SPCG – น้ำไม่ท่วม

21 Oct 2011

กรุงเทพฯ--21 ต.ค.--เอสพีซีจี

ซีอีโอหญิง-SPCG” เผยโครงการ “โซล่าฟาร์ม” 5 แห่ง ไม่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม ระบุพื้นที่ตั้งทั้ง 34 โครงการอยู่พื้นที่ราบสูง-เป็นที่ดอน น้ำท่วมไม่ถึงแน่ แถมถมดินยกระดับพื้นที่โครงการอยู่สูงกว่าระดับถนนประกันปลอดภัยน้ำท่วมไม่ถึง ย้ำวิกฤติอุทกภัยไม่ส่งผลกระทบขายไฟฟ้าให้ กฟภ.พร้อมปลุกสังคมหันมาดูแลสิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานสะอาด ลดก๊าซเรือนกระจก ไม่เพิ่มมลภาวะโลกร้อน น.ส.วันดี กุญชรยาคง ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยในขณะนี้ว่า โครงการโซล่าฟาร์มของบริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) จำนวน 5 โครงการที่ตั้งอยู่ที่ จ.นครราชสีมา 2 แห่ง จ.สกลนคร 1 แห่ง จ.นครพนม 1 แห่ง และ จ.เลย 1 แห่ง ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตอุทกภัยครั้งนี้แต่อย่างใด โดยทั้ง 5 โครงการยังคงสามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ จำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้ตามปกติ ทั้งนี้โครงการของบริษัทฯทุกโครงการที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้กำหนดแผนไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า พื้นที่ตั้งของโครงการทั้งหมดต้องตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เป็นที่ดอน เป็นที่ราบสูง ไม่เคยมีประวัติน้ำท่วม มีการกำหนดขนาดถนนเข้าพื้นที่โครงการ และขนาดถนนภายในโครงการอยู่ถูกต้องตามหลักการ นอกจากนี้ทุกโครงการยังได้มีการปรับถมดินให้มีระดับสูงกว่าถนนตั้งแต่ต้น รวมทั้งมีระบบการระบายน้ำที่ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม น.ส.วันดี กล่าวว่าจากสถานการณ์อุทกภัยที่ประเทศเรากำลังเผชิญปัญหาอยู่เวลานี้ น่าจะเป็นสัญญาณบอกเหตุอย่างหนึ่งว่าปัญหามลภาวะอากาศโลกกำลังเป็นปัญหาอย่างมาก เป็นผลกระทบที่ทุกฝ่ายควรให้ความสำคัญและยกขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อร่วมกันค้นหาวิธีทางแก้ไข หรือบรรเทาไม่ให้มีปัญหาเพิ่มขึ้น ต้องมีวิธีการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ มีการบริหารจัดการแก้มลิงเพื่อรองรับน้ำยามวิกฤติ ส่งเสริมการปลูกป่าเพื่อให้มีพื้นดินอุ้มรองรับน้ำไว้ยามที่ฝนมามาก รวมทั้งต้องช่วยกันลดปัญหาก๊าซเรือนกระจก โดยรณรงค์ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมที่เป็นส่งผลต่อมลภาวะโลก ซึ่งโครงการโซล่าฟาร์มโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า เป็นการใช้พลังงานสะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญช่วยลดปัญหาก๊าซเรือนกระจกที่เป็นปัญหามลภาวะโลก

ทั้งนี้ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) มีแผนก่อสร้างโครงการ “โซล่าฟาร์ม” ผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) ทั้งหมด 34 โครงการ ขนาดกำลังผลิตโครงการละ 6 เมกกะวัตต์ กำลังผลิตรวม 204 เมกกะวัตต์ มูลค่าเต็มโครงการ 24,000 ล้านบาท ให้แล้วเสร็จภายในปี 2556 มีสัญญาจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ทั้ง 34 โครงการ โดยขณะนี้เสร็จแล้ว 5 โครงการ คือ จ.นครราชสีมา 2 แห่ง จ.สกลนคร 1 แห่ง จ.นครพนม 1 แห่ง และ จ.เลย 1 แห่ง และต่อกระแสไฟฟ้าจำหน่ายให้กับ กฟภ.เรียบร้อยแล้ว โดยโครงการได้รับการสนับสนุนหลักจากสถาบันการเงินทั้งภาครัฐ และเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ ประกอบไปด้วย International Finance Corporation (IFC) ภายใต้ World Bank ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารธนชาติ กระทรวงพลังงานโดยมูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม และกลุ่มเคียวเซร่า คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น