กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์
อิมแพ็ค ขานรับนโยบาย สสปน. ที่ต้องการเพิ่มยอดนักเดินทางกลุ่มไมซ์จากต่างประเทศให้ได้ถึง 7.2 แสนรายในปี 2554 เร่งดำเนินการภายใต้ มอก.22000 มาตรฐานระบบการจัดการความปลอดภัยด้านอาหาร พร้อมรับเงินทุนสนับสนุน 50% ของการดำเนินงาน หวังสร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดผู้จัดงานจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น อีกทั้งเป็นเจ้าแรกที่ผ่านการรับรองสำหรับวงการอุตสาหกรรมไมซ์
นายชวนิช สิริสิงหล ผู้อำนวยการ ฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดเผยว่า ด้วยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ในฐานะผู้รับผิดชอบโดยตรงในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยไปสู่เป้าหมายการเพิ่มยอดนักเดินทางกลุ่มไมซ์จากต่างประเทศในปี 2554 ให้ถึง 720,000 ราย จึงมีนโยบายสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาชาติ รวมถึงไม่ให้ไทยเสียโอกาสทางธุรกิจ โดยการให้องค์กรทางด้านไมซ์ดำเนินงานภายใต้มาตรฐานระบบการจัดการความปลอดภัยด้านอาหาร หรือ มอก.22000
อิมแพ็ค เมืองทองธานี นอกจากจะเป็นผู้ให้บริการเช่าพื้นที่สำหรับจัดงานแสดงสินค้า งานประชุม กิจกรรมพิเศษต่างๆ แล้ว ยังเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงการจัดเลี้ยงภายในและนอกสถานที่ภายใต้ชื่อ IMPACT We Do Catering ด้วย จึงได้ประกาศที่จะดำเนินงานด้านอาหารและเครื่องดื่ม ภายใต้มาตรฐานระบบการจัดการความปลอดภัยด้านอาหาร (Food Safety Management System) หรือ มอก.22000 ซึ่งนอกจากการดำเนินตามนโยบายของสสปน.แล้ว อิมแพ็ค ยังตระหนักและให้ความสำคัญในเรื่องนี้ สืบเนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคทั้งไทยและต่างชาติคำนึงถึงความปลอดภัยของอาหารและเครื่องดื่มเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การดำเนินการมีจุดเริ่มต้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทางทีมผู้บริหารของอิมแพ็คได้เข้าหารือและรับมอบนโยบายจาก สสปน. ที่ต้องการจะดึงลูกค้ากลุ่มไมซ์จากต่างประเทศให้เข้ามาไทยมากขึ้น จึงให้ทางอิมแพ็คดำเนินการยื่นขอ มอก.22000 ซึ่งเป็นมาตรฐานระบบการจัดการด้านความปลอดภัยของอาหารที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดให้ลูกค้าจากต่างประเทศเดินทางมาจัดงานและร่วมงานประชุม สัมมนา งานแสดงสินค้า ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานีมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ยอดนักเดินทางกลุ่มไมซ์เข้ามาไทยมากขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้
จากนั้นอิมแพ็คได้ดำเนินการตามขั้นตอนในการยื่นขอการรับรอง มอก.22000 ภายใต้การสนับสนุนเงินทุน 50% ของการดำเนินการจาก สสปน. พร้อมทั้งได้ศึกษาข้อมูลเรื่องกฎหมายการควบคุมวัตถุดิบ เครื่องปรุง เครื่องดื่มต่างๆ ที่ใช้ประกอบขึ้นมาเป็นอาหารในแต่ละเมนู และศึกษาถึงข้อห้ามข้อกำหนดต่างๆ ว่าในแต่ละประเทศมีข้อห้ามเกี่ยวกับวัตถุดิบที่นำมาปรุงอาหารหรือในแต่ละภูมิภาคผู้บริโภคแพ้อาหารหรือวัตถุดิบชนิดใด เป็นต้น รวมถึงการเข้ารับการอบรมและการปฏิบัติตามขั้นตอนของการยื่นขอรับรอง มอก.22000 ตามที่ Q & A Quality and Calibration Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้คำปรึกษาให้คำแนะนำ
กระทั่งต้องดำเนินการตรวจสอบในทุกกระบวนการทางห่วงโซ่อาหาร สำหรับ 3,268 เมนู ทั้งที่เป็นเมนูอาหารไทย นานาชาติ เบเกอรี่ และเครื่องดื่ม ที่อิมแพ็คนำเสนอต่อลูกค้าโดยเริ่มตรวจสอบตั้งแต่การติดตามขั้นตอนการผลิตวัตถุดิบ ส่วนผสม การลำเลียงขนส่ง การจัดเก็บ การปรุง ฯลฯ และให้ความสนใจในทุกองค์ประกอบการปรุงอาหารโดยเฉพาะน้ำ ต้องตรวจสอบถึงที่มา ภาชนะที่บรรจุ ท่อลำเลียงต่างๆ โดยทีมตรวจสอบเฉพาะทางในห้องแล็ป เพื่อทดสอบวัตถุดิบว่ามีสารปนเปื้อนหรือไม่อย่างละเอียดที่สุด
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาในไทยมีโรงงานและโรงแรมที่ทำการยื่นขอและผ่านการรับรอง มอก.22000 ไปบ้างแล้ว แต่สำหรับอิมแพ็คที่อยู่ระหว่างดำเนินการเตรียมความพร้อมก่อนยื่นขอการรับรองในเดือนกันยายน-ตุลาคม มีความมั่นใจและคาดว่าในเร็วๆ นี้ จะได้รับการรับรอง มอก.22000 เป็นรายแรกสำหรับวงการอุตสาหกรรมไมซ์แน่นอน
สื่อมวลชนต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ: ฝ่ายสื่อสารประชาสัมพันธ์ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด จินตนา พงษ์ภักดี โทร:+66 (0) 2833 5061 อีเมล์: [email protected] ชูจิตร ภิรมย์อรรถ โทร:+66 (0) 2833 5073 อีเมล์:[email protected] สุภาพร บุญขาว โทร:+66 (0) 2833 5077 อีเมล์:[email protected]
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit