รมช.คลังให้นโยบายธนาคารอิสลามฯ ออกโครงการ “ยิ้มสู้ฟื้นฟูอาชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัย”

14 Oct 2011

กรุงเทพฯ--14 ต.ค.--ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย

นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มอบนโยบายให้ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จัดทำมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ตามโครงการ “ยิ้มสู้ฟื้นฟูอาชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัย” มี 3 มาตรการช่วยเหลือ เริ่มต้นพักชำระหนี้ใน 3 เดือนแรกสำหรับลูกค้ารายเก่า และสำหรับลูกค้ารายใหม่ปลอดเงินต้นสูงสุด 6 เดือน

วันที่ (14 ตุลาคม 2554) ณ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ดอนเมือง นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าตามที่ได้เกิดเหตุอุทกภัยขึ้นภายในประเทศอย่างฉับพลันเป็นบริเวณกว้าง ส่งผลกระทบให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็น จำนวนมาก ในฐานะที่กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักในการกำกับดูแล ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จึงได้มอบนโยบายในการเร่งหามาตรการเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้อย่างเร่งด่วน และทันท่วงที โดยได้จัดทำโครงการ “ยิ้มสู้ฟื้นฟูอาชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัย” โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้

  • เพื่อต้องการแบ่งเบาภาระและให้การช่วยเหลือประชาชนในการก่อสร้างซ่อมแซม /ต่อเติมที่อยู่อาศัย หรือสถานประกอบธุรกิจ
  • เพื่อเป็นเงินช่วยเหลือในภาวะฉุกเฉิน
  • เพื่อเสริมสภาพคล่องทางธุรกิจ และช่วยเหลือสถานที่ประกอบธุรกิจ ร้านค้า หาบเร่-แผงลอยที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม

โดยเป็นการให้สินเชื่อก่อสร้างซ่อมแซมที่อยู่อาศัย สินเชื่อเพี่อการลงทุนระยะยาว และทุนหมุนเวียน โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ไม่มีการกำหนดวงเงินสูงสุดในการให้สินเชื่อ แต่จะพิจารณาจากมูลค่าความเสียหายจริงเป็นหลัก
  • ระยะเวลาในการผ่อนชำระเริ่มต้นตั้งแต่ 1 ปี – 30 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทของวงเงินสินเชื่อ
  • 3 เดือนแรก ปลอด เงินต้น-กำไร
  • ลูกค้ารายใหม่ปลอดเงินต้น 6 เดือน
  • ระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. 2554 เป็นต้นไป (ยังไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด)

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สาขาของธนาคารทั้ง 80 แห่ง ทั่วประเทศ หรือติดต่อ Call Center 1302

นายวิรุฬ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากภัยพิบัติที่เกิดดังกล่าวซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปีของไทย กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ประเมินว่าผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมคาดว่าจะส่งผลให้ GDP ลดลงร้อยละ 0.7 ทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 54 จะขยายตัวเหลือร้อยละ 3.8 (จากประมาณการเดิมที่ร้อยละ 4.5 ณ มิ.ย. 54)

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในตอนท้ายว่าได้สั่งการให้กรมธนารักษ์เตรียมการใช้ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อรองรับประชาชนและหน่วยงานราชการที่อาจได้รับความเดือดร้อนจาก ภัยน้ำท่วม โดยในเบื้องต้นได้จัดสรรพื้นที่ในบริเวณลานอเนกประสงค์ ฝั่งใต้อาคารรัฐศาสนภักดี เป็นพื้นที่ 4,500 ตารางเมตร รองรับประชาชนได้ประมาณ 1,000 คน และจัดสรรพื้นที่อาคารศูนย์ประชุมเฉลิมพระเกียรติฯ สำหรับรองรับหน่วยงานราชการที่ได้รับผลกระทบได้ใช้เป็นสถานที่ทำงานชั่วคราวซึ่งสามารถรองรับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ได้ประมาณ 800 คน นอกจากนี้แล้วยังได้สั่งการให้เตรียมพื้นที่ที่ราชพัสดุเพื่อรองรับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนเพิ่มเติมอีก โดยมอบหมายให้นายวัฒนา เชาวสกู ที่ปรึกษาด้านพัฒนา-อสังหาริมทรัพย์ กรมธนารักษ์ เป็นผู้อำนวยการให้ความช่วยเหลือ ณ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ โดยสามารถติดต่อประสานงานขอรับความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2143 1444 (20 คู่สาย)

ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย

Call Center 1302

โทร. (02) 650-6999