เพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ ชวนคนดี ช่วยคนหล่อ ไปทำดี

20 Oct 2011

กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--แอมเม็กซ์ทีมแอ๊ดเวอร์ไทซิ่ง

เพื่อช่วยให้คุณภาพชีวิตของเด็กนักเรียน โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแม่น้ำน้อย ดีขึ้นเนื่องจากตั้งอยู่ที่ตำบลไทรโยค บริเวณพื้นที่ตะเข็บชายแดนไทย-พม่า จึงทุรกันดาร ประกอบกับเด็กนักเรียนมีฐานะยากจน บางคนโรงเรียนต้องรับมาดูแลเป็นการถาวร เพราะครอบครัวไม่สามารถดูแลได้ นอกจากนี้เด็กนักเรียนบางคนยังประสบปัญหาบ้านอยู่ไกลจากโรงเรียนมาก ทำให้ต้องอาศัยนอนที่โรงเรียนแห่งนี้เลย รวมแล้วมีจำนวนนักเรียนพักที่โรงเรียนถึง 60 คน จากจำนวนนักเรียนทั้งหมด 90 คน

โครงการคนหล่อขอทำดี ของนิตยสารสุดสัปดาห์ จึงอาสาทำกิจกรรมดีๆ ในโรงเรียนดังกล่าว โดยการเดินทางครั้งนี้ บริษัท เบอร์แทรมเคมิคอล (1982) จำกัด ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนคนหล่อ “บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” ทำความดี โดยก่อนการเดินทางไปที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแม่น้ำน้อย ได้มีการจัดกิจกรรมเวิร์คช้อป “เพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ ชวนคนดี ช่วยคนหล่อ ไปทำดี” ระดมจิตอาสากว่า 50 ชีวิต พร้อมด้วยคนหล่อนิสัยดี บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ มาช่วยกันทำสื่อการเรียนการสอนต่างๆ เพื่อมอบแก่นักเรียนในโรงเรียนดังกล่าว พร้อมกันนี้ คุณสุวรรณา เอี่ยมพิกุล ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เบอร์แทรมเคมิคอล (1982) จำกัด ยังได้บริจาคจักรยานจำนวน 50 คัน อุปกรณ์กีฬาต่างๆ อาทิ ชุดแบดมินตัน ลูกฟุตบอล และฮูล่าฮุป…โดยทั้งหมดจะถูกลำเลียงไปกับบอย ปกรณ์ ซึ่งได้เดินทางไปมอบสิ่งของทั้งหมดด้วยตนเอง พร้อมกับคณะคนหล่อขอทำดี

เริ่มต้นกิจกรรมทำความดีด้วยการแบ่งกลุ่มทำสื่อการเรียนการสอน จำนวน 10 กลุ่ม โดยสื่อการเรียนการสอนที่ทำจะเน้นให้ความสนุกควบคู่กับการได้ความรู้ สำหรับเด็กนักเรียนระดับประถม อาทิ เกมจับคู่ผลไม้ไทย เกมจับคู่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จับคู่ Unseen in Thailand และจับคู่สถานที่สำคัญของไทย เกมบิงโกคำศัพท์แสนสนุก และเกมคณิตศาสตร์ บวก-ลบ ซึ่งจิตอาสาแต่ละกลุ่มพกความมุ่งมั่น ตั้งใจ มาเต็มร้อยต่างสามัคคีช่วยกันลงมือทำเพื่อน้อง…

• จากพี่จิตอาสา ถึงน้องๆ โรงเรียนบ้านแม่น้ำน้อย คนหล่อนิสัยดี บอย ปกรณ์ กล่าวถึงความรู้สึกที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้ว่า ผมรู้สึกดีที่มีพี่ๆ น้องๆ รวมถึงแฟนคลับ มาช่วยกันทำสื่อการเรียน การสอนครั้งนี้เพื่อนำไปมอบให้โรงเรียนที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ขาดโอกาส สื่อการเรียนการสอนที่เราช่วยกันทำในวันนี้ก็จะทำให้น้องๆ ได้ความรู้คู่ความสนุก ถือว่าได้มาทำบุญด้วยกันด้วยครับ

นอกจากนี้ตัวแทนจิตอาสา นางสาวปรารถนา สิงห์โนนตาด (เต้ย) อายุ 22 ปี กล่าวว่าส่วนตัวรู้สึกดีใจ ที่ได้ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ได้มาช่วยกันทำสื่อการเรียนการสอน เพื่อให้พี่บอยนำไปมอบให้กับน้องๆ นักเรียนต่อไป ซึ่งเชื่อว่าจะมีประโยชน์กับน้องๆ ทีมของเต้ย ทำแผ่นภาพจับคู่รูปสัตว์ ก็ได้เรียนรู้สัตว์ตัวไหนหน้าตาอย่างไร ชื่ออะไร และภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร เชื่อว่ามีประโยชน์ต่อน้องๆ นส.เรณู เสมสมาน (ปุ้ย) อายุ 31 ปี

“ถ้าเป็นในชีวิตประจำวันปกติก็มัวทำแต่งาน ไม่ค่อยมีเวลาได้ทำกิจกรรมดีๆ เพื่อคนอื่นอย่างนี้ เลยทำให้รู้สึกดีใจที่ได้มาทำกิจกรรมดีๆ ได้บุญ และรู้สึกดี ที่ได้มีส่วนทำสื่อการเรียนการสอนเพื่อเปิดโลกทัศน์ให้กับน้องๆ”

นายสุวิทย์ จารุศรีวรกุล (วิด) อายุ 26 ปี กล่าวแสดงความรู้สึกต่อกิจกรรมครั้งนี้ว่า เป็นการแบ่งปันน้ำใจที่เรามีให้แก่กัน โดยเฉพาะกับเด็กนักเรียนในพื้นที่นอกเขตเมือง ที่ถือการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้เด็กเหล่านั้นเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในสังคม ดังนั้นการร่วมแรงร่วมใจกันทำสื่อการเรียนการสอนในครั้งนี้จึงถือเป็นเรื่องดี และผมรู้สึกดีที่มีภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย

• จากน้องถึงพี่ๆ เด็กชายตรีรัตน์ ศรีสุมา (น้องโจ้) อายุ 10 ขวบ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านแม่น้ำน้อย เป็นนักเรียนที่พักอาศัย-เรียนที่โรงเรียนเนื่องจากแม่นำมาฝากไว้ให้โรงเรียน เพราะต้องเดินทางไปทำงานยังต่างจังหวัด และไม่เหลือญาติที่จะช่วยดูแล กล่าวถึงความรู้สึกว่าดีใจมาก ที่ยังมีพี่ๆ ใจดีคิดถึงตัวเรา และรู้สึกประทับใจที่ร่วมแตะบอลกับพี่บอย

เด็กหญิงดาว เด็กนักเรียนสัญชาติกะเหรี่ยง แต่เนื่องจากเป็นนักเรียนขยันเรียน นิสัยดี จึงได้เป็นประธานนักเรียน อายุ 13 ปี ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พ่อ-แม่เป็นชาวกะเหรี่ยง ประเทศพม่า ได้นำลูกข้ามชายแดนมาฝากให้โรงเรียนเลี้ยงดู จึงเป็นนักเรียนที่พักอาศัย-เรียนที่โรงเรียนฯ กล่าวว่าตนรู้สึกดีใจ ที่มีคนเดินทางมาที่โรงเรียน และยังได้สมุด ปากกา ซึ่งตรงกับความต้องการอย่างมากเพราะไม่มีเงินซื้อ ตนจะใช้เป็นสมุดการบ้าน ส่วนสื่อการเรียนการสอน ตนจะศึกษาให้เข้าใจและจะนำไปช่วยคุณครูสอนน้องๆ ในโรงเรียนต่อไป เพื่อได้ความรู้กันทุกคน

• เปิดใจครูใหญ่ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแม่น้ำน้อย ดาบตำรวจ (ด.ต.) อุรารัตน์ รัตนะ กล่าวถึงปัญหาว่าเด็กนักเรียนส่วนใหญ่จะมาเฉพาะตัว เพราะครอบครัวยากจน ทางโรงเรียนจะจัดหาให้หมดทั้งชุดนักเรียน เสื้อผ้า หนังสือ อุปกรณ์การเรียน รองเท้าซึ่งมักได้มาจากการบริจาคทั้งสิ้น ส่วนเรื่องอาหารการกินทางโรงเรียนต้องใช้การบริหารตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้สามารถดำเนินอยู่ได้เพราะไม่ได้มีงบประมาณจากทางไหน จึงต้องช่วยเหลือตัวเอง เช่น เราจะปลูกผัก เลี้ยงหมู ไก่ ปลาดุก และเพาะเห็ด เพื่อกินเอง เด็กนักเรียนที่นี่มาจากหลากหลายทิศทาง บางคนมาจากชลบุรี สุราษฎร์ธานี หลายคนมาจากตะเข็บชายแดนเป็นกะเหรี่ยง เป็นมอญ พม่า ทวาย ทำให้มีปัญหาพูดภาษาไทยไม่ได้ ก็จะต้องมาเรียนพูดภาษาไทยให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรกแล้วจึงพัฒนาไปเรียนวิชาการอื่นๆ ต่อไป การที่มีหน่วยงานหรือคนเข้าที่โรงเรียนไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมร่วมกันหรือบริจาคสิ่งของก็เป็นกำลังใจให้ครูที่นี่มากแล้วครับ...

เพราะความตั้งใจดีต้องการทำสิ่งดีๆ ร่วมกันในครั้งนี้ของพี่จิตอาสาได้ถูกลำเลียงส่งผ่านถึงน้องๆ เรียบร้อยแล้วถึงไม่ได้เห็นหน้า แต่น้องๆ ก็สัมผัสได้ถึงเจตนารมณ์ของพี่จิตอาสาครั้งนี้ จึงทำให้น้องรู้สึกมีความสุข เป็นความสุขที่มาใจและจะยั่งยืนอยู่ตลอดไป

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net