เซอร์ฟคอร์ป ร่วมโครงการปิดไฟ 1 ชม. เพื่อลดโลกร้อน (Earth Hour)

01 Apr 2011

กรุงเทพฯ--1 เม.ย.--เซอร์ฟคอร์ป ประเทศไทย

เซอร์ฟคอร์ป ประเทศไทย และเซอร์ฟคอร์ปทั่วโลกว่า 59 สาขา ใน 22 ประเทศ ร่วมสนับสนุนกิจกรรม โครงการปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน ( Earth Hour )

เซอร์ฟคอร์ป ประเทศไทย เป็นผู้นำด้านบริการ ให้เช่าสำนักงาน เช่าพื้นที่สำนักงาน รวมถึงอาคารสำนักงานให้เช่า ถือกำเนิดขึ้นที่ ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ปัจจุบันมีสำนักงานให้เช่าอยู่ทั่วโลก รวมถึงสาขาในประเทศไทย เซอร์ฟคอร์ป บริหารงานโดยทีมงานมากประสบการณ์ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจของลูกค้า เซอร์ฟคอร์ป ไม่เพียงแต่เป็นผู้นำด้านสำนักงานให้เช่า และสำนักงานเสมือนที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก แต่ยังคงปรับปรุงและพัฒนาระบบการให้บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าที่ใช้บริการได้รับประโยชน์และเกิดความพึงพอใจอย่างสูงสุด

เมื่อวันที่ 26 มีนาคมนี้ ทางเซอร์ฟคอร์ปได้ร่วมสนับสนุน กิจกรรมโครงการปิดไฟ 1 ชม. เพื่อลดโลกร้อน (Earth Hour) ซึ่งกิจกรรมนี้ถือกำเนิดขึ้นที่ ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ในปี 2007 ซึ่งในปีนั้น กว่า 2 ล้านครัวเรือน และอีกกว่า 2000 บริษัท ได้ร่วมกัน ปิดไฟ 1 ชม โดยวัตถุประสงค์เพื่อช่วย ลดปัญหาโลกร้อนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และในปีนี้ถือเป็นปีที่ 5 ของ โครงการนี้ และ เป็นปีที่ 5 เช่นเดียวกันของเซอร์ฟคอร์ปที่ได้ร่วมโครงการในครั้งนี้ เพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกและตระหนักถึงภาวะโลกร้อน ให้คนหันมาสนใจรักษ์สิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น ทางเซอร์ฟคอร์ป ได้ขอความร่วมมือจากลูกค้าของบริษัทฯ ไม่เพียงแต่ในประเทศไทย แต่เป็นสำนักงานเช่าต่าง ๆ ของเซอร์ฟคอร์ปที่มีสาขาใน 59 เมือง 22 ประเทศจากทั่วโลก ให้พร้อมใจกันปิดไฟในสำนักงานให้เช่าตลอดทั้งชั้นเป็นเวลา 1 ชม. เริ่มจาก 2 ทุ่มครึ่ง ของวันเสาร์ที่ 26 มีนาคมนี้

นอกจากกิจกรรมดังกล่าวแล้ว ทางเซอร์ฟคอร์ป ประเทศไทย ยังคงทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เข้าร่วม งานแฟรนไชส์ เอ็กโป 2011 ซึ่งจัดขึ้นที่ อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี เพื่อนำเสนอบริการและศักยภาพของเซอร์ฟคอร์ปที่เหนือกว่าคู่แข่งโดยเฉพาะในด้านไอที อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเข้าชมงานได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ของทางเซอร์ฟคอร์ปที่พร้อมที่จะให้ข้อมูลในด้านสำนักงานให้เช่า และการบริการอื่น ๆ อีกมากมาย

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit