กรุงศรีกรุ๊ป ทำกำไรสุทธิ 3 พันล้านบาทในไตรมาส 3/2554 มูดี้ส์ประกาศปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน

20 Oct 2011

กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือรายงานผลสำเร็จของการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3/2554 ด้วยกำไรสุทธิ 3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ผลประกอบการของกรุงศรีปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องท่ามกลางสภาวการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังคงผันผวนและวิกฤตอุทกภัยในประเทศ ทั้งนี้ จากความสำเร็จในการสร้างความเติบโตของเครือข่ายธุรกิจและความเป็นผู้นำโดยเฉพาะสินเชื่อและผลิตภัณฑ์เพื่อรายย่อย รวมทั้งความแข็งแกร่งด้านพื้นฐานทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งระดับเงินกองทุนที่สูงและคุณภาพสินทรัพย์ที่เข้มแข็ง มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำได้ปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Bank Financial Strength Rating - BFSR) ของกรุงศรีจาก D เป็น D+ และแนวโน้มมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)

กรุงศรีกรุ๊ป ได้รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3/2554 โดยสรุปสาระสำคัญตามงบการเงินรวม ดังนี้

  • กำไรสุทธิ: จำนวน 3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2553 และเพิ่มขึ้น 0.9% จากไตรมาส 2/2554
  • กำไรจากการดำเนินงาน: จำนวน 6.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2553
  • สินเชื่อที่มีคุณภาพ: เพิ่มขึ้น 97.7 พันล้านบาท หรือ 17.2% เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นไตรมาส 3/2553 และเพิ่มขึ้น 53.6 พันล้านบาท หรือ 8.8% จากยอด ณ สิ้นไตรมาส 4/2553
  • การเติบโตของแหล่งเงิน: ขยายตัวเพิ่มขึ้น 85.9 พันล้านบาท หรือ 12.6% เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นไตรมาส 3/2553 และเพิ่มขึ้น 73.7 พันล้านบาท หรือ 10.6% เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นไตรมาส 4/2553
  • สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs): ลดลงอย่างมากมาอยู่ที่ระดับ 32.7 พันล้านบาท จาก 38.1 พันล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 4/2553 และสำหรับยอดเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวมลดลงจาก 5.5% มาอยู่ที่ 4.3%
  • คุณภาพสินทรัพย์: สัดส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพสูงขึ้นที่ระดับ 99% จาก 89%
  • ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ: แข็งแกร่งที่ระดับ 4.6% ในไตรมาส 3 ของปี 2554

นายมาร์ค อาร์โนลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กรุงศรีกรุ๊ป กล่าวว่า “ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนอย่างมาก และความท้าทายของเศรษฐกิจภายในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา เรายังคงแสดงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาสที่สามนี้จากผลกำไรสุทธิจำนวน 3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน สินเชื่อที่มีคุณภาพเติบโต 8.8% เมื่อเทียบยอด ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2553 ซึ่งมาจากการขยายตัวของทุกธุรกิจ คุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้นโดยสินเชื่อด้อยคุณภาพลดลงอย่างมากมาอยู่ที่ระดับ 32.7 พันล้านบาท จากระดับ 38.1 พันล้านบาท หรือจาก 5.5% มาอยู่ที่ 4.3% ของยอดสินเชื่อรวม ขณะเดียวกันสัดส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพปรับตัวสูงขึ้นจากระดับ 89% สู่ระดับ 99%”

นายมาร์ค อาร์โนลด์ กล่าวถึง การที่กรุงศรีได้รับการปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Bank Financial Strength Rating - BFSR) จากมูดี้ส์ว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่สามนี้ยืนยันถึงระดับความแข็งแกร่งทางการเงินของกรุงศรีที่มูดี้ส์ได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผลการดำเนินงานดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงโครงสร้างการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนความสามารถในการทำกำไรที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับแนวโน้มในไตรมาสที่สี่ของปีนี้ นายมาร์ค อาร์โนลด์ กล่าวว่า “เราเชื่อว่าการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และสินเชื่อยังคงเติบโตไปในทิศทางที่ดีสำหรับช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ ปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจมหภาคของประเทศไทยยังคงแข็งแกร่งแม้ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม และด้วยมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจและความช่วยเหลือจากภาครัฐ เราจะยังคงเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่สี่ ดังนั้น เรามั่นใจว่าสินเชื่อที่มีคุณภาพของกรุงศรีกรุ๊ปตลอดทั้งปียังคงเติบโตตามเป้าหมายที่ 11%”

ณ วันที่ 30 กันยายน 2554 กรุงศรีกรุ๊ปมีสินทรัพย์รวม 914 พันล้านบาท สินเชื่อรวม 697 พันล้านบาท เงินฝากและตั๋วแลกเงินรวม 678 พันล้านบาท ธนาคารมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ที่ระดับ 16.3% โดยเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 (Tier 1) 11.9%