กรุงเทพฯ--11 ต.ค.--เอไอเอส
นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานลูกค้าองค์กร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “ความตั้งใจของเอไอเอสที่ไม่เคยเปลี่ยนตลอด 21 ปีของการให้บริการคือ เลือกสรรเทคโนโลยีที่ดีที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการขององค์กรและผู้บริโภค เพราะวันนี้โลกกำลังก้าวไปอย่างไม่หยุดยั้ง เทคโนโลยีสื่อสารไร้สายได้ก้าวเข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนและเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการและประสิทธิภาพในการทำงานขององค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างชัดเจน ดังเช่นล่าสุด ที่กองบังคับการปราบปรามในฐานะผู้ริเริ่มโครงการ “ตำรวจผู้รับใช้ชุมชน” และส่วนหนึ่งได้เริ่มนำนวัตกรรมจากเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายของเอไอเอสและ บ.ดิจิตอลโฟกัส พาร์ทเนอร์ เข้ามาเป็นเครื่องมือในการสอดส่อง ตรวจสอบ และแจ้งเตือน ประชาชนได้อย่างทันท่วงที ในชื่อ บริการ “รถสายตรวจอัจฉริยะ” ซึ่งถือเป็น 1 ในหลากหลายบริการจากโครงการ “ตำรวจผู้รับใช้ชุมชน”
“รถสายตรวจอัจฉริยะ” ในทางเทคนิค คือ การติดตั้งกล้องตรวจการขนาดจิ๋วไว้ที่รถตรวจการของกองบังคับการปราบปราม โดยกล้องซึ่งบรรจุซิมการ์ดของเอไอเอส ดังกล่าว จะทำหน้าที่เป็นเสมือนตาทิพย์ที่เฝ้ามองสอดส่องและบันทึกภาพเหตุการณ์รอบๆขณะที่รถตำรวจขับผ่าน ทั้งนี้หากศูนย์บัญชาการต้องการเรียกดูข้อมูลภาพจากจุดใดก็ตาม สามารถส่งคำสั่งให้แสดงภาพการถ่ายทอดสดได้ทันทีผ่านทางเครือข่าย 3G, Wifi และ EDGE Plus ของเอไอเอส รวมไปถึงการเรียกดูภาพย้อนหลังซึ่งสามารถทำได้ด้วยหลักการเดียวกัน บริการนี้นอกจากจะมีการติดตั้งกล้องตรวจการขนาดจิ๋วไว้ที่รถดังกล่าวแล้ว ยังสามารถติดตั้งไว้ที่ตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในขณะที่ออกปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวน อีกด้วย
เอไอเอสเชื่อมั่นว่า บริการ “รถสายตรวจอัจฉริยะ” จะมีส่วนทำให้การดำเนินโครงการ “ตำรวจผู้รับใช้ชุมชน” บรรลุตามวัตถุประสงค์ตามเป้าหมาย ในส่วนของเอไอเอสเองมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนพัฒนาบริการที่จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคม และส่วนรวม ทั้งนี้เราขอมอบความมั่นใจว่า จะเดินหน้าพัฒนาคุณภาพเครือข่ายเพื่อให้สามารถเป็นถนนในการเชื่อมต่อความอุ่นใจให้แก่คนไทย และภาครัฐ ตลอดไป”
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit