Sense of Thailand หมู่บ้านไทยในดูไบปี54-55

28 Sep 2011

กรุงเทพฯ--28 ก.ย.--เวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น

เวก้าฯเปิดตัว“หมู่บ้านไทย” เตรียมประชันกว่า30ประเทศทั่วโลกที่ดูไบ1พย54-3มีค.55ไทยสุดฮือฮา แนวคิด “Senses of Thailand” เต็งหนึ่งในงาน “โกลบอลวิเลจดูไบ2011-2012” มหกรรมงานแสดงสินค้าและวัฒนธรรมระดับโลก ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลางกระตุ้นส่งออกเพิ่ม10%เงินสะพัดในงานกว่า100ล้านบาท ดึงนักท่องเที่ยวอาหรับเพิ่มกว่า30%

นายอัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด และกรรมการสภานักธุรกิจไทยในสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ ได้แถลงข่าวเปิดตัว”หมู่บ้านไทยพศ.55”ที่จะอลังการในงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลางคืองานโกลบอลวิลเลจดูไบ2011-2012 ระหว่างวันที่1พฤศจิกายน2554 ถึงวันที่3มีนาคม2555 จัดโดย TECOM Investments ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Dubai Holding งานหมู่บ้านนานาชาติที่ดูไบนี้มีพื้นที่2,465ตารางเมตร เป็นศูนย์รวมของหมู่บ้านนานาชาติกว่า 30ประเทศ โดยมีกลุ่มนักธุรกิจในภูมิภาคตะวันออกกลางGCC (คูเวต การ์ตา บาห์เรน โอมาน สหรัฐอาหรับเอมิเรต และซาอุดีอาระเบีย) ซึ่งมีกำลังซื้อสูงสุด พร้อมเศรษฐีอาหรับ นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกกว่า5 ล้านคนเข้าร่วมเทรดการค้าเจรจาธุรกิจ และเที่ยวชมในงาน หมู่บ้านไทยในปีที่ผ่านมา จัดว่าได้รับความนิยมสูงสุด1ใน5 ของหมู่บ้านนานาชาติที่ดูไบ ด้วยอัธยาศัยไมตรีและน้ำใจไทย ตลอดจนสินค้าที่มีเอกลักษณ์ไทย รสชาติอาหารไทย ผลไม้ไทยที่โลกยกย่อง วัฒนธรรมการละเล่นและการแสดงนาฏศิลป์ที่งดงามอ่อนช้อย ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมประเพณีของไทยซึ่งเป็นมนต์เสน่ห์มัดใจชาวอาหรับเป็นอย่างมาก

นายอัครวุฒิ กล่าวถึงการออกแบบจัดทำบริเวณโซนหมู่บ้านไทยในปีนี้ว่า ใช้แนวคิด “Senses ofThailand” เน้นการแสดงออกถึงเอกลักษณ์ ศิลปวัฒนธรรมและประเพณีไทย ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้แก่ รูป รส กลิ่น เสียงและสัมผัส รวมถึงเน้นจัดแสดงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และวัฒนธรรมไทย 4ภาคของไทยให้ผู้มาชมได้ถ่ายภาพ โดยมีจอภาพขนาดใหญ่โชว์360องศา ซึ่งในปีนี้ได้ปรับขนาดรูปโฉมและกิจกรรมใหม่ ให้ตื่นตาประทับใจมากขึ้นในพื้นที่ 2,465 ตารางเมตรด้วยซุ้มร้านค้าต่างๆที่ตกแต่งสวยงามของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมในหมู่บ้านไทย (Thai Pavilion )ครั้งนี้ซึ่งมีจำนวน115คูหา มีผู้ประกอบการจับจองที่จะเข้าร่วมไปแล้วกว่า 90% จำนวนกว่า 80 บริษัท โดยมีผู้ประกอบการเดิมเข้าร่วมกว่า 50% ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขนาดSMEs ที่ผลิตและจำหน่ายอาหารสำเร็จรูปผลไม้สดและแห้ง สมุนไพร สินค้าสปา เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องประดับ และของตกแต่งบ้าน ตลอดจนสินค้าOTOP ต่างๆ และธุรกิจบริการเช่นนวดสปา นวดแผนไทย ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมตลอดจนท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ฯลฯ สำหรับกลุ่มธุรกิจบริการได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ อาทิการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยโดยคุณปราโมทย์ ทรัพย์เย็น ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานดูไบ จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยผ่านงาน Global Village 2011-2012 ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแบบบูรณาการครอบคลุมทุกภาคส่วนสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวชาวตะวันออกกลางที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยให้สูงขึ้นตามนโยบายที่จะเพิ่มนักท่องเที่ยวชาวอาหรับ

นายอัครวุฒิ ได้กล่าวถึงประวัติการจัดงานโกลบอลวิลเลจดูไบ2011-2012ว่า เริ่มจัดในปีพ.ศ.2539 โดยรัฐบาลดูไบ Economic Department of Dubai ประเทศไทยเข้าร่วมงานครั้งแรกในปีพ.ศ.2542 โดยสถานเอกอัครราชทูตไทย(สอท.)ประจำอบูดาบี้ ด้วยแนวคิด “จตุจักร”มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมประมาณ5คูหา ซึ่งตนได้ร่วมออกบูธครั้งนั้นด้วย ต่อมาในปีพ.ศ.2546 ตนได้ผันตัวเองเป็นผู้จัดหมู่บ้านไทยครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน ได้ดำเนินการปรับปรุงรูปโฉมหมู่บ้านไทยให้มีความเป็นเอกลักษณ์ไทยมากขึ้น สำหรับในแง่การค้าส่งออก นายอัครวุฒิ เล็งเห็นว่า 1.งานแสดงสินค้านี้เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายและระบายสินค้าไปตะวันออกกลาง 2.สามารถขายได้ทั้งค้าปลีกและขายส่ง เพราะงาน Global Village นี้ เปรียบเสมือนเป็นโชว์รูมที่ตั้งไว้แล้ว เอาเวลาที่เหลือไปติดต่อธุรกิจ การเข้าไปอยู่ในสนามหรือตลาดจริงจะทำให้สามารถศึกษาตลาดได้ 3.ตะวันออกกลางสามารถเปิดรับสินค้าได้ หากสินค้ายังไม่มีความพร้อม หรือมีความพร้อมแค่50-60% ช่วยระบายStockสินค้า 4.สามารถใช้เวลาที่อยู่ในงานเรียนรู้โอกาสทางการค้าในแง่มุมต่างๆ และเกิดรายได้หมุนเวียนการเงินมีสภาพคล่อง 5.สามารถติดต่อธุรกิจในช่วงเวลาที่อยู่ สร้างฐานข้อมูลลูกค้าเพิ่มเติมเกิดการส่งออกในระยะกลางและระยะยาว 6.สามารถเผยแพร่จุดเด่น สถานที่ท่องเที่ยวและบริการตลอดจนวัฒนธรรมไทย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวอาหรับและทั่วโลกกว่า5ล้านคน เป็นการส่งเสริมรายได้เข้าประเทศไทยในกลุ่มเป้าหมายอาหรับ

นายอัครวุฒิกล่าวสรุปจากสถิติการจัดทำหมู่บ้านไทยในดูไบ สามารถประเมินได้ว่าในปลายปี54นี้จะกระตุ้นส่งออกเพิ่ม10% และทำรายได้ค้าปลีกในงานเงินสะพัดกว่า100ล้านบาท พร้อมดึงนักท่องเที่ยวอาหรับเพิ่มกว่า30%

บริษัทเวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญตลาดตะวันออกกลาง ดำเนินธุรกิจจัดงานแสดงสินค้าเต็มรูปแบบ และนำผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่และมีคุณภาพทั่วภูมิภาคตะวันออกกลางตั้งแต่พ.ศ.2546 โดยปีนี้เข้าสู่ปีที่8 ได้รับความไว้วางใจจากประเทศเจ้าภาพผู้จัดงานให้เป็นตัวแทนนำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในประเทศต่างๆในอาหรับมากกว่า20งานต่อปี บริษัทเวก้าฯได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้บุกเบิกตลาดใหม่ในตะวันออกกลางรายแรกๆ ที่ภูมิภาคนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรต่างๆให้ความรู้ผู้ประกอบการในการเตรียมตัวและทำตลาดในตะวันออกกลาง จนถึงปัจจุบันที่ประเทศไทยได้เริ่มให้ความสำคัญกับตลาดใหม่เช่นตะวันออกกลาง ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ ประชากร270ล้านคน เป็นผู้มีกำลังซื้อสูง รายได้เฉลี่ยต่อหัวค่อนข้างสูงโดยเฉพาะดูไบซึ่งจัดได้ว่า เป็นจุดแรกที่เริ่มเข้าอาหรับ เป็นตลาดอินเตอร์และเป็นตลาดสำคัญที่สุดในตะวันออกกลาง บ.เวก้าได้เปิดสาขาที่ดูไบ อยู่ที่ Office No. 220, 2nd floor, Al-Ahbabi 2 Building, Al Qusais เป็นจุดสำคัญในดูไบ เพื่อใช้ในการติดต่อประสานงานทั้งในดูไบและประเทศข้างเคียง ได้ร่วมกับสภานักธุรกิจไทยในสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ (Thai Business Council) หรือ TBC ช่วยเหลือนักธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจในดูไบและตะวันออกกลาง พร้อมเตรียมจัดงานThai Exhibition ร่วมกับ Thai Trade Center ที่รัฐ Ras al-Khaimah (RAK) ในสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ โดยจะมีขึ้นหลังจากงาน Global Village Dubai 2011-2012นี้ เนื่องจากหอการค้าของที่นี่ชื่นชอบประเทศไทยและสินค้าบริการจากไทยมาก เชื่อว่าจะเป็นโอกาสทางการค้าสำหรับผู้ประกอบการชาวไทยที่มีศักยภาพ

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net