่วมกันได้ จึงก่อตั้งวงออร์เคสตร้าขึ้นเพื่อให้ดนตรีเป็นเครื่องกล่อมเกลาและหลอมรวมเยาวชนสองศาสนาเข้าด้วยกัน ทั้งนี้หัวใจหลักของวงออร์เคสตร้าคือการทำงานเป็นทีม เพราะนอกจากแต่ละคนต้องรับผิดชอบการเล่นของตนเองแล้ว ยังต้องรับผิดชอบคนอื่นๆ ในวงด้วย เปรียบเสมือนการอยู่ร่วมกันในสังคมที่ต้องรับผิดชอบต่อตัวเองและผู้อื่น
“คอนเสิร์ตครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของวงออร์เคสตร้าเทศบาลนครยะลา ที่มีโอกาสได้เล่นร่วมกับวงออร์เคสตร้าชั้นนำอย่าง วง ดร.แซ็กเชมเบอร์ออร์เคสตร้า สิ่งสำคัญของคอนเสิร์ตครั้งนี้คือการเปลี่ยนจากสนามรบของเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่เป็นสนามวัฒนธรรม โดยใช้เสียงดนตรีเป็นตัวกล่อมเกลาเยาวชน”
นางสาวธนาภรณ์ เสถียรวารี หรือ แป้ง อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 จากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล หัวหน้าวงดร.แซ็กเชมเบอร์ ออร์เคสตร้า สาวน้อยที่เลือกเล่นไวโอลินเพราะได้รับแรงบันดาลใจมาจากคุณปู่ที่เล่นไวโอลินให้ฟังตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้แป้งหลงเสน่ห์เสียงที่แผ่วพลิ้วใสกังวานของไวโอลินไปโดยไม่รู้ตัว
สำหรับคอนเสิร์ตครั้งนี้ แป้ง กล่าวว่า เป็นผลต่อเนื่องมาจากการจัดค่ายพัฒนาศักยภาพเยาวชนดนตรีที่มูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุขจัดขึ้น โดยนำกลุ่มเยาวชนวงออร์เคสตร้าเยาวชนเทศบาลนครยะลา และเยาวชนวง ดร.แซ็กเชมเบอร์ออร์เคสตร้า มาเข้าค่ายฝึกซ้อมร่วมกันก่อนเล่นคอนเสิร์ตทำให้วงเยาวชนทั้งสองได้มีโอกาสการฝึกฝนและสร้างความรับผิดชอบในการฝึกซ้อมอย่างมีระเบียบแบบแผนมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ทางวงได้มีการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ เพราะคอนเสิร์ตครั้งนี้มีโจทย์ที่ท้าทายมาก เพราะสไตล์เพลงภาคใต้ที่มีจังหวะสนุกสนาน ฉะนั้นผู้เล่นจึงต้องใช้ความรู้สึก และอารมณ์ร่วมใส่เข้าไปในบทเพลงด้วย
“คอนเสิร์ตครั้งนี้ เป็นคอนเสิร์ตที่พิเศษ เพราะได้มีโอกาสร่วมเล่นกับน้องๆ วงยะลาเป็นครั้งแรก โดยเชื่อว่าจะสามารถเล่นร่วมกันได้อย่างเต็มที่ เพราะดนตรีเป็นภาษาสากลที่เชื่อมร้อยคนทุกชาติศาสนาเข้าด้วยกัน หากพูดถึงเสน่ห์ของวงออร์เคสตร้าแล้ว คนส่วนใหญ่จะนึกถึงเพลงคลาสสิค แต่ครั้งนี้ยิ่งพิเศษมากขึ้น เพราะเป็นการนำบทเพลงพื้นบ้านภาคใต้มาบรรเลงในรูปแบบออร์เคสตร้า ทำให้คนฟังได้อรรถรสทางดนตรีอีกรูปแบบหนึ่ง”
เด็กชายวรากุล ศรีนวล หรือ ท็อป อายุ 14 ปี ชั้น ม.3 โรงเรียนคณะราษฎรบำรุงจังหวัดยะลา หนุ่มน้อยผู้ทำหน้าที่ หัวหน้าวงออร์เคสตร้าเยาวชนเทศบาลนครยะลา ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการเล่นดนตรีในวงดุริยางค์ของโรงเรียน และจากความชื่นชอบในเครื่องดนตรีประเภทสายอย่างไวโอลิน ทำให้ ท็อปไม่ลังเลที่จะสมัครเข้าร่วมกับวงออร์เคสตร้าเยาวชนเทศบาลนครยะลา
โดย ท็อป ได้กล่าวถึงความรู้สึกของตนเองหลังได้เข้าร่วมเล่นกับวงออร์เคสตร้าเยาวชนเทศบาลนครยะลา ว่าดนตรีช่วยพัฒนาทักษะในด้านต่างๆ ส่วนการแสดงคอนเสิร์ตครั้งนี้ตนรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะได้ร่วมแสดงกับวงดร.แซ็กเชมเบอร์ ออร์เคสตร้า ถือเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางดนตรีของเยาวชนทั้งสองวง รวมทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้กับเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แสดงความสามารถและพัฒนาทักษะด้านดนตรี รวมทั้งได้พบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตโดยมีดนตรีเป็นตัวเชื่อม
“การเล่นดนตรีทำให้เรามีสมาธิมากขึ้นในการเรียนหนังสือ เพราะตัวโน๊ตแต่ละตัวมีความต่อเนื่องกันไป ซึ่งในวงก็มีการซ้อมอย่างหนัก เพื่อให้คอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นที่น่าประทับใจสำหรับทุกฝ่าย และที่สำคัญ ผมในฐานะเยาวชนจากใต้สุดแห่งสยามรู้สึกดีใจที่ได้ไปแสดงความสามารถในครั้งนี้”
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษสำหรับคอนเสิร์ตครั้งนี้คือ การดึงเอาเสน่ห์ของเพลงพื้นบ้านที่แสดงออกถึงอัตลักษณ์ของภาคใต้มาเป็นตัวชูโรง โดยนักดนตรีจากทั้งสองวงต่างมุ่งมั่นพัฒนาฝีมือ และพร้อมจะสะกดคนฟังด้วยการถ่ายทอดบทเพลงพื้นบ้านภาคใต้ในแบบฉบับของวงออร์เคสตร้าได้อย่างลงตัว
อนึ่งคอนเสิร์ตเสียงจากแดนใต้ “The Solo Night No.10 Southern Suite” จะมีขึ้น ในวันอังคารที่ 25 ตุลาคม 2554 เวลา 19.00 น. ณ หอประชุมวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล บัตรราคา 200 บาททุกที่นั่ง ซื้อบัตรได้ที่ โรงเรียนสอนดนตรีเอื้อมอารีย์ อาคารเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น 19 หรือสำรองที่นั่ง โทร 0-2884-8333-4
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit