กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงว่า กระทรวงการคลังอยู่ในระหว่างการเตรียมการออกพันธบัตร Inflation-Linked Bond (I LB) รุ่นอายุ 10 ปี วงเงินประมาณ 20,000 – 40,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554 ในการนี้ กระทรวงการคลังได้คัดเลือกให้ธนาคารฮ่องกงและเซียงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยมี ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ที่มีฐานลูกค้าและสาขาทั่วประเทศเข้าร่วมเป็นผู้แทนจำหน่ายเพิ ่มเติม เพื่อทำหน้าที่จำหน่าย ILB พร้อมทั้งให้ความรู้แก่นักลงทุนในประเทศเป็นหลักและเป็นหน่วยงานในการกระจาย ILB ไปสู่ผู้ออมรายย่อย
โดยประโยชน์ที่จะได้รับจากการออก ILB มีดังนี้
1. การร่วมมือทางด้านนโยบายระหว่างกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยในการติดตามดูแลอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยในปี 2554 ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะขยายตัวสูงถึงร้อยละ 3.4 จึงเป็นโอกาสดีที่กระทรวงการคลังจะออกพันธบัต รที่มีผลตอบแทนแปรผันตามเงินเฟ้อ เพื่อให้นักลงทุนสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของเงินเฟ้อได้
2. การขยายฐานนักลงทุน โดยการพัฒนาเครื่องมือการลงทุนและบริหารความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับเงินเฟ้อ ซึ่งจากผลสำรวจความต้องการลงทุน พบว่ากลุ่มนักลงทุนในประเทศที่มีความต้องการลงทุนใน ILB สูง ได้แก่ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กลุ่มบริษัทประกันชีวิต และธนาคารพาณิชย์ นอกจากนั้น กลุ่มนักลงทุนต่างชาติยังให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้จัดการกองทุน (Fund managers) ของกองทุนต่างชาติที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ของกลุ่มประเทศใน Emerging Market ที่มีความมั่นคงสูง และ
3. การพัฒนาตลาดตราสารหนี้ ซึ่งกระทรวงการคลังมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องและมีเป้าหมายที่จะยกระดับตลาดตราสารหนี้ในประเทศให้ก้าวไปสู่การเป็นตลาดชั้นแนวหน้า โดยการออก ILB จะทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกใน Emerging Market ที่สามารถออก ILB ได้สำเร็จ และในอนาคตกระทรวงการคลังมีแผนที่จะออก ILB อย่างต่อเนื่องทุกปี โดยอาจมีการปรับรุ่นอายุให้หลากหลายต่อไป อนึ่ง ตลาดตราสารหนี้ที่มีเสถียรภาพจะสามารถรองรับความต้องการลงทุนของภาครัฐและเอกชน ลอดจนเป็นแหล่งเงินออมที่สำคัญของประเทศ
สำนักพัฒนาตลาดตราสารหนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ โทร. 02-265-8050 ต่อ 5806, 5807 www.pdmo.mof.go.th