กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--แบรนด์เอเชีย คอมมิวนิเคชั่น
ต้อนรับฤดูร้อนอันสดใส ลัดดา กรุ๊ป โดยคุณวนิดา อังศุพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ และ ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม โดยคุณสงวนศักดิ์ วงศ์ทวีสินค้า และศุรดา สุวรรณกิจจาการ เชิญเหล่าเซเลบนำโดย คุณสุมณี คุณะเกษม, คุณปรางแก้วและคุณโกวิท ไสวแสนยากร, คุณรัตนา ปิยะวุฒิโรจน์ ,คุณนิภานันท์ ชูพจน์เจริญ , คุณอรสา พัฒนะเมลือง ในการจัดงาน “ อร่อยล้ำ กับ มะม่วงมหาชนก” มะม่วงสายพันธุ์ใหม่หนึ่งเดียวที่ฟ้าประทานให้คนไทยและคนทั่วโลกได้ลิ้มรสหอมอร่อยจากธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร ขณะนี้กำลังได้รับความนิยมในต่างประเทศเป็นอย่างมาก อาทิ ญี่ปุ่น เยอรมนี อังกฤษ เดนมาร์ค เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศส งานนี้จัดที่ชั้น 5 แผนกกูร์เม่ต์ เอ็มโพเรียม ถนนสุขุมวิท เมื่อเร็วๆนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนเกษตรกรไทยและส่งเสริมการบริโภคผลผลิตการเกษตรที่มีคุณภาพมาตรฐาน
คุณวนิดา อังศุพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ ลัดดา กรุ๊ป ในฐานะผู้จัดงานเพื่อสนับสนุนเกษตรกรไทย กล่าวว่า “ ในแต่ละปีประเทศไทยส่งออกมะม่วงมหาชนกไปสู่ตลาดเอเซียและแถบทวีปยุโรป เช่น เยอรมนี, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, ญี่ปุ่น , รัสเซีย ,จีน เป็นต้น จำนวนไม่ต่ำกว่า 200 ตันต่อปี สร้างชื่อเสียงและนำรายได้สู่ประเทศไทย เนื่องจากลักษณะเด่นพิเศษของมะม่วงมหาชนกมีสีผิวสวย สีแดงแก้มแหม่ม เนื้อมาก รสชาติดีและมีกลิ่นหอม การส่งออกมะม่วงมหาชนกมีปริมาณเติบโตมากขึ้น จากความต้องการของต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น ส่งออกในรูปแบบสดและแบบแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำมะม่วง แยมมามาเลด สแน็คชิพ ไอศกรีมเซอร์เบท เค้ก โดนัท พาย ท็อฟฟี่ มะม่วงกวน เจลกึ่งวุ้น กัมมี่แบร์ รวมทั้งการนำเนื้อมะม่วงมหาชนกปั่นละเอียดแช่แข็งสามารถเก็บรักษาไว้ได้นานข้ามปี พร้อมนำมาแปรรูปได้ทันที โดยคุณภาพยังคงสดเหมือนเดิม “
อาจารย์อัชณา ศิริภัทร แห่งเอ.เอส.ฟาร์ม ผู้ผลิตรายใหญ่ที่ได้คุณภาพมาตรฐานส่งออก เล่าถึงชื่อของมะม่วงแสนอร่อยนี้ตั้งขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มะม่วงมหาชนก มีความเป็นมาจากการค้นพบสายพันธุ์ใหม่ครั้งแรกโดยบังเอิญซึ่งเป็นการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างพันธุ์ซันเซ็ทกับพันธุ์หนังกลางวัน ต้นแม่พันธุ์ต้นแรกเกิดจากการเพาะเมล็ดขึ้นที่สวนทิวทองของคุณเดช ทิวทอง เหมือนดังฟ้าประทานมาให้ชาวสวนและคนทั่วโลกได้ลิ้มรสอร่อยเลิศกันต่อมา ผลมีขนาดกลาง ปลายงอนสวยงาม มีเนื้อมาก เมล็ดลีบบาง สดอร่อยและหอมหวาน เมื่อสุกเปลือกมะม่วงมีสีเหลืองทองอร่ามจนถึงสีแดงทั้งผล ผิวละเอียดเรียบเนียน ส่งกลิ่นหอมอวล รสหวานฉ่ำใจ ตักทานได้โดยการผ่าแก้มทั้งสองข้างของเมล็ดออก ด้วยเปลือกที่ธรรมชาติสร้างมาให้หนาจึงทำให้สุกช้าและทนนานกว่ามะม่วงพันธุ์อื่นใด ผลดิบสามารถเก็บได้นานถึง 30-45 วัน ผลห่ามเก็บได้นาน 15-30 วัน และผลสุกเก็บได้นาน 7-15 วัน ผู้สนใจสอบถามติดต่อ เอ.เอส.ฟาร์ม อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี โทร.081-830-2123 www.ladda.com
PR AGENCY : BRAINASIA COMMUNICATION
Tel. 02-911-3282 (5 Auto Lines)
Fax 02-911-3208 Email: [email protected]
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit