สกู๊ปสัมภาษณ์พิเศษ ดร.เอ้-นนทวัชร์ อนันท์พรจินดา กับการทำธุรกิจ SME

28 Feb 2011

กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--วีม คอมมูนิเคชั่น

“กำไรน้อยไม่น้อย กำไรมากไม่มาก”

แง่คิดการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จของ ดร. เอ้ นนทวัชร์

คงจะไม่ผิดถ้าจะบอกว่า...ปัจจุบันกระแส SMEs กำลังมาแรงและเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจาก SMEs เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ใช้เงินลงทุนไม่สูงนัก ในขณะเดียวกันกระแสของคนที่เบื่อการทำงานประจำ แล้วออกมาทำเริ่มทำธุรกิจเล็กๆแล้วประสบความสำเร็จก็มากขึ้น จึงดึงดูดให้คนต่างสนใจหาธุรกิจทำกันมากขึ้นนั่นเอง ประกอบกับ SMEs ได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งในเรื่องเงินลงทุน ไปจนถึงช่องทางการจัดจำหน่ายที่ช่วยกระจายสินค้าได้ทั่วถึงผู้บริโภคก็มีหลากหลายรูปแบบมากขึ้นทั้งการขายเอง และขายตรง หรือผ่านระบบเครือข่ายสนับสนุนนั่งเอง ปัจจัยเหล่านี้ช่วยสนับสนุนให้การทำธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ๆ หรือที่พึ่งจะเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ มีโอกาสจะประสบความสำเร็จได้มากขึ้น

อีกบุคคลหนึ่ง ที่สามารถยืนยันความสำเร็จของการเป็นเจ้าของกิจการด้วยตัวเอง นอกจากงานประจำคือ การเป็นดารา นักแสดง พิธีกร ผู้ประกาศข่าว และคณบดีหนุ่มไฟแรง ของคณะนิเทศน์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยปมุทธานี ที่เราคุ้นเคยกันในชื่อของ “ดร.เอ้-นนทวัชร์ อนันท์พรจินดา” ผู้ชายมากความสามารถ ซึ่งล่าสุดได้รับรางวัล SMEs ยอดเยี่ยม จากบทบาทผู้บริหารใหญ่ บริษัท เอ็ม เฮิร์บ โปรดักท์ จำกัด กับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ครบวงจร ภายใต้แบรนด์ For us by Mherb

“เราทำธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องการดูแลผิวหน้าและผิวกายมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 ซึ่งก็มีการทดลองตลาดและการขายด้วยตัวเอง ในเบื้องต้นก็มียอดขายอยู่บ้าง แต่หลังจากนั้นราวๆ ปี พ.ศ.2550 ก็มีโอกาสได้พูดคุยกับทาง 7-Catalog ซึ่งเป็นเครือข่ายการขายสินค้าขายแบบตรงที่มีเครือข่ายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพราะอย่างที่รู้กันว่าเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นร้านสะดวกซื้อที่มีมากกว่า 5,800 สาขาทั่วประเทศ และเป็นที่รู้จักในทุกระดับชนชั้น ในขณะเดียวกันก็มีช่องทางการขายในแบบแคตตาล็อก ระบบออนไลน์ ไปจนถึงการสั่งซื้อทางโทรศัพท์ด้วย ดังนั้นทำให้โอกาสในการขายสินค้าที่เรามองว่าเป็นธุรกิจเล็กๆ แต่สามารถกระจายผลิตภัณฑ์ได้ทั่วประเทศผ่านเครือข่ายดังกล่าว”

ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม เฮิร์บ โปรดักท์ จำกัด กล่าวเสริมว่า หลังจากที่มีโอกาสร่วมงานกับทาง 7-Catalog เป็นปีที่ 3 และกำลังจะเข้าสู่ปีที่ 4 อย่างต่อเนื่อง สินค้าที่ขายส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์การดูแลผิวหน้าครบวงจร Q10 Skin care Cream ซึ่งเป็นสินค้าที่ขายดีมาก อาทิ 7 มิราเคิลโกล์ดเซรั่ม ที่มีความพิเศษตรงที่ได้ร่วมกันพัฒนาร่วมกันกับทีมงานกับเซเว่นแค๊ตตาล็อกด้วย เราดึงเอา 7 ความมหัศจรรญ์จากธรรมชาติ เพื่อปกป้องดูแลผิวหน้าจาก 11 ปัญหาหลักในการดูแลผิวหน้าของสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ โดยแผนการตลาดเสริมเราได้ใช้ “ตอง-ภัครมัย” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ส่วนการขายก็ผ่านช่องทางของ 7-Catalog ทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางแห่งโอกาสในการนำมาซึ่งจังหวะของการประกอบธุรกิจที่จะเติบโตต่อไปในอนาคตได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ธุรกิจของบริษัท เอ็ม เฮิร์บ โปรดักท์ จำกัด ยังได้รับการสนับสนุนจาก กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม, สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. กระทรวงพาณิชย์ และทรัพย์สินทางปัญญา ที่ผนึกกำลังร่วมกันผลักดันในฐานะผลิตภัณฑ์ไทย ที่ผสมผสานส่วนผสมของความเป็นไทย ผลิตในประเทศไทย แล้วก็ทำเพื่อดูแลคนไทยโดยเฉพาะ ซึ่งตอบโจทย์ของคนที่ต้องการดูแลผิวภัณฑ์ได้อย่างครบวงจรเลยในราคาที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้ ส่งผลให้ยอดขายของ ผลิตภัณฑ์ 7-มิราเคิล ในปีที่ผ่านมา ก็ก้าวเข้าสู่แถวหน้าของผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกัน ความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในฐานะผู้ประกอบการรายเล็กๆ รายหนึ่ง ที่สามารถขายผ่านช่องทางของ 7-Catalog จนสินค้าติดอันดับเบสเซลเลอร์ ทำให้เราได้รับรางวัล SMEs ยอดเยี่ยมในส่วนของ 7-catalog ในปีที่ผ่านมา มาครองอีกด้วย

“สำหรับในปีนี้ ซึ่งเป็นปีฉลองครบรอบ 10 ปี 7-Catalog ด้วย นับว่าเป็นช่องทางทางการตลาดที่ดี อีกหนึ่งช่องทาง สำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่ต้องการทำธุรกิจอย่างจริงจัง เพราะจริง ๆ แล้วผู้ประกอบการไทยต้องบอกว่าสิ่งที่ต้องการทีสุดคือโอกาส และช่องทางการตลาด การเติมเต็มซึ่งกันและกัน ระหว่างสินค้าที่มีคุณภาพ กับช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ มันก็เป็นการต่อยอดอย่างแท้จริง มีคนสอนผมว่า “กำไรน้อยไม่น้อย กำไรมากไม่มาก” จากการขายที่อาจไม่ได้กำไรเยอะ เพราะเราขายในราคาที่ไม่แพง แต่คุณภาพของค่อนข้างพรีเมี่ยม ถึงกำไรน้อยต่อชิ้น แต่สินค้าขายได้ปริมาณมาก ทำให้เดือนๆ หนึ่ง เราต้องผลิตออกมาเป็นหมื่น ๆ ชิ้น เพื่อที่จะรองรับให้พอกับความต้องการของลูกค้าซึ่งอยู่ทั่วทุกภูมิภาคนั่นเอง” เอ้ นนทวัชร์ กล่าว

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit