จัดกิจกรรมแข่งขันงีบหลับ ครั้งแรกในประเทศไทย

18 Apr 2011

กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--ดิอายส์ดีท์

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ ประธานกรรมการทุนง่วงอย่าขับ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ มูลนิธิรามาธิบดี ร่วมกับทีมงานวิจัยและพัฒนาเรื่องวัดระดับการงีบหลับ มหาวิทยาลัยมหิดลและนายแวงซอง มินาร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โททาล ออยล์ (ประเทศไทย) จำกัด สนับสนุนกระเป๋ากันง่วง...ลดอุบัติเหตุ “ ได้จัดกิจกรรม การแข่งขันงีบหลับ” จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 5-7 เมษายน เวลา 12.00-15.00 น. ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1 โซนเอเทรี่ยม

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อรณรงค์ให้ภาครัฐและประชาชนเห็นความสำคัญของการนอนหลับ เนื่องจากปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่นอนหลับไม่เพียงพอ จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างพบว่า ร้อยละ 40 นอนหลับไม่ถึงวันละ 7-8 ชั่วโมง ส่งผลเสียต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ทั้งการเรียนหนังสือและการทำงานด้อยประสิทธิภาพ โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถยนต์ที่อดนอนมีโอกาสที่จะหลับในและประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ดังนั้นจึงขอแนะนำผู้นอนไม่เพียงพอเริ่มงีบหลับเป็นระยะเวลา 10-15 นาทีช่วงหลังอาหารกลางวัน เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเพียงพอและตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าและพร้อมที่จะทำงานต่อได้ทันที

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ ประธานกรรมการทุนง่วงอย่าขับ กล่าวว่า เพื่อเป็นการรณรงค์ “ป้องกันการหลับในในขณะที่ขับรถ. การงีบหลังหลังอาหารกลางวันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสมอง เพิ่มความสามารถและลดความผิดพลาดในการทำงาน ช่วยลดอุบัติเหตุระหว่างปฏิบัติงานอันตราย ป้องกันหลับในขณะขับรถ ช่วยให้อารมณ์แจ่มใส ลดความหงุดหงิดและคลายความเครียด นอกจากนี้ การงีบหลับยังช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดอีกด้วย

กติกาการแข่งขัน

แข่งครั้งละ 3 คน โดยแบ่งเป็น 8 รอบ ๆ ละ 20 นาที ผู้เข้าแข่งขันงีบหลับเข้าถึงระยะที่ 2 ได้เร็วที่สุด เป็นผู้ชนะ ตรวจสอบว่าหลับจริงและหลับเข้าสู่ระยะที่ 2 โดยใช้เครื่องตรวจคลื่นสมอง จากภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ (Biomedical engineering) มหาวิทยาลัยมหิดลนำมาตรวจวัดสัญญาณสมองที่บ่งบอกถึงระดับการงีบหลับได้อย่างแม่นยำและตรงตามมาตรฐานการนอนหลับในทางการแพทย์ในแต่ละรอบของการนอนแบ่งออกเป็น 5 ระยะ เริ่มต้นด้วยระยะที่ 1 ครึ่งหลับครึ่งตื่น ระยะที่ 2 หลับตื้น ระยะที่ 3-4 หลับลึก และระยะสุดท้ายเป็นช่วงฝัน โดยทุก 1 รอบมี 90 นาที ถ้าหากนอน 7-8 ชั่วโมงก็จะหมุนเวียนประมาณ 5 รอบ สำหรับผู้นอนไม่เพียงพอให้งีบหลับจนเข้าสู่ระยะที่ 2 หลับตื้น เมื่อตื่นขึ้นจากช่วงที่หลับตื้นก็จะทำให้รู้สึกสดชื่น ไม่รู้สึกง่วงหรืออยากนอนต่อ การงีบหลับเมื่อเข้าสู่ระยะที่ 2 หลับตื้นเป็นเวลา 10-15 นาที จึงจะเป็นการงีบหลับที่เพียงพอ ได้ประโยชน์เต็มที่ แตกต่างจากการนอนเข้าสู่ภาวะหลับลึกระยะที่ 3-4 ถ้าหากปลุกให้ตื่นขึ้นก็จะรู้สึกมึนงง งัวเงีย และใช้เวลานานหลายนาทีกว่าจะกลับเข้าสู่สภาพปกติ

ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ ม.มหิดล ที่ปรึกษาทีมวิจัยสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ ระดับที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการงีบพักผ่อนหลังรับประทานอาหารกลางวันคือ ระยะที่ 2 หลับตื้น จากการใช้เครื่องมือนี้ทดสอบกับนักศึกษา 30 คน ผลปรากฏว่า ผู้ที่ตื่นจากการงีบหลับจนถึงระยะที่ 2 จะทำให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่าและหายง่วงทันที นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังสามารถส่งเสียงปลุกผู้ใช้ให้ตื่นขึ้นโดยอัตโนมัติ"

บริษัท โททาล ออยล์ (ประเทศไทย) จำกัด มีความห่วงใยในเรื่องการเกิดอุบัติเหตุของประชาชนโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตลอดทุกๆ ปี จากกิจกรรมการแข่งขันดังกล่าวเป็นยุทธศาสตร์สังคมที่สำคัญ เพราะจะช่วยให้เกิดการสำนึกถึงความปลอดภัยในการเดินทาง กระตุ้นเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมี สติในการขับรถ หากเกิดอาการง่วง ไม่ควรขับรถเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ทางบริษัท โททาล ออยล์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดแผนกิจกรรม ROAD SHOW “มีระยะความถี่ในการจัดทุกเดือนตั้งแต่ธันวาคม 2553 – ธันวาคม 2554 ภายใต้การรณรงค์ “โครงการถนนปลอดภัย 77 จังหวัดทั่วไทย “ การรณรงค์ความปลอดภัยที่เข้าถึงแก่ผู้ใช้เส้นทางให้มีความรู้ต่อเนื่องเท่าทันสถานการณ์ในทิศทางเดียวกัน จะส่งผลให้อุบัติเหตุลดลงทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว

กระเป๋ากันง่วง...ลดอุบัติเหตุ แจกให้แก่ผู้เข้าแข่งขัน และผู้เข้าร่วมงาน วันที่ 5-7 เมษายน 25545 เวลา 12.00-15.00 น. ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1 โซนเอเทรี่ยม

Public Relations Head Office : For more information, please contact: The Eye D Co.,Ltd.( บริษัท ดิอายส์ดีท์ จำกัด )

คุณสิริกิติยา ทัศนวิสุทธิ์ / Group Chief Operating Project ทีมงานประชาสัมพันธ์ : คุณนันทิยา รอดอยู่ , คุณศิริเพ็ญ บัวเกตุ

Tel : 02-728-1732 ,02-728-7372 Fax : 02-728-0540

E-mail : [email protected]

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net