หัวเว่ยจับมือเวลเทคกรุ๊ปเดินหน้าลุยตลาดดีไวซ์ไทยการันตีคุณภาพคับแก้วเทียบชั้นแบรนด์ระดับโลก

20 Oct 2011

กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--Theway Communication

หัวเว่ยได้ฤกษ์เดินหน้าลุยทำตลาดดีไวซ์ในไทย ล่าสุดแต่งตั้งเวลเทคกรุ๊ปตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีระดับแนวหน้าของไทยกระจายสินค้าส่งดีลเลอร์ชั้นนำทั่วประเทศ มั่นใจคุณภาพระดับโลกแถมราคาจับต้องได้ ฟันธง.....ตลาดไทยตอบรับคาดกลางปีชื่อติดตลาด นายถู หมิง ผู้อำนวยการ ฝ่ายธุรกิจดีไวซ์ (Device Business) บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2554 หัวเว่ย ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงให้ บริษัท เวลเทคกรุ๊ป จำกัด(WTG) เป็นตัวแทนจัดจำหน่าย หัวเว่ยสมาร์ทดีไวซ์ในประเทศไทย(Huawei Smart Device Distributor) โดย เวลเทคกรุ๊ป ถือเป็นผู้แทนจำหน่ายที่มีประสบการณ์ด้านการจัดจำหน่ายสินค้าไอทีมากว่า 25 ปี และเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอทีอันดับแนวหน้าของไทย

อย่างไรก็ดีสาเหตุที่หัวเว่ยเข้ามาทำตลาดดีไวซ์ในประเทศไทยครั้งนี้เนื่องจากเล็งเห็นว่าตลาดดีไวซ์ไทยเป็นตลาดที่มีความสำคัญและมีการเติบโตอยู่อย่างต่อเนื่อง หลังจากหัวเว่ยเข้ามาทำตลาดอุปกรณ์โครงข่ายโทรคมนาคมในประเทศไทยมากว่า 10 ปี ทั้งนี้หัวเว่ยพร้อมที่จะรับฟังความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย เพื่อพัฒนาและนำเสนอสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตคุณภาพสูง รวมทั้งแอพพลิเคชั่นใหม่ให้ตรงกับความต้องการของตลาดภายใต้สโลแกน “ Let’s Simply Share” นายสุวิทย์ ชัยกิจพัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวลเทคกรุ๊ป จำกัด ( WTG) เปิดเผยว่า บริษัทฯมีเชื่อมั่นในแบรนด์ของหัวเว่ย เนื่องจากเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมที่อยู่เบื้องหลังผู้ประกอบการโทรคมนาคมระดับโลก โดยเครือข่ายโทรคมนาคมในโลก 1 ใน 3 เป็นอุปกรณ์ที่ผลิตจากหัวเว่ย ปีที่ผ่านมาหัวเว่ยรายได้ถึง 10 ล้านล้านเหรียญฯ และปัจจุบันหัวเว่ยได้ก้าวสู่ผู้ผลิตดีไวซ์อันดับ 5 ของโลก ซึ่งเป็นหลักประกันคุณภาพและความน่าเชื่อถือในระดับสากลของหัวเว่ย

อย่างไรก็ดีเบื้องต้น เวลเทคกรุ๊ปจะเป็นตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่แบรนด์หัวเว่ยนำร่องจำนวน 3 รุ่น คือGAGA, IDEOS X3 และ IDEOS X5 ซึ่งเป็นระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ 2.3 และราคาจับต้องได้ทั้งหมด พร้อมทั้งแท็บเลต 1 รุ่น

ทั้งนี้เวลเทคกรุ๊ปจะกระจายดีไวซ์แบรนด์หัวเว่ยทั้ง 4 รุ่นไปยังดีลเลอร์จำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และไอที ในสังกัดทั่วประเทศจำนวนกว่า 1,700 แห่ง ประกอบด้วยดีลเลอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ชั้นนำอาทิ เจมาร์ท ทีจี บิสเทล และดีเลอร์ไอทีชั้นนำ อาทิ บานาน่า และ คอมเซเว่น เป็นต้น ปัจจุบัน WTG มียอดขายสินค้าแบรนด์ต่างๆประมาณ 2-3 หมื่นเครื่องต่อเดือน

“เรามั่นใจว่าสินค้าแบรนด์หัวเว่ยจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพียงแต่ช่วงเริ่มต้นจะต้องให้ผู้บริโภค และดีลเลอร์ได้สัมผัสสินค้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับแบรนด์ แต่เชื่อใช้ระยะเวลาไม่นานนักเพราะสินค้าในแบรนด์หัวเว่ย มีคุณภาพ การใช้งานเสถียร และอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบทำจากวัสดุคุณภาพสูง ที่สำคัญราคายังสามารถจับต้องได้ เพราะกำหนดราคาตามกำลังซื้อของคนไทย”นายสุวิทย์กล่าว นายสุวิทย์กล่าวต่อว่าแม้ปัจจุบันตลาดดีไวซ์ในไทยจะมีการแข่งขันสูงแต่กับมีผู้ผลิตอุปกรณ์ดีไวซ์เพียงไม่กี่รายในตลาด ซึ่งหัวเว่ยมีโอกาสที่จะขยับมาอยู่อันดับแถวหน้าได้ไม่ยากเพราะมีความโดดเด่นด้านคุณภาพและยังสามารถควบคุมราคาได้เป็นอย่างดีเพราะมีต้นทุนในการผลิตต่ำกว่าผู้ประกอบการรายอื่นซึ่งส่วนใหญ่ผลิตและใช้ชิ้นส่วนของหัวเว่ยด้วยเช่นกัน ฉะนั้นเชื่อได้ว่ากลางปีหน้าชื่อเสียงของหัวเว่ยดีไวซ์จะเป็นที่รู้จักอย่างแน่นอน

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net